อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

เมื่อถามและเชื่อหมอดูหมอเดา


การที่บุคคลใดไปหาหมอดูแล้วถามหมอดูเกี่ยวกับบางสิ่ง
ถือว่าเขานั้นเป็นกุฟฺรฺหรือไม่ ?

ตอบคำถามโดย ชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล มุนัจญิด
Ummah Islam แปลและเรียบเรียง
คำถาม: เราสามารถทำให้สองหะดีษนี้สอดคล้องกันได้อย่างไร?
من أتى عرافاً فسأله عن شيء فصدقه لم تقبل له صلاة أربعين يوماً
"บุคคลใดที่ไปหาหมอดูเพื่อถามบางสิ่งบางอย่างและเชื่อหมอดู การละหมาดของเขาจะไม่ถูกตอบรับเป็นเวลา 40 วัน"
من أتى كاهناً فصدقه بما يقول فقد كفر بما أنزل على محمد
"บุคคลใดที่ไปหาหมอดู และเขาเชื่อในสิ่งที่หมอดูพูด เช่นนั้นเขาได้ปฏิเสธสิ่งที่ถูกประทานให้แก่มุฮัมมัด"
ในหะดีษแรกไม่ได้บ่งชี้ลงไปว่าเป็นกุฟรฺแต่หะดีษที่สองนั้นชี้เฉพาะลงไป

คำตอบ: การสรรเสริญทั้งมวลนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ
ไม่มีความขัดแย้งกันระหว่างสองหะดีษนี้ อะไรคือความหมายจากหะดีษที่ว่า
من أتى كاهناً فصدقه بما يقول فقد كفر بما أنزل على محمد
"บุคคลใดที่ไปหมอดู และเขาเชื่อในสิ่งที่หมอดูพูด เช่นนั้นเขาได้ปฏิเสธสิ่งที่ถูกประทานให้แก่มุฮัมมัด"

คือ บุคคลใดที่ไปถามหมอดู และ “เชื่อ” ว่าคำทำนายของหมอดูนั้นเป็นเรื่องจริง เชื่อว่าหมอดูรอบรู้ในสิ่งเร้นลับ ถือว่าเป็นการกระทำของกุฟรฺ เพราะเขามีความขัดแย้งกับอัลกุรอานซึ่งอัลลอฮฺตรัสว่า
قُلْ لَا يَعْلَمُ مَنْ فِي السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ الْغَيْبَ إِلَّا اللَّهُ
"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ไม่มีผู้ใดในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินจะรู้ในสิ่งพ้นญาณวิสัย นอกจากอัลลอฮฺและพวกเขาจะไม่รู้ว่า เมื่อใดพวกเขาจะถูกให้ฟื้นคืนชีพ” (อัน นัมลฺ : 65)

สำหรับหะดีษที่สอง
من أتى عرافاً فسأله عن شيء لم تقبل له صلاة أربعين ليلة
"บุคคลใดที่ไปหาหมอดูเพื่อถามบางสิ่งบางอย่าง การละหมาดของเขาจะไม่ถูกตอบรับเป็นเวลา 40 วัน" (รายงานโดย มุสลิม)

หะดีษนี้ไม่มีคำว่า "และเชื่อหมอดู"

เหตุนี้เองที่ทำให้เราเรียนรู้ว่า หากบุคคลใดไปหาหมอดูแล้วเขาถามบางสิ่งบางอย่างกับหมอดู การละหมาดของเขาจะไม่ถูกตอบรับเป็นเวลา 40 วัน และหากเขาเชื่อหมอดู เมื่อนั้นเขาได้กระทำเช่นเดียวกับการกระทำของกุฟรฺ

วะบิลลาฮิตเตาฟิก วะศ็อลลัลลอฮุอะลานะบียินามุฮัมมัด วะอาลิฮี วะ เศาะหฺบิฮี วะสัลลัม
...............................................................................
บทบรรณาธิการ : อ้างจาก คณะกรรมการถาวรเพื่อการวิจัยทางวิชาการ การฟัตวา ชัยคฺ อับดุลอะซีซ บิน บาซ, ชัยคฺ อัลดุรฺเราะซัก อะฟีย์ฟีย์, ชัยคฺ อับดุลลอฮฺ บิน ฆ็อดยาน (ฟัตวาอัล-ลัจญนะฮฺ อัด-ดานิมะฮฺ)
http://www.fityah.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น