อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

ปัญหาเกี่ยวกับการลูบหน้าหลังจากยกมือขอดุอาอ์


การลูบหน้าภายหลังผู้ขอดุอาอ์ได้ยกมือขอดุอาอ์และได้ขอดุอาอ์เสร็จแล้ว มีปัญหาว่า เป็นแบบอย่างจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม หรือไม่ นักวิชาการมีความขัดแย้งกันในเรื่องนี้

-นักวิชาการบางท่านมีทัศนะว่าให้ลูบหน้า เพราะเป็นแบบอย่างจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม และหะดิษที่รายงานเกี่ยวกับการลูบหลังยกมือขอดุอาอ์เสร็จเป็นหะดิษที่ฮะซัน นำไปใช้เป็นหลักฐานได้ อย่างเช่น ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัร ในหนังสือ “บุลูฆุลมะรอม”

-นักวิชาการบางท่านมีทัศนะว่าไม่มีการลูบหน้า เพราะไม่มีรายงานไว้จากหะดิษที่เศาะเฮียะฮฺ เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ยกมือขอดุอาอ์ในวาระต่างๆ เช่น ยกมือขอดุอาอ์หลังละหมาดสุนัต ยกมือขอดุอาอ์ขอฝน การยกมือขอดุอาอ์กุนูต เป็นต้น ก็ไม่ปรากฏว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ลูบหน้า หลังยกมือขอดุอาอ์เสร็จ

ต่อไปนี้เป็นเป็นทัศนะของบรรดานักวิชาการว่าไม่มีการลูบหน้าหลังยกมือขอดดุอาอ์

-ท่านมะรูซีย์กล่าวไว้ในหนังสือละหมาดวิตรฺ หน้า 236 ว่า
“อิมามมาลิก ร่อหิมะฮุลลอฮฺ เคยถูกถามเกี่ยวกับบุคคลหนึ่งลูบด้วยมือทั้งสองของเขาภายหลังการขอดุอาอ์ อิมามมาลิกปฏิเสธสิ่งดังกล่าว พลางกล่าวว่า ฉันไม่ทราบ(ถึงหลักฐาน)”

-อิมามบัยหะกีย์ ร่อหิมะฮุลลอฮฺ (สิ้นชีวิต ฮ.ศ.458) กล่าวไว้ในหนังสือ “สุนะนุลกุบรอ”เล่ม 2 หน้าที่ 212 ว่า
“การลูบหน้าด้วยมือทั้งสองภายหลังเสร็จสิ้นของการขอดุอาอ์ ฉันไม่เคยจดจำเรื่องดังกล่าวจากบุคคลหนึ่งในบรรดาชาวสลัฟ ไม่ว่าจะลูบหน้าหลังดุอาอ์กุนูต และถึงแม้ว่าจะมีรายงานปรากฏบางคนจากพวกเขา กระทำขอดุอาอ์นอกละหมาดก็ตาม แน่นอนมีรายงานหะดิษเกี่ยวสิ่งนั้นจากท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม เช่นกันแต่เป็นหะดิษเฎาะอิฟ”

-ท่านอิมามนะวะวีย์ ร่อหิมะฮุลลอฮฺ (สิ้นชีวิต ฮ.ศ.676) กล่าวว่า
“ไม่มีแบบฉบับในเรื่องการลูบภายหลังการขอดุอาอ์เมื่ออยู่นอกละหมาด”

-ท่านอัลอิซซุ บุตรของอับดุสสะลาม(สิ้นชีวิต ฮ.ศ.660 กล่าวไว้ในหนังสือ “ฟัยฎุลเกาะดีรฺ เล่ม 1 หน้าที่ 369 ว่า
“ไม่มีบุคคลใดลูบหน้า นอกจากบุคคลที่เบาความเท่านั้น”

-ชัยคุลอิสลาม อินุ ตัยมิยะฮฺ ร่อหิมะฮุลลอฮฺ (สิ้นชีวิต ฮ.ศ.727) ท่านตอบคำถามไว้ในหนังสือ “ฟะตาวา” เล่ม 22 หน้า 519 ว่า
“การยกมือทั้งสองของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ขณะขอดุอาอ์ มีปรากฏในหะดิษเศาะเฮียะฮฺเป็นจำนวนมาก ส่วนการลูบหน้าด้วยมือทั้งสองของท่าน ไม่ปรากฏหลักฐานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม นอกจากจะมีเพียงหะดิษหรือสองหะดิษเท่านั้น ซึ่งทั้งสองหะดิษข้างต้นก็ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงได้เช่นกัน วัลลอฮุอะอฺลัม”

ต่อไปนี้ขอยกหะดิษที่กล่าวเกี่ยวกับการลูบหน้าภายหลังยกมือขอดุอาอ์ บางบท แต่ปรากฏว่าเป็นหะดิษฎออิฟ

“พวกท่านจงขอดุอาอ์ต่อพระองค์อัลลอฮฺด้วยฝ่ามือของพวกท่าน และพวกท่านอย่าขอต่อพระองค์ด้วยหลังมือ ครั้นพวกท่านเสร็จสิ้นการขอ พวกท่านจงลูบหน้าของพวกท่านด้วยฝ่ามือ”
(บันทึกโดยอบูดาวูด หะดาเลขที่ 1482)
ข้อบกพร่องของหะดิษข้างต้น

-อับดุลมะลิก บุตรของมุหัมมัด บุตรของอัยมัน นักรายงานหะดิษที่รายงานหะดิษนี้ เป็นบุคคลที่มัจญ์ฮูล ไม่ถูกรู้จักตัวตน
-อับดุลลอฮฺ บุตรของยะอิกูบ บุตรอิสหาก นักรายงานหะดิษที่รายงานหะดิษนี้ เป็นบุคคลที่ มัจญ์ลุลลหาล คือเป็นบุคคลที่นักรายงานหะดิษสองคน หรือมากกว่าสองคนรายงานหะดิษจากเขา แต่ทว่าเขาไม่ถูกทำให้เชื่อถือได้

-ท่านอบูดาวูด ผู้บันทึกหะดิษข้างต้น กล่าวว่าหะดิษดังกล่าวถือว่าฎออิฟ

แต่มีหะดิษเศาะเฮียฮฺที่รายงานจากท่านมาลิก บุตรของยะสารฺ ซึ่งบันทึกโดยอบุดาวูด เช่นกัน มีบทความเช่นเดียวกับหะดิษข้างต้น แต่ไม่มีคำว่า “พวกท่านจงลูบหน้าของพวกท่านด้วยฝ่ามือ”

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น