อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สัญญาณก่อนวันสิ้นโลก (นาทีอวสาน)


.

<<<< นาทีอวสาน >>>>

หลังจากที่ก๊ะบะฮฺถูกทำลายไปไม่กี่ปี ในเช้าวันศุกร์ที่ 10 เดือนมุฮัรฺร็อมของปฏิทินอิสลาม พระผู้เป็นเจ้าจะสั่งให้มลาอิกะฮฺที่มีชื่ออิสรอฟีล เป่าแตรครั้งสุดท้าย นี่คือหน้าที่ของอิสรอฟีลนับตั้งแต่เริ่มต้นของกาลเวลา

เมื่ออิสรอฟีลเป่าแตร เสียงของแตรจะค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งความสั่นสะเทือนของเสียงแผดดังของแตรได้ทำให้ทุกสิ่งแตกออก

จักรวาลถูกรวมเ้าด้วยกันในความสมดุลโดยพลังของเสียงแตรโลกนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยวจนะจากพระผู้เป็นเจ้า ผู้คนในโลกนี้มีชีวิตอยู่ได้ก็โดยวจนะ (กะลิมะฮฺ) ของพระเจ้า และตอนนี้โบกก็จะถูกทำลายด้วยเสียงหนึ่ง แม้แต่ภูเขาก็จะปลิวว่อนเหมือนกับกระจุกขนแกะ รูปแบบของชีวิตทั้งหมดจะสิ้นสุดลงและไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่นอกไปจากพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว

คัมภีร์กุรอานกล่าวว่า : -

พวกเขาไม่พิจารณาหรือว่าเราได้ให้กลางคืนไว้สำหรับพวกเขาเพื่อได้พักผ่อนและกลางวันเพื่อให้เห็นแสงสว่าง ? แท้จริง ในวันนัั้นมีสัญญาณมากมายสำหรับหมู่ชนผู้ศรัทธาและ (จงเตือนให้พวกเขานึกถึง) วันที่แตรถูกเป่าและผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินจะตื่นตระหนกนอกจากผู้ที่อัลลอฺฮฺทรงประสงค์ และทั้งหมดจะมาหาพระองค์ในสภาพถ่อมตน

และเจ้าจะได้เห็นภูเขาที่เจ้าคิดว่ามันมั่นคงปลิวว่อนเหมือนการล่องลอยของเมฆ นั่นคือการกระทำของอัลลอฮฺผู้ทรงทำให้ทุกสรรพสิ่งสมบูรณ์ แท้จริง พระองค์ทรงรู้ถึงสิ่งที่สูเจ้ากระทำ

ใครก็ตามที่นำความดีมาก็จะได้รับความดีมากกว่านั้น และในวันนั้น พวกเขาจะปลอดภัยจากการตื่นตระหนก

และผู้ใดนำมาซึ่งความชั่ว ใบหน้าของพวกเขาจะถูกคว่ำลงไปในไฟ สูเจ้าจะได้รับการตอบแทนตามที่สูเจ้าได้กระทำไว้เท่านั้น" (กุรอาน 27 : 86-90)

คัมภีร์กุรอานได้กล่าวต่อไปว่า : -

และจงกล่าวเถิด "บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ พระองค์จะทรงให้สูเจ้าเห็นสัญญาณทั้งหลายของพระองค์ เพื่อที่สู่เจ้าจะได้รู้จักมัน และพระผู้อภิบาลของสูเจ้ามิได้เพิกเฉยต่อสิ่งที่สูเจ้ากระทำ" (กุรอาน 27 : 93)

มีหลายฮะดีษที่พูดถึงเรื่องสัญญาณก่อนนาทีอวสานจะมาถึง เช่น :

ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า : "ชั่วโมงนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่ามนุษย์คนหนึ่งผ่านหลุมฝังศพของใครบางคนและกล่าวว่า 'ฉันอยากจะมาอยู่ในที่ของเขาบ้าง' "

อีกฮะดีษหนึ่งกล่าวว่า "ชั่วโมงนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าชายคนหนึน่งจากเผ่าเก๊าะฮฺฎอนจะปรากฏขขึ้นแล้วขับไล่ผู้คนด้วยไม้"

ทั้งสองฮะดีษนี้เล่าโดยอบูฮุร็อยเราะฮฺและมีปรากฏอยู่ในฮะดีษที่เชื่อถือได้ของบุคอรี

ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า : "สัญญาณแรกของชั่วโมงนั้นก็คือ ไฟที่จะรวมผู้คนจากตะวันออกไปยังตะวันตก" (ฮะดีษนี้รายงานโดยอนัส)

ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า : "ชั่วโมงนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าไฟจะปรากฏึข้นในแผ่นดินฮิญาซและแสงสว่างของมันจะปรากฏบนคอของอูฐที่บัสเราะฮฺ"

ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า : "ในไม่ช้า แม่น้ำยูเฟรตีสจะเปิดเผยให้เห็นถึงคลังแห่งทองคำ ดังนั้น ใครก็ตามที่อยู่ในเวลานั้นจะต้องไม่เอาสิ่งใดจากมัน" (รายงานโดยอบูฮุร็อยเราะฮฺ)

ฮาริษ บินวะฮาบ ได้ยินท่านรอซูลของอัลลอฮฺกล่าวว่า : "จงให้ทานเพราะมันจะมีเวลาหนึ่งซึ่งผู้คนจะออกไปพร้อมกับทานจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่ง แต่ไม่สามารถหาคนที่จะรับมันได้"

ฮะดีษดังกล่าวนี้เป็นสัญลักษณ์ชี้ให้เราเห็นถึงเหตุการณืต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นก่อนชั่วโมงอวสานทั้งนี้เพื่อที่มนุษย์จะได้เตรียมตัวสำหรบการพบกับพระผู้อภิบาลของพวกเา บางครั้ง ความสะดวกสบายทางวัตถุอาจทำให้คนละทิ้งหน้าที่ของเขาต่อพระเจ้าและมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนัั้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสัญญาณเตือนให้เราระวังตัว

ท่านรอซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า : "ชั่วโมงนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่า

1) คนสองกลุามจะต่อสู้กันจนทั้งสองฝ่ายต่างบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากและพวกเาจะปฏิบัติตามหลักศาสนาเดียวกัน

2) ดัจญาล (จอมโกหก) ประมาณ 30 คนจะเกิดขึ้นและพวกมันจะอ้างตัวว่าเป็นศาสนทูตองอัลลอฮฺ

3) ความรู้ทางศาสนาจะหมดไป (โดยการตา่ยของผู้มีความรู้)

4) แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

5) เวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว

6) ความทุกข์ยากเดือดร้อนจะปรากฏขึ้น

7) การฆ่ากันจะมากขึ้น

8) ทรัพย์สินจะมมีมากมายจนถึงขนาดที่ผู้มั่งคั่งกังวลว่าจะไม่มีใครรับซะกาต (ทานที่ศาสนากำหนด) และเมื่อใดก็ตามที่เขาเอาไปให้ใครบางคน คนผู้นั้นจะกล่าวว่า "ฉันไม่ต้องการมัน"

9) ผู้คนจะแข่งขันกันสร้างตึกสูง

10) ชายคนหนึ่งผ่านหลุมศพของใครบางคนจะกล่าวว่า "ฉันอยากจะไปอยู่ในที่ของเขาเหลืิอเกิน"

11) ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก และเมื่อคนเห็นมันขึ้นทางทิศตะวันตก พวกเขาจะศรัทธา แต่ในตอนนั้นจะเป็ฯเวลาที่อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า "ความศรัทธาของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่ชีวิตที่ไม่ได้ศรัทธามาก่อนหรือแก่ผู้ที่ศรัทธาแต่มิได้กระทำความดีไว้" (กุรอาน 6 : 158)

และชั่วโมงนั้นจะเกิดขึ้นในขณะที่คนสองคนคลี่ผ้าต่อหน้าพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถจะขายมันได้และเขาจะไม่พับมัน และชั่วโมงสุดท้ายจะเกิดขึ้นเมื่อชายคนหนึ่งได้รีดนมอูฐไป แต่เขาไม่สามารถที่จะดื่มนมนั้นได้ และชั่วโมงสุดท้ายจะเกิดขึ้นเมื่อคนผู้หนึ่งที่ซ๋อมถังน้ำ (สำหรับปศุสัตว์ของเขา) ไม่สามารถที่จะให้น้ำในถังนั้นแก่สัตว์ได้ และชั่วโมงสุดท้ายจะเกิดขึ้นเมื่อใครคนหนึ่งได้ยกข้าวขึ้นมาที่ปากของเขา แต่ก็ไม่สามารถที่จะกินได้

ฮะดีษนี้รายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺและมีปรากฏอยู่ในฮะดีษที่เชื่อถือได้ของบุคอรี

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือภาพของเหตุการณ์โดยรวมที่จะนำไปสู่เวลาอวนาน ความหมายสำคัญของมันก็คือในเวลานั้น อะไรก็ตามที่ใครต้องการจะทำ เขาก็ไม่สามารถทำได้ ความกลัวจะเกิดขึ้นทั่วโลกและการทำลายก็จะเริ่มต้น

....รอติดตาม เรื่อง "วันแห่งการฟื้นคืนชีพและการตัดสิน " ต่อไปนะคะ อินชาอัลลอฮฺ




.............................................................
(จากหนังสือ : สัญญาณก่อนวันสิ้นโลก)
เชค มะฮฺมูด เอช. รอชีด : เขียน
บรรจง บินกาซัน : แปล
อดทด เพื่อชัยชนะ โพส


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น