อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สัญญาณก่อนวันสิ้นโลก (การต่อสู้ทางด้านจิตใจกับดัจญาล)



<<<< การต่อสู้ทางด้านจิตใจกับดัจญาล >>>>

มีรายงานคำพูดจากท่านนบีมุฮัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ว่าใครก็ตามที่อ่านกุรอานซูเราะฮฺ อัลกะฮฺฟี่ในวันศุกร์ หัวใจของเาจะได้รับแสงสว่างจนกระทั่งอีกวันศุกร์หนึ่งและมันจะคุ้มครองเขาจากความทุกข์ยากเดือดร้อนของดัจญาล โดยเฉพาะการอ่านใน 10 ประโยค (อายะฮฺ) สุดท้ายของซูเราะฮฺฺ

ความหมายภาษาไทย : -

บรรดาผู้ที่ดวงตาของพวกเามืดบอดต่อการตักเตือนของเราและไม่ยอมฟังมัน

อะไรกัน บรรดาผู้ปฏิเสธคิดหรือว่าพวกเขาจะเอาบ่าวของฉันเป็นผู้ช่วยเหลือนอกไปจากฉัน? แท้จริง เราได้เตรียมนรกไว้สำหรับต้อนรับบรรดาผู้ปฏิเสธแล้ว

จงบอกพวกเขาเถิดว่า "จะให้เราบอกพวกท่านไหมว่าใครคือผู้ขาดทุนยิ่งเกี่ยวกับการงานของพวกเขา ?"

พวกเขาคือบรรดาผู้ที่ีความพยายามของเขาทั้งหมดในชีวิตแห่งโลกนี้หลงออกไปจากแนวทางที่ถูกต้อง แต่พวกเขาหลงผิดคิดว่าทุกสิ่งที่พวกเขาทำไปนั้นถูกต้อง

คนเหล่านีี้คือบรรดาผู้ปฏิเสธสัญญาณทั้งหลายของพระผู้อภิบาลของพวกเขาและไม่เชื่อว่าพวกเขาจะกลับไปหาพระองค์ ดังนั้น การงานของพวกเขาทั้งหมดจึงสูญเปล่า เพราะเราจะไม่ให้น้ำหนักใด ๆ แก่พวกเขาในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ

การตอบแทนของพวกเขาก็คือนรกสำหรับการที่พวกเขาปฏิเสธและสำหรับการที่พวกเขาถือเอาสัญญาณและรอซูลทั้งหลายของฉันเป็นที่ล้อเล่น

ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบการดีนั้น การต้อนรับสำหรับพวกเขาคือสวนสวรรค์ฟิรเดาซ์

พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นและพวกเขาไม่ปรารถนาที่จะออกจากที่นั่นไปไหน"

จงบอกพวกเขาเถิดว่า "ถ้าหากจะให้น้ำทะเลกลายเป็นน้ำหมึกเพื่อบันทึกวจนะของพระผู้อภิบาลของฉันแล้ว แน่นอน มันจะเหือดแห้งก่อนที่วจนะของพระผู้อภิบาลของฉันจะหมดสิ้นถึงแม้เราจะนำหมึกเยี่ยงนั้นมาเพิ่มอีกก็ตาม"

จงบอกพวกเขาเถิดว่า "ฉันเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเหมือนพวกท่าน ได้มีวะฮีย์มายังฉันว่าพระเจ้าของพวกท่านคือ อัลลอฮฺองค์เดียว ดังนั้น ผู้ใดที่หวังจะพบพระผู้อภิบาลของเขาก็จงประกอบการงานที่ดีและจงอย่างตั้งผู้ใดเป็นภาคีในการเคารพภักดีร่วมกับพระองค์" (กุรอาน 18 : 101 - 110)

อายะฮฺกุรซีย์

อายะฮฺกุรซีย์เป็นอีกอายะฮฺหนึ่งที่ท่านนบีมุฮัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ได้สอนมุสลิมให้อ่านเพื่อขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ

ความหมาย : -

ด้วยพระนามองอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

"อัลลอฮฺผู้ทรงมีชีวิตอยู่เสมอ ผู้ทรงดำรงจักรวาลทั้งมวล ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ฺไม่ทรงง่วงและไม่ทรงหลับ ทุกสรรพสิ่งที่อยู่้ในชั้นฟ้าทั้งหลายและในแผ่นดินล้วนเป็นของพระองค์ ใครเล่าที่จะสามารถเข้าไปขอไถ่โทษกับพระองค์ได้ เว้นแต่ว่าพระองค์จะทรงอนุมัติ ? พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาและสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังของพวกเขา และพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงความรู้ของพระองค์ เว้นแต่สิ่งที่พระองคึ์เองประสงค์จะแสดงให้เห็น อาณาจักรของพระองค์แผ่กว้างทั่วชั้นฟ้าทั้งหลายแผ่นดิน และการป้องกันสิ่งที่สองนี้ไม่ได้ทำให้พระองค์ต้องทรงเหนื่อยหน่าย พระองค์เท่านั้นที่เป็นผู้ทรงสูงสุด ผู้ทรงยิ่งใหญ่" (กุรอาน 2 : 255)

อายะฮฺกุรซีย์เป็นอายะฮฺที่มีความสำคัญอายะฮฺหนึ่งซึ่งท่านนบีมุฮัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) แนะนำให้มุสลิมอ่านและสอนให้ลูกหัดท่องจำ ทั้งนี้เพื่อที่จะได้ใช้คุ้มครองตัวเองให้พ้นจากชัยฏอน

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีซูเราะฮฺสั้น ๆ ในคัมภีร์กุรอานอีก 4 ซูเราะฮฺ ที่ท่านรอซูลุลลอฮฺสอนให้มุสลิมอ่านเพื่อขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺให้พ้นจากชัยฏอน ซูเราะฮฺดังกล่าว คือ อัลกาฟิรูน, อัลอิคลาศ, อัลฟะลัก และอันนาส

ซูเราะฮฺ อัลกาฟิรูน

ความหมาย : -
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

จงกล่าวเถิด "โอ้ บรรดาผู้ปฏิเสธ ฉันไม่เคารพสักการะสิ่งที่พวกท่านเคารพสักการะและพวกท่านก็ไม่ต้องเคารพสักการะสิ่งที่ฉันเคาระสักการะ และฉันก็จะไม่เคารพสักการะสิ่งที่พวกท่านเคารพสักกาะ และพวกท่านก็ไม่ต้องมาเคารพสักการะสิ่งที่ฉันเคารพสักการะ สำหรับพวกท่านก็ศาสนาของพวกท่าน และสำหรับฉันก็ศาสนาของฉัน" (กุรอาน 109 : 1 - 6)

ซูเราะฮฺ อัลอิคลาศ

ความหมาย : -

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

จงกล่าวเถิด "พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ อัลลอฮฺคือที่พึ่งของสิ่งทั้งมวล พระองค์ฺไม่ทรงให้กำเนิดและไม่ทรงถูกกำเนิดและไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ (กุรอาน 112 : 1 - 4)

ซูเราะฮฺ อัลฟะลัก

ความหมาย : -

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณา ผู้ทรงเมตตาเสมอ

จงกล่าวเถิด "ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ พระเจ้าแห่งรุ่งอรุณให้พ้นจากความชั่วร้ายที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น และจากความชั่วร้ายแห่งกลางคืนเมื่อมันมืดทึบและจากความชั่วร้ายของการเสกเป่าในปมเงื่อนและจากความชั่วร้ายของผู้อิจฉาเมื่อเาอิจฉา" (กุรอาน 113 : 1 - 5)

อัลลอฮฺได้สอนให้อ่านซูเราะฮฺนี้เมื่อเราารู้สึกว่าตัวเองถูกคุกคามจากอำนาจเร้นลับที่มองไม่เห็นซึ่งเกิดขึ้นในตอนกลางคืนและเป็นซูเราะฮฺที่ท่านนบีอ่านเพื่อเป็นการบำบัดปัดเป่าการถูกเวทมนตร์ไสยศาสตร์

ซูเราะฮฺ อันนาส

ความหมาย : -

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

จงกล่าวเถิด "ฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้อภิบาลแห่งมนุษย์ชาติ ราชาแห่งมนุษยชาติ พระเจ้าแห่งมนุษยชาติ ให้พ้นจากความชั่วร้ายของผู้กระซิบกระซาลที่กระซิบกระซาบในหัวอกของมนุษย์จากญินและมนุษย์" (กุรอาน 114 : 1 - 6)



.............................................................
(จากหนังสือ : สัญญาณก่อนวันสิ้นโลก)
เชค มะฮฺมูด เอช. รอชีด : เขียน
บรรจง บินกาซัน : แปล
อดทน เพื่อสู่ชัยชนะ โพส







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น