อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

อนุญาตให้รับประทานของที่ต้องห้ามเมื่อเกิดความจำเป็น




อิสลามอนุญาตให้มุสลิมที่มีความจำเป็นหรืออยู่ในภาวะคับขัน สามารถบริโภคสิ่งที่เป็นซากตาย เนื้อสุกร และสัตว์ที่ศาสนาไม่อนุญาตให้รับประทานในสภาวะปกติและอื่นๆ ที่อัลลอฮฺฺห้ามได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาชีวิต รักษาตัวเขาไม่ให้ตาย จุดมุ่งหมายที่ศาสนอนุมัติในที่นี้ ก็คือความจำเป็นต้องกิน


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا لَا تَأْكُلُوا أَمْوَالَكُم بَيْنَكُم بِالْبَاطِلِ إِلَّا أَن تَكُونَ تِجَارَةً عَن تَرَاضٍ مِّنكُمْ وَلَا تَقْتُلُوا أَنفُسَكُمْ إِنَّ اللَّهَ كَانَ بِكُمْ رَحِيمًا ( 29 ) อัน-นิสาอ์ - Ayaa 29

"ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่ากินทรัพย์ของพวกเจ้า ในระหว่างพวกเจ้าโดยมิชอบ นอกจากมันจะเป็นการค้าขายที่เกิดจากความพอใจในหมู่พวกเจ้า และจงอย่าฆ่าตัวของพวกเจ้าเอง แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเมตตาต่อพวกเจ้าเสมอ" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัน-นิสาอ์ 4;29)



กรณีที่ถือว่าจำเป็น 

การถือว่าจำเป็น นั้นคือ หิวมาก ถ้าไม่กิน ก็จะถึงขั้นเสียชีวิต หรือป่วยได้ และไม่ว่าสภาพในขณะนั้น เขาผู้นั้น จะเป็นคนดี หรือคนชั่วก็ตาม  และกรณีที่ไม่มีอาหารที่ศาสนาอนุมัติให้รับประทานหรือดื่ม และถึงแม้อาหารที่จำเป็นต้องประทังชีวิตนั้น จะเป็นของบุคคลอื่น และไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของก็ตาม และถึงแม้อาหารหรือเครื่องดื่มนั้นเป็นของกาฟิรที่อยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิม และสามารถเอาอาหารเหล่านั้นเป็นเสบียงไปจนกว่าจะหาของที่หะลาลได้ หากพบเจอของที่หะลาลแล้ว ก็ให้เอาของที่ต้องห้ามกลับไปยังที่เดิม

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

إِنَّمَا حَرَّمَ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةَ وَالدَّمَ وَلَحْمَ الْخِنزِيرِ وَمَا أُهِلَّ بِهِ لِغَيْرِ اللَّهِ فَمَنِ اضْطُرَّ غَيْرَ بَاغٍ وَلَا عَادٍ فَلَا إِثْمَ عَلَيْهِ إِنَّ اللَّهَ غَفُورٌ رَّحِيمٌ ( 173 ) อัล-บะเกาะเราะฮ - Ayaa 173

"ที่จริงที่พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้านั้นเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์ แล้วผู้ใดได้รับความคับขัน โดยมิใช่ผู้เสาะแสวงหา และมิใช่เป็นผู้ละเมิดขอบเขตแล้วไซร้ ก็ไม่มีบาปใด ๆ แก่เขา แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเมตตาเสมอ"
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-บาเกาะเราะฮฺ 2;173)

รายงานจากท่านอัลฟุญัยอฺ อัลอามีรี เล่าว่า
"เขาได้มาหาท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) แล้วกล่าวว่า : ซากตายอะไรที่จะอนุญาตให้แก่พวกเราบ้าง? ท่านนบีถามว่า : อาหารของพวกเจ้าเป็นอะไร?
พวกเรากล่าวว่า : เราดื่มตอนเย็น และเราจะดื่มตอนเช้า"
ท่านนบี ได้กล่าวว่า : ขอเอาคุณพ่อเป็นประกัน นั้นแหละ คือ ความหิว แล้วซากที่ตาย(สัตว์ที่ตายเอง) จึงเป็นที่อนุญาตแก่พวกเขาในกรณีเช่นนี้" (บันทึกหะดิษหะดิษโดยอิมามอบูดาวู๊ด)


มัซฮับมาลีกี มีความเห็นว่า "เมื่อไม่มีอะไรกินเป็นเวลา 3 วัน ก็อนุญาตให้กินสิ่ที่อัลลอฮฺห้ามได้พอประทังชีวิต แม้ว่าสิ่งที่กินเข้าไปนั้นจะเป็นของคนอื่นก็ตาม"

อิบนุอัซมิน กล่าวว่า "ขอบเขตความจำเป็น คือ ใช้ชีวิตอยู่วันหนึ่งกับคืนหนึ่งโดยไม่มีอาหารและเครื่องดื่มเลย ถ้าเขากลัวว่าร่างกายจะอ่อนแอ และจะเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต หรือไม่อาจเดินทางได้ต่อไปได้ หรือทำงานต่อไปได้ ก็อนุญาตให้กินและดื่มได้เพื่อประทังชีวิต"


ปริมาณที่บริโภค

ศาสนาอนุญาตให้ผู้ที่มีความจำเป็นจะบริโภคซากตายได้ เท่าปริมาณที่ประทั้งชีวิต และจะเพิ่มได้ตามความจำเป็นและต้องการ

รายงานจากท่านญาบิร อิบนุ สมุเราะฮฺ เล่าว่า
"แท้จริงชายคนหนึ่งได้ลงที่อัลฮุรเราะห์ โดยที่เขามีอูฐที่ตายอยู่ตัวหนึ่ง แล้วภรรยาของเขาก็กล่าว่า : ถลกหนังอูฐเถิด เพื่อที่จะเอามันของมัน และเนื้อของมันมาใส่หม้อ ปรุงเป็นอาหารที่จะกินกัน
เขากล่าวว่ว : อย่าพึ่งจนกว่าจะถามท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)ก่อน
แล้วเขาก็ถาม และท่านนบีได้ถามว่า ;  ที่พวกท่านมีเหลือเฟือไหม?
เขาตอบว่า : ไม่หรอก
ท่านนบีได้กล่าวว่า : พวกท่านจงกินไปเถิด" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอบูดาวู๊ด)


ท่านอิมามมาลิก และอิมามอะหฺมัด กล่าวว่า "อนุญาตให้กินให้อิ่มได้

บรรดาสหายของอบูหะนีฟะฮฺ กล่าวว่า : จะให้อิ่มไม่ได้

สำหรับอิมามชาฟิอีย์ มีทั้ง 2 ทัศนะข้างต้น


สำหรับกรณีเป็นอาหารของบุคคลอื่น ที่มุสลิมคนหนึ่งได้กินหรือดื่มในภาวะคับขัน จะชดใช้ค่าสิ่งอาหารเหล่านั้นหรือไม่

บรรดานักวิชาการส่วนใหญ่ มีความเห็นว่า : ถ้าเกิดความคับขัน โดยเจ้าของอาหารไม่อยู่ก็ให้อนุญาตให้เอามารับประทานได้ และชดใช้เป็นราคาไป เพราะการคับขันนั้นไม่ทำให้เสียสิทธิของผู้อื่น

อิมามชาฟิอีย์ กล่าวว่า ; ไม่ต้องชดใช้ราคา เพราะความรับผิดชอบนั้น จะหลุดไปด้วยความคับขัน เพราะศาสนาอนุญาต และการอนุญาตกับการชดใช้จะไม่อยู่ร่วมกัน"


والله أعلم بالصواب






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น