อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

มุสลิมผูกหัวรถ





การผูกหัวรถของคนต่างศาสนิก ด้วยเส้นด้ายหลากสี ประมาณ 7 สี ด้วยความเชื่อว่าสัปดาห์หนึ่งมี เจ็ดวัน และทุกวันจะมีเทวดาประจำอยู่ ซึ่งเทวดามีสีต่างกัน รวมถึงพิธีเซนไหว้แม่ย่านางรถ พิธีการผูกขวัญแม่ย่านางรถ และมีความเชื่อว่าพิธีเหล่านี้จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวปลอดภัยจากการขับขี่พ้นจากการประสพอุบัติเหตุ นัั้นก็เป็นเรื่องของเขาที่จะเชื่อเช่นนั้น

แต่สำหรับอิสลามนั้น มีบทบัญญัติศาสนาวางแนวทางไว้ครบถ้วนแล้ว เราจะยิบยืมเอาพิธีคนต่างศาสนิกมาเป็นพิธีของเราโดยเปลี่ยนจากบทคาถามาเป็นบทดุอาอ์ไม่ได้เด็ดขาด

จากการเปรียบเทียบการผูกคอรถของชาวต่างศาสนิกกับของมุสลิมคนหนึ่ง มันไม่ต่างอะไรกันเลย ไม่ว่าลักษณะของเส้นด้วยที่นำมาผูก และวิธีการผูกก็ตามที ของต่างศาสนิกเขาอาจจะให้พระ ครูหมอ หรือชาวบ้านผู้รู้ทางวิาชาคาถาอาคม เป็นผู้ทำพิธีเสกและผูกให้ แต่ของมุสลิมคนนี้ ตอนแรกเข้าใจว่าโต๊ะหมอแขก หรือชาวบ้านทั่วไป เป็นผู้ผูกให้ แต่เมื่อได้สอบถามจากเจ้าของรถ ปรากฏว่า ผู้ที่ทำพิธีผูกรถให้ คือ โต๊ะบาบอ ครูผู้มีความรู้ศาสนา เมื่อโต๊ะครูผู้มีความรู้กระทำเสียเอง มันจะหลงเหลืออะไรกับความบริสุทธิ์ของหลักการอิสลามที่สืบทอดมายังลูกศิษย์ ถึงแม้เอาหลักฐานอัลกุรอาน หรือหะดิษมายืนยันพวกเขาก็ตาม คำปฏิเสธของพวกเขาก็คือ  คุณเป็นใคร นำหลักฐานเหล่านั้น มาค้านกับคำสอนของโต๊ะครูที่พวกเขานับถือได้อย่างไร

ซึ่งการผูกคอรถ หรือการทำพิธีอื่นๆ เช่นพิธีเจิมรถ เป็นพิธีทางพราหมณ์ มันเป็นเรื่องไสยศาสตร์ มันเป็นเรื่องความเชื่อเรื่องโชคราง การนำเอาสิ่งอื่นมาคุ้มครองตน อันเข้าข่ายในการทำชิริกต่อพระองค์อัลลอฮฺ

ท่านนบมุหัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวไว้ว่า

" من علق تميمة فقد أشرك "

ความว่า "บุคคลใดที่แขวนเครื่องรางของขลัง แน่นอนยิ่ง เขาได้ทำชิริกแล้ว" (หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยอะหฺมัด)

หะดีษข้างต้นระบุชัดเจนแล้ว มุสลิมห้ามสวมใส่เครื่องรางของขลังใดๆ โดยเด็ดขาด เพราะถ้าแขวยจะถือว่าเป็นชิริก

ส่วนกรณีมุสลิมผูกข้อมือ, ผูกรถ โดยเชือดเหล่านั้นผ่านการทำพิธีกรรมด้วยการขอดุอาอ์ หรืออ่านอัลกุรฺอานก็ตาม เช่นนี้ หากเขาเชื่อว่าเชือดที่ผ่านพิธีกรรมดังกล่าวป้องกัน และคุ้มครองเขาให้พ้นจากสิ่งอันตรายต่างๆ ได้ เช่นนี้ ถือว่ามุสลิมผู้นั้นได้ทำชิริก

แต่ถ้าเราเชื่อว่าเชือดที่ผ่านพิธีกรรมนั้นทำให้มีความจำเริญ (บะเราะกะฮฺ) อย่างเดียว แต่ไม่เชื่อว่าคุ้มครองป้องกันสิ่งอันตายต่างๆ ได้ เช่นนี้ ถือว่าเขาผู้นั้นทำบิดอะฮฺ

والله أعلى وأعلم


พิธีผูกขวัญแม่ย่านางรถของต่างศาสนิก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น