อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การให้สลามขณะมีการกล่าวคุฏบะฮฺวันศุกร์



ขณะที่มีการกล่าวคุฏบะฮฺวันศุกร์ มีผู้ละหมาดบางท่าน เมื่อละหมาดตะฮียะตุลมัสยิด (คารวะมัสยิด) เสร็จสิ้นแล้วมักจะยื่นมือไปสลามคนที่นั่งอยู่ข้างเคียง

การกระทำเช่นนั้น ไม่เป็นที่อนุญาตให้จับมือสลามกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด

และห้ามผู้อื่นให้สลามแก่เขาด้วย

และหากผู้นั้นให้สลามโดยออกเสียงว่า : อัสลามูอาลัยกุม

การละหมาดของเขาถือเป็นโมฆะ และยังไม่ได้รับผลบุญของการฟังคุฏบะฮฺอีกด้วย และเช่นเดียวกันห้ามผู้อื่นตอบรับสลามเขา

แต่หากจับมือโดยไม่ได้กล่าวสิ่งใด การละหมาดวันศุกร์ของเขาก็ไม่ถือเป็นโมฆะ  แต่เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ (มักรูฮฺ) เนื่องจากเป็นเหตุทำให้เขาและผู้อื่นหันเหจากการรับฟังคุฏบะฮฺ



...............................................................................................
ตอบโดย เชคมุฮัมมัด ซอและฮฺ อัลอุษัยมีน (ร่อหิมะฮุลลอฮฺ)






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น