<<<< ญะญูจญ์และมะญูญูจญ์ >>>>
หลังจากสงครามใหญ่กับดัจญาล ผู้คนจะได้รับความสันติระยะหนึ่ง หลังจากนั้น มลาอิกะฮฺก็จะนำข่าวมายังนบีอีซาว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายสองสิ้งเกิดขึ้นบนหน้าแผ่นดิน และพระผู้เป็นเจ้าได้สั่งให้ท่านรวมผู้คนเข้าไว้ด้วยกันพร้อมกับจัดเตรียมเสบียงอาหารและมุ่งหน้าไปยังภูเขาซีนาย ไม่มีใครมีอำนาจที่จะสู้กับสองสิ่งนี้ได้
คัมภีร์กุรอานได้กล่าวว่า : -
พวกเขาถามเจ้าเกี่ยวกับซุลก็อรนัยน์ จงบอกพวกเขาว่า "ฉันจะเล่าเรื่องราวของเขาว่า "ฉันจะเล่าเรื่องราวของเขาให้พวกท่านฟัง"
เราได้สถาปนาอำนาจให้แก่เขาบนหน้าแผ่นดินและได้ประทานปัจจัยทุกอย่างแก่พวกเขา
ในตอนแรก เขาได้เตรีัยมการเพื่ออกเดินทาง
จนกระทั่ง เขาได้มาถึงขอบเขตที่ดวงตะวันตกและพบว่ามันตกลงในน้ำสีดำ และที่นั่น เขาได้พบคนหมู่หนึ่ง เราได้กล่าวแก่เขาว่า "โอ้ ซุลก็อรฺนัยน์ เจ้ามีอำนาจที่จะลงโทษพวกเขาและก็สามารถที่จะทำคุณต่อพวกเขาด้วยเช่นกัน เขากล่าวว่า "เราจะลงโทษใครก็ตามที่สร้างความอธรรมแล้วเขาผู้นั้นจะถูกนำกลับไปยังพระผู้อภิบาลของเขาและพระองค์จะทรงลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีนั้นมีการตอบแทนสำหรับเขาและเราจะพูดแก่เขาอย่างนุ่มนวล"
แล้วเขาก็ได้มาตามเส้นทางหนึ่ง
จนกระทั้่งเขาได้มาถึงขอบเขตที่ดวงตะวันขึ้นที่นั่น เขาได้เห็นดวงจะวันขึ้นเหนือผู้คนหมู่หนึ่งที่เรามิได้ให้ที่กำบังใด ๆ จากแสงแดด
นี่เป็นสภาพของพวกเขา และเรารู้ดีถึงทุกสิ่งเกี่ยวกับเขาแล้วเขาก็ได้พบทาง
จนกระทั่งเาได้มาถึงระหว่างภูเขาสองลูกที่เขาพบว่าผู้คนเกือบจะไม่เข้าใจคำพูดใดๆ
พวกเขาได้กล่าวว่า "โอ้ ซุลก็อรฺฺนัยน์ ญะญูจน์และมะญูจญ์กำลังสร้างความเสียหายให้ขึ้นในแผ่นดิน ดังนั้น เราขอถวายบรรณาการแก่ท่านเพื่อท่านจะได้สร้างกำแพงกั้นระหว่างเรากับพวกเขา"
เขากล่าวว่า "สิ่งที่พระผู้อภิบาลของฉันได้ประทานแก่ฉันนั้นมากเกินพอแล้ว ดังนั้น พวกท่านจงช่วยฉันด้วยกำลังและฉันจะสร้างกำแพงกั้นระหว่างพวกท่านกับพวกเขา
ดังนี้น จงเอาแผ่นเหล็กมาให้ฉัน" เมื่อเขาได้ปิดช่องระหว่างภูเขาสองลูกแล้ว เขาก็ได้กล่าวแก่ผู้คนว่า "ทีนี้จงเป้าที่บีบลม" พวกเาจึงได้ทำจนกระทั่งมันร้อนแดง และเขาได้กล่าวว่า "ไปเอาทองแดงหลอมมาเพื่อฉันจะได้เทลงไปบนมัน
นี่คือกำแพงที่ญะญูจน์และมะญูจญ์ไม่สามารถข้ามมาได้และก็ไม่สามารถขุดลอดมาได้
เขาได้กล่าวว่า "นี่คือความจากพระผู้อภิบาลของฉัน แ ต่เมื่อถึงเวลาสัญญาองพระผู้อภิบาลของฉัน พระองค์จะทรงทำลายมันเป็นจุด และสัญญาของพระผู้อภิบาลของฉันเป็นจริงเสมอ"
และในวันนยั้น เราจะปล่อยให้ผู้คนส่วนหนึ่งเข้ามาปะทะกับอีกส่วนหนี่งอย่างโกลาหล และแตรจะถูกเป่า และเราจะรวมมนุษยชาติทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน
(กุรอาน 18 : 83 - 99)
เมื่อนบีอีซาพาผู้คนที่จงรักภักดีต่อท่านไปยังค่ายที่ภูเขาซีนายพร้อมกับเสบียงสำหรัยระยะเวลาหนึ่ง ญะญูจญ์และมะญูจญ์จะปรากฏตัวบนแผ่นดินและแพร่ขยายไปทั่ว พวกมันจะปล้นทำลายแผ่้นดินจนแทบไม่มีพืชผัก สัตว์หรือมนุษย์หลงเหลือไว้ตามทางที่มันผ่านไป เผ่าพันธ์ุมนุษย์จะเผชิญกับการถูกทำลายล้างอย่างไม่มีการเลือกหน้า
แต่ในที่สุด ญะญูจญ์และมะญูจญ์ก็สิ้นชีวิตอย่างฉับพลันด้วยการติดโรคที่เ้ามาในลำคอของมัน แต่การตายของมันจะเป็นสา่เหตุให้โรคร้ายและความหายนะแพร่ไปยังคนที่รอดชีวิตจนไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็จะได้เห็นแต่ร่างผู้ตายเพราะญะญูจญ์และมะญูจญ์
นบีอีซาพร้อมกับสาวกของท่านจะลงมาจากภูเขาซีนายไปยังท่งราบและวิงวอนขอความโปรดปรานและความเมตตาต่ออัลลอฮฺ
มีฮะดีษหลาบตอนที่กล่าวถึงเรื่องญะญูจญ์และมะญูจญ์
ครั้งหนึ่ง ท่านนบีได้ตื่นขึ้นมากจาการนอนหลับด้วยใบหน้าที่แดงและกล่าวว่า "ไมมีผู้ใดที่คู่ควรแก่การเคารพกราบไหว้นอกไปจาอัลลอฮฺ ความวิยัติจะเกิดขึ้นกับชาวอาหรับจากความชั่วร้ายอันมหันต์ที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้พวกเา วันนี้ ช่องว่างได้เกิดขึ้นแล้วในกำแพงกั้นญะญูจญ์และมะญูจญ์" มีึคนถามว่า "เราะจะถูกทำลายแม้จะมีคนดีมากมายอยู่ในหมู่พวกเรากระนั้นหรือ ?" ท่านนบีได้ตอบว่า "ใช่ ถ้าหากความชั่วเพิ่มขึ้น"
ฮะดีษดังกล่าวนี้รายงานโดยซัยนับ บินติญะฮัซและมีปรากฏอยู่ในรวมฮะดีษของบุคอรี
ครั้งหนึ่งท่านนบีได้ยืนอยู่บนอาคารสูงแห่งหนึ่งในมะดีนะฮฺและกล่าวแก่ผู้คนว่า "พวกท่านเห็นสิ่งที่ฉันเห็ฯหรือเปล่า ?" พวกเาตอบว่า "ไม่" ท่านได้กล่าวว่า "ฉันเห็นความเดือดร้อนตกลงมายังบ้านของพวกท่านเหมือนกับฝนตกลงมา"
ฮะดีษดังกล่าวนี้เล่าโดยอุซามะฮฺ บินเซด และมีปรากฏอยู่ในรวมฮะดีษองบุคอรี
ฮะดีษในยุคตต้นสอนเราว่าญะญูจญ์และมะญูจญ์จะำลายกำแพงที่ซุลก็อรฺนัยน์สร้างไว้และมันจะสร้างความเดือดร้อนเสียหายอย่างมากมายไปทั่ว เมื่อความชั่วเพิ่มมากึ้น มนก็จะทำลายสังคมทั้งหมด
เมื่อญะญูจญ์และมะญูจญ์ปรากฏบนผืนแผ่นดิน พวกมันจะเคลื่อนตัวเหมือนกับคลืื่นใหญ่บนโลก มีการพูดกันว่าญะญูจญ์และมะญูจญ์จะเข้ามักกะฮฺและมะดีนะฮฺด้วยถึงแม้เรายังคงจำได้ว่าแม่แต่ดัจญาลที่่ทรงพลังก็ไม่มีความเข้มแข็งของพลังทำลายล้าวตัวใหม่ต่อมนุษยชาติ
ความจริงแล้ว มนุษย์ไมมีคำตอบใด ๆ ต่อการข่มขู่คุกคามนี้นอกไปจากการขอความช่วยเหลือและความเมตตาต่ออัลลอฮฺ การวิงวอนของมนุษยชาติที่นำโดยนบีอีซาจะได้รับการสนองตอบจากพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะส่งฝูงนกมาขจัดซากศพของญะญูจญ์และมะญูจญ์และคนอื่น ๆ ที่ตายเพราะน้ำมือของมัน หลังจากนั้น พระผู้เป็นเจ้าก็จะประทานฝนหนักลงมาชำระล้างแผ่นดินและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้เกิดขึ้น
ผลทับทิมจะเจริญเติบโตขึ้นเป็นอาหารสำหรับผู้คนทั่วไป สัตว์ทั้งหลายก็จะให้นมเพิ่มึ้นจนถึงขนาดที่อูฐตัวเมียสามารถให้นมอย่างเพียงพอแก่คนเผ่าหนึ่ง และนมของแพะก็จะเพียงพอสำหรับครอบครัวใหย่ นี่คือช่วงเวลาแห่งความสันติและความเจริญมั่งคั่ง
นบีอีซาจะใช้ชีวิตครอบครัวตามปกติบนโลกและจะนำผู้คนเป็นเวลา 40 ปีแห่งความรุ่งเรืองทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามแผนการของพระผุ้เป็นเจ้า หลังจากนั้น นบีอีซาก็จะเสียชีวิืตและถูกฝังในมะดีนะข้างนบีมุฮัมมัดซึ่งหลุมฝังศพได้เตรียมไว้สำหรับท่านแล้ว
....รอติดตาม เรื่อง "สัญญาณใหญ่แห่งวันอวสาน " ต่อไปนะคะ อินชาอัลลอฮฺ
.......................................................
(จากหนังสือ : สัญญาณก่อนวันสิ้นโลก)
เชค มะฮฺมูด เอช. รอชีด : เขียน
บรรจง บินกาซัน : แปล
อดทด เพื่อชัยชนะ โพส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น