สูเราะฮฺยาซีนเป็นสูเราะฮ์หนึ่งของคัมภีร์อัลกุรอาน
เป็นสูเราะฮฺมักกียะฮฺ สูเราะฮฺที่ 36 มีทั้งหมด 83 อายะฮฺ ซึ่งมุสลิมในบ้านเรานิยมนำสูเราะฮฺยาซีนมาอ่านในพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา
เช่น พิธีขึ้นบ้านใหม่ พิธียกเสาเอก
พิธีอิซ๊กุโบร์ พิธีทำบุญบ้านคนตาย
หรือจะเป็นการอ่านสูเราฮฺยาซีนให้แก่ผู้ที่ป่วยหนักใกล้ตาย หรือหลังจากเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม
ทั้งยังมีการอ่านสูเราะฮฺยาซีนเป็นประจำในคืนวันศุกร์อีกด้วย
โดยเข้าใจว่าพิธีกรรมต่างๆที่ปฏิบัติสืบต่อกนมานั้นเป็นแบบฉบับของท่านรสูลุลลอฮฺ
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม
สำหรับการอ่าน
การท่องจำ และการนำสิ่งที่อยู่ในอัลกุรอานนั้นอันรวมถึงสูเราะฮฺยาซีนมาปฏิบัติอย่างเคร่งคลัด
ไม่ว่าอายะฮฺใด หรือสูเราะฮฺใดของอัลกุรอาน เป็นสิ่งจำเป็นต่อมุสลิมทุกคน
ดั่งเช่นบรรดาเศาะหาบะฮฺ และชนรุ่นก่อนกระทำกันมา
ซึ่งท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม
ได้กล่าวเอาไว้ว่าผู้ที่อ่าน 1
ตัวอักษรจากคัมภีร์อัลกุรอาน ผู้นั้นพระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา จะตอบแทน 1 ความดี ซึ่ง 1 ความดี เท่ากับ 10 ความดี
ดังหะดิษที่รายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ บุตรของมัสอูด เล่าว่า
“บุคคลใดที่อ่านหนึ่งตัวอักษรจากคัมภีร์อัลกุรอาน สำหรับเขาจะได้หนึ่งความดี ซึ่งหนึ่งความดีเท่ากับสิบความดี ฉันไม่ได้กล่าวว่า อลิฟลามมีม หนึ่งตัวอักษร แต่ทว่า อลิฟ (เท่ากับ) หนึ่งตัวอักษร ลาม หนึ่งตัวอักษร และมีม หนึ่ง อักษร” (บันทึกหะดิษโดยติรฺมีซีย์ หะดิษเลขที่ 2835)
ดังนั้นมุสลิมคนใดอ่านเพียง
1 อักษร จากสูเราะฮฺยาซีน
เขาผู้นั้น พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา จะตอบแทน 1 ความดี และ 1 ความดี เท่ากับ 10 ความดี
เหมือนอย่างที่เขาอ่านอักษรหนึ่งอักษรใดในสูเราะฮฺอื่นๆ ของคัมภีร์อัลกุรอาน
แต่สำหรับการนำสูเราะฮฺยาซีนมาอ่านเป็นหมู่คณะหรือปัจเจกชน
เป็นการเฉพาะเจาะจงเวลา และสถานที่เป็นพิธีกรรมต่างๆ
หรือนำมาอ้างอิงเป็นหลักฐานถึงผลบุญหรือความประเสริฐของการอ่านสูเราะฮ์ยาซีนนั้น จำต้องอาศัยหลักฐานจากอัลกุรอาน
หรือหะดิษที่เศาะเฮียะฮฺ จึงจะนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงเป็นบทบัญญัติศาสนาได้
แต่จากการตรวจสอบหะดิษที่กล่าวถึงผลบุญมากมายหรือความประเสร็ฐของการอ่านสูเราะฮฺยาซีนของนักวิชาการศาสนา กลับไม่พบหะดิษที่เศาะเฮียะฮฺที่กล่าวถึงเรื่องนี้สักบทเดียว แต่กลับเป็นหะดิษที่มีสถานะเฎาะอิฟและเมาฎัวอฺทั้งสิ้น ซึ่งขอนำเสนอหะดิษที่กล่าวถึงผลบุญหรือความประเสร็ฐของการอ่านสูเราะฮฺยาซีนพร้อมสถานะและสาเหตุ ดังจะกล่าวต่อไปนี้
แต่จากการตรวจสอบหะดิษที่กล่าวถึงผลบุญมากมายหรือความประเสร็ฐของการอ่านสูเราะฮฺยาซีนของนักวิชาการศาสนา กลับไม่พบหะดิษที่เศาะเฮียะฮฺที่กล่าวถึงเรื่องนี้สักบทเดียว แต่กลับเป็นหะดิษที่มีสถานะเฎาะอิฟและเมาฎัวอฺทั้งสิ้น ซึ่งขอนำเสนอหะดิษที่กล่าวถึงผลบุญหรือความประเสร็ฐของการอ่านสูเราะฮฺยาซีนพร้อมสถานะและสาเหตุ ดังจะกล่าวต่อไปนี้
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
<º))))><.<º))))><.<º))))><.<º))))><.<º))))><.<º))))><.<º))))><.<º))))><.<º))))><.<º))))><.
“ทุกๆสิ่งมีหัวใจ
และหัวใจของอัลกุรอานคือสูเราะฮฺยาซีน และบุคคลใดที่อ่านสูเราะฮฺยาซีน
พระองค์อัลลอฮฺทรงบันทึกการอ่านสูเราะฮฺยาซีนของเขาเท่ากับการอ่านอัลกุรอาน(ทั้งเล่ม)
ถึง 10
จบด้วยกัน”
(บันทึกโดยติรมีซีย์ หะดิษที่ 2812
และอัดดาริมีย์ หะดิษที่ 3282)
>***สถานะของหะดิษ...เมาฎัวอฺ...<
{หนังสือ
เฎาะอีฟุสุนะนิตติรฺมีซีย์ หน้า 343-344 หะดิษที่ 543 }
มีสาเหตุดังนี้
-นักรายงานหะดิษที่ชื่อฮารูน
มีชื่อรองว่า อบู มุหัมมัด เป็นตาบิอีน รุ่นอาวุโส
เป็นบุคคลที่มัจญ์ฮูล(นักรายงานหะดิษผู้นั้นไม่ถูกรู้จักตัวตนหรือบุคลิกภาพ
หรือรู้จักบุคลิกภาพของเขา แต่ไม่รู้จักนิสัยใจคอของเขา)
-นักรายงานหะดิษที่ชื่ออัลหะซัน
บุตรของศอลิหฺเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ มีความร็ และเป็นนักอิบาดะฮฺ แต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชีอะฮฺ(หนังสือ
ตักรีบุตตะฮฺซีบ หน้า569)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดที่เข้าที่เข้ากุบูรฺ
จากนั้นเขาอ่านสูเราะฮฺยาซีน โทษทัณฑ์ของชาวกุบูรฺจะถูกลดหย่อนลงในวันนั้น
และสำหรับเขา จะได้รับความดีงามเท่ากับจำนวนของผู้ตายที่อยู่ในกุบูรฺ” (บันทึกหะดิษโดยษะอฺละบีย์)
>***สถานะของหะดิษ...เมาฎัวอฺ...<
{หนังสือสิลสิละตุล
อะหาดีษิฎเฎาะอีฟะฮฺ วัลเมาฎูอะฮฺ เล่ม 3 หน้า 397-398
}
มีสาเหตุดังนี้
-นักรายงานหะดิษนี้ที่ชื่ออับยูบ
อบู บุตรของมุดร็อก ท่านอิบนุ มะอีน กล่าวว่า เขาเป็นจอมโกหก
-นักรายงานหะดิษนี้ที่ชื่อ
อบูอุบัยดะฮฺ ท่านอิบนุ มะอีนกล่าวว่า เขาเป็นบุคคลที่ไม่ถูกรู้จัก
-นักรายงานหะดิษนี้ที่ชื่ออะหฺมัด อัรฺเราะยาฮีย์ ชื่อเต็ม คือ
อะหฺมัด บุตร ของยะซีด บุตรของยะซีด บุตรของดีนารฺ ท่านบัยหะกีย์กล่าวว่า
เขาเป็นบุคคลที่ไม่ถูกรู้จัก
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดที่ไปเยี่ยมกุบูรฺพ่อแม่ของเขาทุกๆวันศุกร์
จากนั้นเขาก็อ่านยาซีนให้แก่บุคคลทั้งสอง หรือ บุคคลหนึ่งจากทั้งสองเช่นนั้น
เขาจะได้รับการอภัยโทษเท่ากับทุกๆอายะฮฺ หรือทุกๆตัวอักษร(ของสูเราะฮิยาซีน)”
>***สถานะของหะดิษ...เมาฎัวอฺ...<
{หนังสือสิลสิละตุล
อะหาดีษิฎเฎาะอีฟะฮฺ วัลเมาฎูอะฮฺ เล่ม 1 หน้า 66-67
}
มีสาเหตุดังนี้
-นักรายงานหะดิษนี้ที่ชื่อยะฮฺยา
บุตรของสุลัยม์ อัฎฎออิฟีย์ เป็นคนพูดจริง แต่เขาเป็นบุคคลที่มีความจำไม่ดี
-นักรายงานหะดิษนี้ที่ชื่อฮิชาม
บุตรของอุรฺวะฮฺ บุตรของอุรฺวะฮฺบุตรของซุบัยร์ บุตรของอัลเอาวาม อัลอะสะดีย์
เป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ และเป็นบุคคลที่เข้าใจศาสนา แต่บางครั้งก็ปิดบังอำพลาง
(หนังสือตักรีบุตตะฮฺซีบ หน้า 597 และ 573)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดที่อ่านสูเราะฮฺยาซีนหนึ่งจบ
ประหนึ่งเขาอ่านอัลกุรอานครบ 10 จบ”
(บันทึกหะดิษโดยบัยหะกีย์ หะดิษที่ 2459)
>***สถานะของหะดิษ...เมาฎัวอฺ...<
{หนังสือเฎาะอีฟุล
ญามิอฺ หน้า 883 หะดิษเลขที่ 5786 }
มีสาเหตุดังนี้
-อิสมาอีล
บุตรของอัยยาช ผู้รายงานหะดิษนี้ มีชื่อรองว่า อบู อุตบะฮฺ เขาสิ้นชีวิตใน ฮ.ศ.ที่81 หรือ 82 เขาเป็นบุคคลเชื่อถือได้
ในเรื่องการรายงานหะดิษเฉพาะที่เป็นชาวเมืองของเขาเท่านั้น(เมืองชาม)
ส่วนอื่นจากชาวเมืองของเขานั้น เขามักนำหะดิษมาปะปนผสมปนเป
-อบู
หาติม กล่าวว่า ท่านอิสมาอีล บุตรของอัยยาช
เป็นผู้ท่องจำที่เชื่อถือได้ในเรื่องหะดิษ ทว่าขณะช่วงอาวุโส
เขามักจะเปลี่ยนสิ่งที่ได้ท่องจำมา
อย่างนำสายรายงานหะดิษบทหนึ่งไปรวมอยู่กับสายรายงานของหะดิษอีกบทหนึ่ง หรือนำตัวบทหนึ่งไปรวมกับของหะดิษอีกบทหนึ่ง..
(หนังสือตักรีบุต ตะฮฺซีบ หน้า 109)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
"บุคคลใดที่ได้ยินสูเราะฮฺยาซีน
เขาจะได้รับเท่ากับ 20
ดีนารฺในหนทางของอัลลอฮฺ บุคคลใดอ่านสูเราะฮฺยาซีน
เขาจะได้รับเท่ากับการประกอบพิธีหัจญ์จำนวน 20 ครั้ง บุคคลใดเขียนและดื่มจาก(ร่องรอยการเขียน)สูเราะฮฺยาซีน
ความเชื่อมั่น(ยะกีน) จำนวน 1,000 รัศมีจำนวน
1,000 ความจำเริญจำนวน 1,000 ความเมตตาจำนวน 1,000 และริสกีจำนวน 1,000 จะเข้าสู่ภายในท้องของเขา
ทุกๆความชั่วร้าย และทุกๆโรคจะหมดไปจากตัวเขา” (อิบนุ เญาซีย์ นำมาจากรายงานของอัล
เคาะฏีบ ในหนังสือตารีค บัฆดาด”
>***สถานะของหะดิษ...เมาฎัวอฺ...<
มีสาเหตุดังนี้
-นักรายงานที่รายงานหะดิษนี้
ที่ชื่ออิสมาอีล บุตรของยะห์ยา บุตรของอุบัยดุลลอฮฺ หรืออบู ยะหฺยา อัตตีมีย์
ซึ่งท่านอบู อลีย์ อัล หาฟิซกล่าวว่า เขาเป็นจอมโกหก ท่านอัดดารุกฏนีย์กล่าวว่า
เขาเป็นจอมโกหก และบุคคลที่ถูกละทิ้ง(มัตรูก)
{หนังสือกิตาบุลเมาฎูอาต เล่ม 1 หน้า 403)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดที่อ่านสูเราะฮฺยาซีน
1
จบ ประหนึ่งว่าเขาอ่านอัลกุรอานครบ 2 จบ” บันทึกหะดิษโดยบัยหะกีย์)
>***สถานะของหะดิษ...เมาฎัวอฺ...<
(หนังสือเฎาะอีฟุล ญามิอฺ หน้า 835 หะดิษเลขที่ 5789 และหนังสือ อัลกัชฟุลอิลาฮีย์ เล่ม 1 หน้า 822)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดที่อ่านสูเราะยาซีนให้แก่ผู้ใกล้จะสิ้นชีวิต
พระองค์อัลลอฮฺจะทำให้ความง่ายดายขระวิญญาณออกจากร่างกายของเขา”
>***สถานะของหะดิษ...เฎาะอิฟ...<
(หนังสือเฎาะอีฟ ชื่อ อัตตันซียะฮฺ เล่ม 1 หน้า 303)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดทีหัวใจเขาแข็งกระด้าง
เช่นนั้น เขาจงเขียนสูเราะฮฺยาซีน และอัลกุรอานภายในแก้วน้ำด้วยหญ้าฝรั่น
จากนั้นให้เขาดื่มจากแก้วนั้น” (บันทึกหะดิษโดยหากิม หะดิษเลขที่ 3603 และบัยหะกีย์ หะดิษที่ 2468)
>***สถานะของหะดิษ...เฎาะอิฟ...<
(หนัวสืออัลมุชตะฮิรฺ
เล่ม 1 หน้า
25)
มีสาเหตุดังนี้
-ท่านหาติมกล่าวว่า
ท่านหะซัน บุตรของหะซัน อัลอะเราะนีย์ผู้รายงานหะดิษนี้ เป็นบุคคลที่พุดไม่จริง
และเขายังเป็นผู้นำของลัทธิชีอะฮฺด้วย
-ท่นอิบนุ
อะดีย์กล่าวว่า หะดิษนี้ ไม่ส่อเค้าว่าจะคล้ายหะดิษที่เชื่อถือได้
-ผู้ทีกล่าวหะดิษข้างต้นไม่ใช่ท่านรสูลุลลอฮฺ
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม แต่เป็นคำพูดของท่านมุหัมมัด บุตรของอาลีย์
บุตรของอัลหุซัยน์ บุตรของอาลีย์ บุตรของอบูฏอลิบ เป็นบุคคลเชื่อถือได้
สถานะเป็นตาบิอีน
-หะดิษสิ้นสุดที่ตาบิอีน เรียกว่าหะดิษมักฏูอฺ ซึ่งไม่อนุญาตให้นำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงในด้านตัวบทบัญญัติศาสนา”(หนังสือตัยสีร มุศเฏาะละหิลหะดิษ หน้า 133)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดที่อ่านสูเราะฮฺยาซีนเพื่อแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮฺ
พระองค์อัลลอฮฺทรงอภัยโทษความผิดของเขาที่เกิดขึ้นในอดีต ดังนั้น
พวกท่านจงอ่านสูเราะฮฺยาซีนให่แก่ผู้ใกล้จะตายของพวกท่านเถิด” (บันทึกโดยบัยหะกีย์ หะดิษเลขที่ 2458)
>***สถานะของหะดิษ...เฎาะอิฟ...<
(หนัวสือเฎาะอีฟุล
ญามิอฺ หน้า 834 )
มีสาเหตุดังนี้
-หะดิษบทนี้ ถือเป็นหะดิษมุงเกาะฏิอฺ คือหะดิษที่ผู้รายงานคนหนึ่งในสายรายงานช่วงก่อนหน้าขาดหายไปจากสายรายงงานเพียงแห่งเดียว
กล่าวคือ
ท่านสุลัยมานซึ่งเป็นบิดาของท่านอัลมุอฺตะมิรฺได้ยินหะดิษข้างต้นจากชายคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร
ทั้งที่เขาเป็นบุคคลที่ได้รับหะดิษดังกล่าวจากท่านมะอฺกิลซึ่งเป็นเศาะหาบะฮฺ
เมื่อไม่รู้ว่าชายผู้นั้นเป็นใครจึงทำให้การรายงานหะดิษขาดช่วงไป
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
รายงานจากท่านอิบนุ
มัสอู๊ดเล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“บุคคลใดที่อ่านสูเราะฮฺยาซีนในคืนหนึ่ง
ครั้นรุ่งเช้าสำหรับเขาถูกอภัยโทษ” (บันทึกโดยอบูนุอัยม์)
>***สถานะของหะดิษ...เฎาะอิฟ...<
(หนัวสือเฎาะอีฟุล ญามิอฺ หน้า 835 , หนังสืออัตตะอักกุบาตร
โดยอิมามสุยูฏีย์ เล่ม 1 หน้า
8 และหนังสือ
ตัรตีบุลเมาฎูอาต โดยอิมามอัซซะฮะบีย์ เล่ม 1 หน้า 146)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“บุคคลใดที่อ่านสูเราะฮฺยาซีนในคืนหนึ่ง
ครั้นรุ่งเช้า สำหรับเขาจถูกอภัยโทษ และบุคคลใดที่อ่านสูเราะดุคอนในคืนวันศุกร์
ครั้นรุ่งเช้าสำหรับเขาจะถูกอภัยโทษเช่นกัน” (อิบนุเญาซีย์ นำมาจากรายงานของอิบนุ
อบูดาวูด ในหนังสือฟะฎออิลุลกุรอาน)
>***สถานะของหะดิษ...เฎาะอิฟ...<
(หนัวสือเฎาะอีฟุล
ญามิอฺ หน้า 834 )
มีสาเหตุดังนี้
-นักรายงานหะดิษที่รายงานหะดิษนี้
ที่ชื่อ มุหัมมัด บุตรของวะกะรียา เป็นชาวเมืองอัลบัศเราะฮฺ เขาเป็นนักเล่านิยาย
ท่านดารุกุฏนีย์กล่าวว่า หะดิษที่เขารายงานไม่ถุกยอมรับ
(หนังสือ กิตาบุลเมาฎูอาต เล่ม 1 หน้า 402-403)
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º> ><((((º>
“พวกท่านจงอ่านสูเราะฮฺยาซีนให้แก่บุคคลที่ใกล้จะสิ้นชีวิตเถิด” (บันทึกโดยอบูดาวูด หะดิษเลขที่ 2714
อะหฺมัด หะดิษที่ 19427 และอิบนุมาญะฮฺ หะดิษที่ 1438)
>***สถานะของหะดิษ...เฎาะอิฟ...<
มีสาเหตุดังนี้
-นักรายงานที่เป็นบิดาของอบูอุษมาน
ที่รายงานหะดิษนี้
เป็นบุคคลที่ไม่ปรากฏชื่อในตำราเกี่ยวกับนักรายงานหะดิษเล่มใดเลย (มัจญ์ฮูล)
-สายรายงานหะดิษสับสน
ซึ่งหะดิษข้างต้นที่บันทึกโดยอะหฺมัดกล่าวว่า “ท่านอุษมานรายงานหะดิษจากบิดาของเขา
และบิดาของเขาได้รับรายงานจากท่านมะอฺกิล บุตรของยะสารฺ” แต่บางกระแสกลับมีรายงานว่า “ท่านอุษมานได้รับรายงานหะดิษจากท่านมะอฺกิล
บุตรยะสารฺ โดยไม่ได้ระบุว่าได้รับรายงานมาจากบิดาของเขาเช่นกระแสแรก”
-หะดิษที่บันทึกโดยอบูดาวูด
เป็นหะดิษมุงเกาะฏิอฺ
คือหะดิษที่ผู้รายงานคนหนึ่งในสายรายงานช่วงก่อนหน้าขาดหายไปจากสายรายงานเพียงแห่งเดียว
คือท่านอุษมานได้ยินจากชายคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครทั้งที่เขาเป็นบุคคลที่จะต้องรับหะดิษจากท่านมะอฺกิลซึ่งเป็นเศะหาบะฮฺ
ทำให้การรายงานขาดช่วงไป
-ท่านดารุฏนีย์กล่าวว่า
“สายสืบหะดิษข้างต้นถือว่าเฎาะอิฟ
ตัวบทหะดิษไม่ชัดเจน
และหะดิษที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไม่พบว่าถูกต้องเลยแม้แต่บทเดียว”
(หนังสือ เฎาะอีฟุสุนะนิอบีดาวูด หน้า316 หะดาเลขที่ 683 และหนังสือ เฎาะอีฟุลญามิอฺ หน้า 151 หะดิษที่ 1072)
≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦
≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦ ≧▽≦
จึงสรุปได้ว่าหะดิษที่กล่าวถึงผลบุญหรือความประเสร็ฐของการอ่านยาซีน
มีสถานะเฎาะอิฟและเมาฎัวอฺทั้งสิ้น ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงมาเป็นบทบัญญัติศาสนาได้
ไม่ว่าการอ่านสูเราะฮฺยาซีนโดยอ้างว่าจะได้รับผลบุญเท่านั้นเท่านี้ การอ่านสูเราะฮฺยาซีนในพิธีกรรมต่างๆ อย่างอ่านในวันแต่งงาน งานศพ อะกีเกาะฮฺ เป็นต้น
และการอ่านสูเราะฮฺยาซีนเป็นหมู่คณะญะมาอะฮฺ อย่างอ่านหลังละหมาดฟัรฎู
ค่ำคืนนิศฟุชะบาน หรือค่ำ 27
ของเดือนรอมาฎอนก็ตาม โดยอ้างหลักฐานหะดิษที่มีสถานะเฎาะอิฟ หรือเมาฎัวอฺข้างต้น ถือเป็นการสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาในศาสนาโดยไม่มีแบบฉบับจากท่านรสูลุลลอฮฺ
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม และบรรดาเศาะหาบะฮฺแต่อย่างใด -------- →←
والله أعلم بالصواب
✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น