อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

อย่าทิ้งการกล่าวขออภัยโทษและซิกิรหลังละหมาดฟัรฎู


เมื่อมุสลิมบางคน เมื่อให้สลามเสร็จสิ้นการละหมาดแล้ว ก็ลุกขึ้นทันที โดยละทิ้งการกล่าวขออภัยโทษ(เป็นดุอาอ์) และการกล่าวซิกิรสรรเสริญพระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา

และมีมุสลิมบางคน จะยกมือเพื่อขอดุอาอ์ภายหลังละหมาดฟัรฎูทันที โดยไม่ขออภัยโทษและการกล่าวซิกิรที่มีบัญญัติให้กระทำภายหลังละหมาดฟัรฎู เป็นการกระทำที่ค้านกับสุนนะฮฺ

ไม่ว่าการกล่าว “อัสตัฆฟิรุลลอฮ์ อัสตัฆฟิรุลลอฮ์ อัสตัฆฟิรุลลอฮ์ อัลลอฮุมม่า อันตัสส่าลาม วามินกัสส่าลาม ต้าบาร็อกต้า ยาซัลญะลาลิ วัลอิกฺรอม”

การกล่าว “ลาอิลาฮ่า อิ้ลลัลลอฮ์ , วะฆ์ด้าฮู ลาช่ารีก้าละฮ์ , ล่าอุลฮุลมุลกู้ ว่าล่าฮุลอัมดุ ว่าฮุว่าอ้าลากุลลิ ชัยอิน ก้อดีรฺ , อัลลอฮุมม่า ลามานิอ้า ลิมาอะฮ์ต็อยต้า ว่าลา มุอ์ฏิย่า ลิมา มานะอ์ต้า ว่าลา ยันฟ่าอุ ซัลญัดดิ มินกัลญัดดุ”

การกล่าว ซุบฮานัลลอฮ์ ,อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ,อัลลอฮุอักบัรฺ

การอ่านสูเราะฮ์อัล-อิคลาศ สูเราะฮ์อัลฟะลัก สูเราะฮ์อันนาส

และอายะฮ์กุรฺซีย์ ซึ่งเป็นอายะที่ 255 ของสูเราะฮฺอัลบากอเราะฮฺ เป็นต้น

แต่มุสลิมบางคนก็ละทิ้งมัน โดยไม่กล่าวอะไรเลย หรือยกมือขอดุอาอ์ตามที่ตนประสงค์ทันที ทั้งที่การกล่าวดุอาอ์ขออภัยโทษ การกล่าวสรรเสริญพระองค์อัลลอฮฺ และการอ่านสูเราะฮฺที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมีหลักฐานที่เป็นแบบอย่างจากท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม อย่างชัดเจน

ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรกล่าวดุอาอ์ขออภัยโทษ และซิกิร หลังจากการให้สลามออกจากละหมาด เพื่อให้เป็นไปตามสุนนะฮฺของของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม และบรรดาศอหาบะฮฺที่ปฏิบัติและรายงานต่อๆกันมายังบรรดามุสลิมรุ่นหลัง

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น