อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อลี บิน อบีฏอลิบ รอฎิยัลลอฮูอันฮู



*** 10 ศอหาบะฮฺ ผู้ได้รับสัญญาสวรรค์ ***

ท่านที่ 4

<< อลี บิน อบีฏอลิบ รอฎิยัลลอฮูอันฮู <<

ชื่อ : อลี บิน อบีฏอลิบ

ฉายานาม : อบุตตุรอบ, อบุลหะซัน

เชื้อสาย : ตระกูลบนูฮาซิ เชื้อสายกุร็อยชฺ

บิดา : อบูฏอลิบ บิน อับดุลมุฏฏอลิบ

มารดา : ฟาฏิมะฮฺ บินติ อะซัด

กำเนิด : บริเวณกะอฺบะฮฺ เมื่อปี ค.ศ. 602 มีอายุอ่อนกว่าศาสดามุหัมมัด 30 ปี

** บุัคลิกภาพ / อุปนิสัย :

เป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดตั้งแต่วัยเด็ก มีความรอบรู้ เป็นนักพูด นักภาษา มีความรู้ในด้านนิติศาสตร์ อรรถาธิบายอัลกุรอานและไวยากรณ์อาหรับ มีความซื่อสัตย์ มีความบริสุทธิ์ใจ ใช้ชีวตอย่างสงบและมัธยัสถ์ เนื่องจากท่านอลีมีชีวิตและเติบโตมาในบ้านของท่านรอซูล (ซ.ล.) จึงได้รับอิทธิพลอย่างมากจากคำสอน คำพูด การกระทำ และบุคลิกภาพของท่านศาสดา (ซ.ล.) ท่านมีความเข้มแข็งและกล้าหาญ เป็นผู้ที่มีความสามารถอ่านออกเขียนได้คนหนึ่ง

ซะรอร บิน ซะมูเราะฮฺ เคยกล่าวถึบุคลิกภาพของท่านอลีต่อหน้ามุอาวียะฮฺดังนี้

"เขาเป็นคนที่มองการณ์ไกล เข้มแข็ง กล้าหาญ บึกบึน พูดจาตรงไปตรงมา มีความยุัติธรรมเป็นอย่างยิ่งในการตัดสิน เขาเป็นแหล่งของความรู้ ไม่พึงใจต่อโลกและความสุขสำราญ ขออัลลอฮฺเป็นพยานแก่ฉันด้วยว่าตาของเขามักจะเอ่อล้นด้วยน้ำตาและดูมีีความกังวลเสมอ เขาเป็นคนมีจิตสำนึกทีทำให้เขาตำหนิตัวเองอยู่ตลอดเวลา เขามีความสุขที่จะได้สวมเสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าหยาบ ๆ กินอาหารง่าย ๆ ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา และไม่ทำตัวผิดแผกไปจากคนอื่น เมื่อใดที่ถูกถามเขาก็จะตอบ เมื่อใดเราเข้าหาเขา เขาก็จะทักทายก่อน เมื่อใดที่เราเชิญเขา เขาจะมาด้วยความเต็มใจ แต่แม้เราใกล้ชิดกันก็ตาม ความน่าเกรงขามของเขาทำให้เราไม่กล้าพูดคุยกันเมื่อเขาอยู่ หรือเข้าร่วมในการสนทนาของเขา เมื่อเขาหัวเราะฟันของเขาจะเป็นประกายเหมือนลูกเห็บ เขาให้ความเคารพคนดีมีคุณธรรมและรักคนจน ไม่มีผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีอำนาจคนใดที่จะได้รับสิ่งที่ไม่ควรได้รับจากเขา และไม่มีคนอ่อนแอคนใดสิ้นหวังที่จะได้รับความยุติธรรมจากเขา ฉันขอประกาศต่ออัลลอฮฺว่าในตอนกลางคืิน ฉันมักจะพบเห็นเขายืนอยู่บนเสื่อนมาซ มือจับเคราและร้องไห้อย่างข่มขื่น ฉันเคยได้ยินเขาสะอื้นและรำพึงรำพันด้วยความโศกเศร้าเสียใจ มันดูเหมือนกับว่าเขาถูกแมงป่องต่อยหรืองูกัด ฉันยังนึกภาพเมื่อตอนที่เขากล่าวว่า โอ้โลกเอ๋ย เจ้าต้องการจะล่อลวงให้ฉันหลงทางกระนั้นหรือ เจ้านำสิ่งสวยงามมาเย้ายวนฉันหรือ ไปซะ ไปซะ ไปยุ่งเรื่องของเจ้าและไปหลอกคนอื่น ฉันหย่าขาดจากเจ้าไปสามครั้งแล้ว โลกเอ๋ย ความสุขของเจ้าก็ชั่วคราวเท่านั้น ชีวิตของเจ้าก็สั้น การชักชวนของเจ้าก็เชื่อถือไม่ได้และเป็นอันตาย อนิจจาฉันมีปัจจัยเพียงน้อยนิด การเดินทางยังอีกยาวไกลและเส้่นทางก็อันตรายเหลือเกิน"

** การเข้ารับอิสลาม :

วันหนึ่งท่านได้เห็นนบี (ซ.ล.) และท่านหญิงคอดีญะฮฺกำลังนมาซ

อลีจึงได้ถามว่า

"เมื่อครู่ท่านทำอะไรกัน?"

ท่านนบี (ซ.ล.) ตอบว่า

"นี่้คือศาสนาที่เที่ยงแท้ที่อัลลอฮฺทรงประทานให้แก่ฉัน เพื่อให้ฉันได้เรียกร้องผู้คนทั้งหลายมาสู่มัน"

ท่านนบี (ซ.ล.) จึงบอกใ้ห้อลีรับศรัทธาในอิสลาม ท่านอลีไม่รับปาก เพราะขณะนั้นท่านยังเด็กจึงตอบว่า จะต้องนำเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณพ่อก่อน ท่านนบี (ซ.ล.) จึงสั่งว่า แม้จะไม่ยอมรับก็ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

รุ่งเช้าวันต่อมา อลีัตัดสินใจเข้ารับอิสลามกับท่านนบี (ซ.ล.) โดยการยืนยันอย่างแน่วแน่ว่าจะศรัทธาต่ออัลลอฮฺและปฏิเสธเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ ทั้งหมด และเขายังได้เก็บรักษามันไว้เป็นความลับตามคำแนะนำของท่านศาสดา (ซ.ล.)

อลีเป็นเด็กคนแรกที่เข้ารับอิสลาม ขณะนั้นเขาอายุเพียง 9 - 10 ปี เท่านั้น

** สถานภาพ :

1. มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านศาสดา (ซ.ล.) เพราะท่านอลีเป็นลูกของอบูฏอลิบซึ่งเป็นลุงของท่านศาสดา

2. เป็นลูกเขยของท่านศาสด (ซ.ล.) ได้แต่งงานกับท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ ในปีที่ 2 หลังการอพยพ

3. เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เคยบูชารูปเคารพใด ๆ มาก่อนเลย

4. เป็นคอลีฟะฮฺ ที่ 4 แห่งอาณาจักรอิสลาม หลังจากท่าน อบูบักรฺ อุมัรฺ และอุษมาน

ผลงานเด่น :

1. ท่านเป็นผู้คอยช่วยเหลือการทำงานเผยแผ่สานาของท่านนบี (ซ.ล.) และช่วยปกป้องท่านให้พ้นอันตราย

2. ท่านอลีนอนแทนที่ท่านศาสดา ในคืนที่วพกกาฟิรฺมักกะฮฺบุกจู่โจมเข้าลอบสังหารท่านศาสดาถึงห้องนอนของท่าน แต่ทั้งสองก็ปลอดภัย

3. เมื่อสงครามบัดรฺเกิดขึ้น ชาวกุร้อยชฺมักกะฮิได้ส่งนักรบออกมาสามคน เพื่อเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว คือ อุตบะฮฺ บิอะ บิน รอบีอะฮฺ, ชัยบะฮฺ บิน รอบีอะฮฺ และวาลิด บิน อุตบะฮฺ ท่านศาสดาจึงส่งมุสลิมสามคนออกไปสู้รบด้วย คือ อัมซะฮฺ บิน อับดุลมุฏฏอลิบ, อลี บิน อบีฏอลิบ, อุบัยดะฮฺ บิน อัศศอมิด ผลปรากฏว่าทั้งสามสามารถสังหารศัตรูได้ทั้งหมด

4. ร่วมรบในสงครามอุหุด เป็นผู้บังคับบัญชาทหารปีกขวาและได้ล้างแผลที่มีเลือดไหลบนใบหน้าของท่านศาสดาในสงครามครั้งนี้ด้วย

5. ท่านอลีเป็นผู้สังหาร อัมรฺ บิน อับดุวัดด์ ซึ่งเป็นทหารม้าของฝ่ายข้าศึกที่ควบม้าเข้ามาท้ามุสลิมให้ออกไปรบในสงครามสนามเพลาะ

6. ยึดคัยบัรฺได้สำเร็จ

7. ย้ายเมืองหลวงของอิสลามจากมะดีนะฮฺไปยังกูฟะฮฺ

8. เกิดสงครามอูฐระหว่างอลีกับท่านหญิงอาอิชะฮฺ ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้เรียกร้องให้ท่านอลีเร่งสังหารผู้ทีทำการฆาตรกรรมคอลีฟะฮฺอุษมาน ในที่สุดสงครามสงบลงโดยฝ่านท่านอลีชนะ

9. เกิืดสงครามระหว่างคอลีฟะฮฺอลัีกับผู้ก่อการละเมิืดขอบเขตในสงครามซิฟฟิน และผู้ก่อการกบฎจากชาวคอวาริจญ์ซึ่งเป็นการสอนบทเรียนให้ชนรุ่นหลังรู้ว่าจะต่อสู้กับผู้กระทำผิดหรือก่อการละเมิดอย่างไร

** เสียชีวิต :

เนื่องจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงการปกครองของท่านอลี ท่านต้องเผชิญกับปัญหาอันหนักหน่วยจากหลายด้าน โดยเฉพาะจากชาวมุสลิมเอง จนกระทั่งในที่สุด ท่านอลี บิน อบีฏอลิบ ผู้ปกครองอิรักที่เป็นคนที่มีคุณธรรมมากที่สุด เคารพอัลลอฮฺมากที่สุด ไม่คำนึงถึงตัวเองมากที่สุด มีความรู้มากที่สุด ตักวาต่ออัลลอฮฺมากที่สุดบนหน้าแผ่นดินในเวลานั้น ได้ถูกลอบสังหารโดยพวกนอกรีด (คอวาริจญ์) คนหนึ่งชื่อ อับดุรเราะหฺมาน อิบนุลมุนญิม ขณะที่ท่านออกเดินไปนมาซศุบหิ ในเช้ามืดของวันศุกร์ที่ 17 รอมฎอน ฮ.ศ. 40 ตรงกับวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 661 รวมอายุได้ 63 ปี เช่ีนเดีนวกับศาสดามุหัมมัด (ซ.ล.) หลังจากที่ดำรงตำแหน่งคอลีฟะฮฺได้ 4 ปี 9 เดือน

ซุฟยาน บิน อุยัยนะฮฺ ตาบิอีนท่านหนึ่งกล่าวว่า อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ทรงประทานดาบให้นบี 4 เล่ม

* เล่มที่หนึ่ง เป็นดาบที่มุสลิมใช้ต่อสู้กับบรรดาผู้บูชาเจว็ด

* เล่มที่สอง เป็นดาบที่อบูบักรฺใช้เผชิญหน้ากับผู้ทรยศต่อศาสนา

* เล่มที่สาม เป็นดาบที่อุมัรใช้ต่อสู้กับพวกมะญูซีย์ และบรรดาชาวคัมภีร์

* เล่มที่สี่ เป็นดาบที่อลีใช้ต่อสู้กับกบฎและผู้ละเมิดขอบเขตทั้งหลาย

<< ความประเสริฐของท่านอลี บิน อบีฏอลิบ รอฎิยัลลอฮูอันฮู <<

1. ท่านนบี (ซ.ล.) วางใจให้อลี (ร.ฎ.) เป็นผู้รักษาการณ์แทนท่านในสงครามตาบูก

จากสะอัด บิน อบีวักกอส (ร.ฎ.) เล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) ได้แต่งตั้น อลี บิน อบีฏอลิบ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนในสงครามตาบูก อลีกล่าวว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ ท่านทิ้งข้าพเจ้าไว้ให้อยู่กับพวกผู้หญิงและเด็ก ๆ หรือท่านนบีตอบว่า

"ท่านไม่พอใจหรือกับการที่ท่านกับฉันนั้นก็เหมือนกับฮารูนกับมูซา เว้นแต่จะไม่มีนบีอีกหลังจากฉัน"
(บุคอรี, มุสลิม, ติรมีซี)

2. หากใครรักนบี (ซ.ล.) ต้องรักอลี (ร.ฎ.) ด้วย

ชัยคฺ บิน อัรกอม (ร.ฎ.) เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า

"ผู้ใดที่ฉันเป็นที่รักของเขา ดังนั้นอลีก็ต้องเป็นที่รักของเขาด้วย"
(ติรมีซี)

3. ท่านนบี (ซ.ล.) กล่้าวถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับท่านอลี (ร.ฎ.)

จากบะรออฺ บิน อาซิบ (ร.ฎ.) เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า อลี บิน อบีฏอลิบ ว่า

"เธอเป็นส่วนหนึ่งของฉัน และฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของเธอ"
(ติรมีซี)

4. ผู้ศรัทธาทุกคนต้องรักท่าน อลี (ร.ฎ.)

จากอุมมี สะละมะฮฺ (ร.ฎ.) ได้เล่าว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า

"จะไม่รักอลีหากเขาเป็นมุนาฟิก (หน้าไหว้หลังหลอก) และจะไม่เกลียดต่ออลี หากเขาเป็นผู้ศรัทธา"
(ติรมีซี)

5. ท่านนบี (ซ.ล.) รักอลี (ร.ฎ.) มาก

จากบุรอยดะฮฺ (ร.ฎ.) เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า

"แท้จริง อัลลอฮฺได้ใช้ให้ฉันรักสี่คน และได้บอกข้าพเจ้า (บุรอยดะฮฺ) ว่า ท่านรักบุคคลทั้งสี่นั้น มีผู้ถามว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ จงเอ่ยนามของพวกเขาให้พวกเราได้ทราบ ท่านกล่าวว่า อลีเป็ฯคนหนึ่งจากพวกเขา ท่านได้กล่าวเช่นนั้นสามครั้ง และอบูซัร มิกดาด บิน อัลอัสวัด และซัลมาน ท่านนบีได้ใช้ให้ข้าพเจ้ารักพวกเขาและได้บอกแก่ข้าพเจ้าว่า ท่านรักพวกเขา"
(ติรมีซี)

6. ท่านนบี (ซ.ล.) ให้อลี (ร.ฎ.) ปฏิบัติการแทนท่านในการทำสัญญา หรือการประนีประนอม

จาก หะบะชี บิน ญุนาดะฮฺ (ร.ฎ.) เล่าวว่า ท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า

"อลีเป็นส่วนหนึ่งของฉันและฉันเป็นส่วนหนึ่งของอลี และไม่มีใครปฏิบัติการแทนฉันนอกจากฉันเองหรืออลี"
(ติรมีซี)

7. อลี (ร.ฎ.) เป็นพี่น้องของท่านศาสดาทั้งโลกนี้และโลกหน้า

จาก อิบนุ อุมัร (ร.ฎ.) เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) ได้สถาปนาความเป็นพี่น้องกันในระหว่างบรรดาศอหาบะฮฺของท่าน ต่อมาท่านอลีกลับมาในสภาพที่ดวงตาทั้งสองมีน้ำตาไหลนอง และได้พูดขึ้นว่าโอ้รอซูลุลลอฮฺ ท่านได้สถาปนาความเป็นพี่น้องในบรรดาศอหาบะฮฺของท่าน แต่ท่านไม่ได้สถาปนาความเป็นพี่น้องระหว่างฉันกับผู้ใดเลย ท่านรอซูลุลลอฮฺจึงกล่าวแก่อลี ว่า

"เธอนั้นเป็นพี่น้องของฉัน ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า"
(ติรมีัซี)

8. อลี (ร.ฎ.) เป็นคนสำคัญและอยู่ในใจท่านนบี (ซ.ล.) อยู่เสมอ

จาก อลี (ร.ฎ.) ได้กล่าวว่า

เมื่อข้าพเจ้าจะขออะไรจากท่านนบี (ซ.ล.) ท่านจะให้ข้าพเจ้า และถ้าหากข้าพเจ้านิ่งเฉยท่านจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นให้แก่ข้าพเจ้าก่อน
(ติรมีซี)

9. อลี (ร.ฎ.) ได้รับอนุญาตให้ผ่านมัสยิดนบีได้แม้จะมีญุนุบก็ตาม

อบูสะอีด (ร.ฎ.) เล่าว่้า ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) กล่าวแก่อลีว่า

"โอ้อลี ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีมลทิน (ญุนุบ) เดินภายในมัสยิดนี้ นอกจากฉันและเธอเท่านั้น"
(ติรมีซี)

10. อลี (ร.ฎ.) เป็นบุคคลที่อัลลอฮฺทรงรักยิ่ง

จากอนัส (ร.ฎ.) เล่าว่า มีนกตัวหนึ่งบินมาหาท่านนบี (ซ.ล.) ท่านได้กล่าวว่า

"โอ้อัลลอฮิ ได้โปรดนำบุคคลที่พระองค์ทรงรักยิ่งจากบรรดาสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาหาข้าพเจ้าด้วยเถิด เพื่อที่เขาจะได้รับประทานนกตัวนี้พร้อมกับข้าพเจ้า ต่อมา อลีได้เข้ามา และร่วมรับประทานอาหารกับท่าน"
(ติรมีซี)

11. ท่านนบี (ซ.ล.) ขอพรแ่ก่อบูบักรฺ อุษมาน และอลี (ร.ฎ.)

จากอลี (ร.ฎ.) เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า

"ขอพระองค์อัลลอฮฺโปรดประทานความเมตตาแก่อบูบักรฺ ที่ได้แต่งงานบุตรสาวของเขาให้แก่ข้าพเจ้า และได้พาข้าพเจ้าไปยังดินแดนอพยพ และได้ปลดปล่อยบิลาลให้เป็นอิสระจากทรัพย์สินของเขา ขอพระองค์อัลลอฮิได้โปรดประทานความเมตตาแก่อุษมานที่มวลมลาอิกะฮฺก็มีความละอายต่อเขา ได้โปรดประทานความแมตตาแก่อลี ข้าแด่อัลลอฮฺได้โปรดหมุนเวียนสัจธรรมให้อยู่กับเขาในที่ ๆ เขาได้หมุนเวียนไป"
(ติรมีซี)

12. อลี (ร.ฎ.) คือประตูแห่งคลังวิชาการ

จากอลี (ร.ฎ.) เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า

"ข้าพเจ้าเป็นคลังแห่งวิทยปัญญา ส่วนอลีเป็นประตูของมัน"
(ติรมีซี, ฏ็อบรอนี)

......................
(จากหนังสือ : 10 ศอหาบะฮฺ ผู้ได้รับสัญญาสวรรค์)
มันศูร อับดุลลอฮฺ : เรียบเรียง
อดทน เพื่อชัยชนะ โพส







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น