อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

สำนวนตะชะฮุดที่ท่านอิมามชาฟิอีย์ชอบมากที่สุด




สำนวน “ตะชะฮุด” นั้นมีหลายสำนวน แล้วแต่สายรายงาน แต่ สำนวนตะชะฮุดที่ท่านอิมามชาฟิอีย์ (ร่อหิมะฮุลลอฮฺ)ชอบมากที่สุด เนื่องจากท่านมองว่ามันสมบูรณ์ที่สุด คือ สำนวน “ตะชะฮุด”ที่รายงานหะดิษมาจากท่าน อิบนุอับบาส (ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ)


อิมามชาฟิอีย์ (ร่อหิมะฮุลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
“มีหะดาที่ถูกรายงานมาเกี่ยวกับ “ตะชะฮุด” หลายหะดิษด้วยกัน ซึ่งมีความหมายแตกต่างกัน และหะดิษที่ถูกรายงานโดยอิบนุอับบาสนั้น เป็นที่ชอบแก่ฉันมาก เพราะมันสมบูรณ์ที่สุด”

อิมามอันนะวะวียฺ (ร่อหิมะฮุลลอฮฺ) กล่าวว่า
“บรรดาหะดิษที่มีมาเกี่ยวกับ “ตะชะฮุด” นั้น ทั้งหมดถูกต้อง และที่ถุกต้องที่สุด โดยเห็นพ้องของบรรดานักรายงานหะดิษ คือหะดิษที่รายงานโดยอิบนุมัสอู๊ด รองลงมาก็คือหะดิษที่รายงานจากอิบนิอับบาส”

รายงานจากท่านอิบนุอับบาส (ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ) เล่าว่า ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เคยสอนตะชะฮุดให้พวกเรา เช่นเดียวกับที่ท่านได้สอนอัลกุรอานแก่เรา ท่านได้กล่าวว่า


التَّحِيَّاتُ المُبَارَكَاتُ الصَّلَوَاتُ الطَّيِّبَاتُ للهِ، السَّلاَمُ عَلَيْكَ أَيُّهَا النَّبِيُّ وَرَحْـمَةُ اللهِ وَبَرَكَاتُـهُ،السَّلاَمُ عَلَيْنَا وَعَلَى عِبَادِ اللهِ الصَّالِـحِيْنَ، أَشْهَدُ أَنْ لاَ إلَـهَ إِلاَّ اللهُ، وَأَشْهَدُ أَنَّ مُـحَـمَّداً رَسُوْلُ اللهِ

คำอ่าน ( อัตตะหิยฺยาตุล มุบาเราะกาตุศ เศาะลาวาตุต ฏ็อยยิบาตุลิลลาฮฺ , อัสลามุอะลัยกะอัยฺยุฮันนะบิยฺยุ วะเราะฮฺมะตุลลอฮิวะบะรอกาตุฮฺ, อัสลามุอะลัยนาวะอะลา อีบาดิลลาฮิศฺศอลิหีน , อัชฮะดุอัลฺลาอิลาฮะ อิลฺลัลลอฮฺ , วะอัชฮะดุอันนะมุหัมมะดันเราะสูลุลลอฮฺีี )

“มวลการเคารพสดุดีอันจำเริญยิ่ง การวิงวอนและความดีงามต่างๆ เป็นกรรมสิทธิ์ของ อัลลอฮฺ ขอความศานติ ความเมตตาและความจำเริญทั้งหลายของอัลลอฮ์จงประสบแด่ท่านโอ้ผู้เป็นนบี  ขอความศานติจงประสบแด่พวกเราและแด่ปวงบ่าวของอัลลอฮ์ผู้ทรงคุณธรรม ฉันขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และขอปฏิญาณว่ามุฮัมหมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์ ”
(บันทึกหะดิษโดยอิมามชาฟิอีย์ มุสลิม อบูดาวูด และอันนะซาอีย์)


ยังมีสำนวน “ตะชะฮุด" หลายสำนวน ที่รายงานมา ได้แก่สำนวนตะชะฮุดที่รายงานมาจากท่านอาบีมูซาอัลอัชอะรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ, ท่านค่อลีฟะฮ์อุมัร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ หรือของท่านอาบีสะอีดอัลคุดรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ

ผู้ละหมาดสามารถอ่านตะชะฮุดในสำนวนหนึ่งสำนวนใดก็ได้

ท่านอิมามชาฟิอีย์(ร่อหิมะฮุลลอฮฺ) กล่าวว่า
“ตะชะฮุด ในรายงานไหนก็ตาม เมื่อท่านได้นำมาอ่านก็ถือว่าใช้ได้ บรรดานักวิชาการได้ลงมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่า อนุญาตให้อ่านอันหนึ่งอันใดได้"

والله أعلم بالصواب




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น