อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สัญญาณก่อนวันสิ้นโลก (การมาของนบีอีซา)



<<<< การมาของนบีอีซา >>>>

หลังจากนั้น นางก็ได้ตั้งครรภ์เด็กผู้นั้นและนางได้อุ้มครรภ์ไปยังสถานที่ห่างไกล แล้วความเจ็บครรภ์อย่างรุนแรงได้ทำให้นางต้องไปพักอยู่ใต้ต้นอินทผลัม นางได้ร้องออกมาว่า "โอ ถ้าฉันตายไปก่อนหน้านี้และไม่ต้องมีใครจำฉันได้ก็จะดี"

ดังนั้น มลาอิกะฮฺที่อยู่ปลายเท้าของนางจึงได้กล่าวปลอบน่างว่า "จงอย่าเสียใจเลย เพราะพระผู้อภิบาลของเธอได้ทรงจัดตาน้ำไว้ให้ใต้ตัวเธอแล้ว

ส่วนอาหารนั้่นเธอจงเย่าต้นอินทผลัมนี้ แล้วอินทผลัมสุกก็จะหล่นลงมาบนตัวเธอ

ดังนั้น จงกินและจงดื่ม และจงทำให้ดวงตาของเธอสดชื่นและถ้าหากเธอเห็นใคร ก็จงบอกเขาว่า "เนื่องจากฉันได้บนไว้ว่าจะถือศีลอดเพือ่พระผู้ทรงกรุณา ดังนั้น วันนี้ฉันจะไม่พูดกับใครเลย" (กุรอาน 19 : 22-26)

ข้อความจากคัมภีร์กุรอานดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นถึงลักษณะการเกิดอันมหัศจรรย์ของนบีอีซา การจัดเตรียมเป็นพิเศษที่เกิดขึ้นก่อนหน้าและหลังจากการเกิดของท่านนั้นแสดงให้เห็นว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ให้ความเอาใจใส่ในเหตุการณ์นี้เป็นพิเศษ การเกิดของนบีอีซาโดยไม่มีพ่อที่เป็นมนุษย์นี้สะท้อนถึงวิธีการที่ใช้ในการให้กำเนิดอาดัมผู้ถูกสร้างมาโดยไม่มีพ่อและแม่ เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่พระผู้เป็นเจ้าต้องการจะให้รู้ว่าเป็นที่ีมาของการเกิด ประสบการณ์ของมนุษย์ยากที่จะเข้าใจความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษยชาติในการสร้างนบีอีซาและนำท่านมายังโลกนี้

คัมภีร์กุรอานได้กล่าวต่อไปว่า : -

หลังจากนั้น นางก็ได้นำลูกของนางมายังผู้คร พวกเขากล่าวว่า "โอ มัรฺยัม นี่เป็นบาปชั่วช้าที่เธอได้ทำไป

น้องสาวองฮารูนเอ๋ย พ่อของเธอก็มิได้เป็นคนชั่วและแม่ของเธอก็มิใช่หญิงส่ำส่อน"

นางจึงได้ชี้ไปยังทารก ผู้คนจึงกล่าวว่า "เราจะพูดกับเด็กที่อยู่ในเปลได้อย่างไร ?"

แล้วเด็กคนนั้นก็ได้พูดออกมาว่า "ฉันเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ พระองค์ได้ทรงประทานคัมภีร์แก่ฉันและได้ทรงแต่งตั้งฉันให้เป็นนบี

และพระองค์ได้ทรงทำให้ฉันเป็นที่ได้รับความจำเริญไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ใด พระองค์ได้ทรงสั่งฉันให้นมาซและจ่ายซากาตตราบใดที่ฉันยังมีชีวิต

และได้ทรงให้ฉันปฏิบัติรับใช้แม่ของฉัน และมิได้ทรงทำให้ฉันเป็นผู้ก้าวร้าวและจิตใจแ็งกระด้าง

สันติได้มีแก่ฉันในวันที่ฉันเกิดและสันติจะมีแก่ฉันในวันที่ฉันตายและวันที่ฉันถูกทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง"
(กุรอาน 19 : 27-33)

ที่กล่าวมานั้นคือถ้อยคำที่นบีอีซาพูดในขณะที่อยู่ในเปล ท่านได้ปกป้องเกียรติของแม่ของท่านและยังได้ประกาศภารกิจของท่านต่อหน้าผู้คนด้วย สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่จะต้องจำก็คืออัลลอฮฺได้ทรงประทานความจำเริญแก่นบีอีซาในทั้งสามขั้นตอนของชีวิตที่แตกต่างกันของมนุษย์

ฮะดีษเกี่ยวกับมะซีฮฺฺฺอีซา บุตรของมัรฺฺยัม

....นางมัรฺยัมและลูกของนางไม่เคยถูกชัยฏอนสัมผัส....

อบูฮุร็อยเราะฮฺได้กล่าวว่า : ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ไม่มีใครที่เกิดมาในหมู่ลูกหลานของอาดัมจะไม่ถูกชัยฏอนสัมผัส ดังนั้นเด็กจะร้องเสียงดังในตอนเกิดเพราะชัยฏอนได้สัมผัสเขา ยกเว้นนางมัรฺยัมและลูกของนาง" ฮะดีษนี้มีอยู่ในหนังสือรวมฮะดีษของบุคอรี

อะลีได้เล่าว่าเขาได้ยินท่านรอซูลุลอฮฺกล่าวว่า "นางมัรฺยัมลูกสาวของอิมรอนเป็นหญิงที่ดีที่สุดในบรรดาผู้หญิง (ของโลกในสมัยของเธอ) และนางเคาะตีญะฮฺ (ภรรยาของท่านนบีมุฮัมมัด) ก็เป็นหญฺงที่ดีที่สุดในบรรดาผู้หญิง (ของชาตินี้ิ)

ความเป็นเลิศของนางอาอิชะฮฺ (ภรรยาของท่านนบีมุฮัมมัด)

อบูมูซา อัลอัชอารีได้เล่าว่าท่านนบีได้กล่าวว่า : "ความเป็นเลิศของนางอาอิชะฮฺเหนือผู้หญิงอื่นนั้นเหมือนกับความเป็นเลิศของษะรีด (นั่นคืออาหารที่ประกอบด้วยแป้งและเนื้อ) เหนืออาหารอื่น ผู้ชายหลายคนได้ไปถึงระดับของความสมบูรณ์ แต่ไม่มีผู้หญิงคนใดไปถึงระดับนั้นยกเว้นนางมัรฺยัมลูกสาวของอิมรอมและนางอาซียะฮฺฺภรรยาของฟาโรห์" ฮะดีษดังกล่าวนี้มีอยู่ในหนังสือรวมฮะดีษของบุคอรี

นบีมุฮัมมัดใกล้ชิดกับนบีอีซาที่สุด

ครั้งหนึ่ง ท่านนบีมุฮัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ได้กล่าวว่า : "ฉันใกล้ชิดกับลูกของนางมัรฺยัมมากที่สุดกว่าทุกคน และนบีทุกคนเป็นพี่น้องทางพ่อ...แต่แม่ต่างกัน แต่ศาสนาของบรรดานบีนั้นเหมือนกัน" ฮะดีษนี้รายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ

ผลประโยชน์สองชั้น

ท่านรอซุลุลลอฮฺได้กล่าวว่า : "ถ้าหากใครสอนมารยาททีี่ดีแก่ทาสหญิงของตนและให้การศึกษาแก่นางอย่างถูกต้อง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้นางเป็นอิสระและแต่งงานกับนาง เขาจะได้รับรางวัลสองชั้น (จากพระผู้เป็นเจ้า) และหากใครศรัทธาในนบีอีซาแล้วศรัทธาในฉัน เขาจะได้รับรางวัลสองชั้น (จากพระผู้เป็นเจ้า) และถ้าหากบ่าวเกรงกลัวอัลลอฮฺพระเจ้าของเขาและเชื่อฟังนายของเขา เขาก็จะได้รับรางวัลสองชั้น (จากพระผู้เป็นเจ้า)" ฮะดีษนี้เล่าโดย อัลอัชอารี



............................................................
(จากหนังสือ : สัญญาณก่อนวันสิ้นโลก)

เชค มะฮฺมูด เอช. รอชีด : เขียน
บรรจง บินกาซัน : แปล
อดทน เพื่อชัยชนะ โพส






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น