อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

สิ่งที่ผู้ตายจะได้รับหลังความตาย

 

-การขอดุอาอ์ของพี่น้องมุสลิมที่วิงวอนให้แก่ผู้ตาย

ท่านรสูลุลลฮฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
การที่มุสลิมคนหนึ่งขอดุอาอ์ให้แก่พี่น้องของเขาลับหลัง ถือเป็นดุอ์ที่ถูกตอบรับ (มุสตะญาบ) ณ ตรงศีรษะของเขามาลาอิกะฮฺ(ท่านหนึ่ง)ผู้ได้รับมอบหมาย ซึ่งทุกครั้งที่เขาดุอาอ์ให้แก่พี่น้องของเขา (เช่นนั้น) มลาอิกะฮฺที่ถูกมอบหมายจะกล่าวว่า อามีน (ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงตอบรับเถิด) และสำหรับท่าน(ผู้ขอ)ก็ให้ได้รับเหมือน(อย่างที่ขอให้แก่พี่น้องของเขา) เช่นกัน (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม หะดิษเลขที่ 7105 เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)

-การที่มุสลิมได้ทำเศาะดะเกาะฮฺ หรือบริจาค ให้แก่ผู้ตาย

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮา เล่าว่า
แท้จริงชายผู้หนึ่งไต่ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ว่า ที่จริงแม่ของฉันนางเสียชีวิตกะทันหัน ซึ่งฉันคิดว่า หากนางจะสั่งเสีย นางจะสั่งเสียถึงการเศาะดะเกาะฮฺ (เช่นนั้น) นางจะได้รับผลบุญไหม หากฉันจะเศาะดะเกาะแทนนาง ? ท่านนบีตอบว่า (ผลบุญ)ได้ซิ
(บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม หะดิษเลขที่ 1388 เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)

-การชดใช้สิ่งที่ผู้ตายได้บนบานเอาไว้(นะซัรฺ)

ท่านรสูลุลลฮฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
บุคคลใดที่เสียชีวิต โดยถือศิลอดของเขา(ยังถือไม่ครบ) สำหรับเขา เช่นนี้ก้ใหญาติพี่น้องของเขาถือศิลอดแทนให้แก่เขา (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม หะดิษเลขที่ 1952 เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)

การทำความดีของลูกๆ ที่ศอและหฺ การงานนั้นพ่อแม่ของเขาที่ตายไปแล้วก็จะได้รับผลบุญนั้นด้วย เพราะลูกศอและหฺเกิดจากการอุตสาหะของเขาทั้งสอง

พระองคือัลลฮ์ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

وَأَن لّيْسَ لِلإِنسَانِ إِلاّ مَا سَعَى.
"แท้จริง มนุษย์จะไม่ได้รับ นอกจากสิ่งที่เขาขวนขวายเท่านั้น"
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอันนัจญ์มุ :39)

ท่านรสูลุลลฮฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
แท้จริงบุคคลหนึ่งที่กินจากสิ่งที่เขาขวนขวายมาได้นั้น ย่อมดีที่สุด ซึ่งลูกของเขาก็คือส่วนหนึ่งจากสิ่งที่เขาขวนขวายไว้(เหมือนกัน)
(บันทึกหะดิษโดยอบุดาวูด หะดิษเลขที่ 3530 เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)

-สิ่งที่ผู้ตายได้กระทำไว้ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในดุนยา
หากเขาบริจากทานที่ยังได้รับผลบุญอย่างต่อเนื่อง หรือเศาะดะเกาะฮฺญาริยะฮฺ แม้เขาจะเสียชีวิตไปก็ตาม เช่นผลบุญที่เขาทำไว้ยังเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป และยังไม่สูญสลาย

ท่านนบี   ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
إذا مات ابن آدم انقطع عمله إلا من ثلاث: صدقة جارية أو علم ينتفع به أو ولد صالح يدعو له
เมื่อลูกหลานอาดัม(มนุษย์) ได้เสียชีวิต การงานของเขาก็ยุติ นอกจาก สามประการคือ การบริจาคทานถาวรวัตถุ (วะกัฟ) ,ความรู้(ของเขา)ที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้วยมัน หรือ บุตรที่ดี ขอดุอาให้แก่เขา - ดู ชัรหุเศาเฮียะมุสลิม เล่ม 1 หน้า 90

ท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าว่า
 "
แท้จริงสิ่งซึ่งจะติดตามผู้ศรัทธาจากการงาน และความดีต่างๆ ของเขา ภายหลังที่เขาเสียชีวิตไปแล้วนั้น (มีดังนี้)(1.) ความรู้ที่เขาได้ศึกษามา แล้วเขาก็เผยแพร่ความรู้นั้น(2.) ลูกสอลิห์ (ลูกที่อยู่ร่องรอยของศาสนา) ที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง(3.) คัมภีร์อัลกุรอานที่เขาได้บริจาคไป(ตามมัสยิด หรือสถานที่ต่างๆ) (4.) มัสยิดที่เขาเคย(บริจาค)ก่อสร้าง(5.) สร้างบ้าน(หรือทีพักอาสัย) ให้ไว้สำหรับคนเดินทาง(พักอาศัยชั่วคราว)(6.) ขุดลำธาร(หรือบ่อน้ำ)ให้ไหล (เป็นประโยชน์แก่ผู้คน)(7.)การจ่ายทาน(เศาะดะเกาะฮ์)จากทรัพย์สินของเขาเองในขณะที่เขามีสุขภาพแข็งแรง และขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ (ผลบุญของสิ่งดังกล่าว) จะติดตามเขาไปภายหลังที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว"
(หะดิษหะสัน บันทึกโดยอิบนุมาญะฮ์ หะดิษที่ 249)

والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น