อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คุณลักษณะของอุละมาอ์อะฮฺลุสสุนนะฮฺ




คุณลักษณะของอุละมาอ์อะฮฺลุสสุนนะฮฺ
จากเว็ปไซต์ www.salafy.or.id/
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur


ใครคืออุละมาอ์?

ท่านอิบนุ ญุร็อจญ์ เราะหิมะฮุลลอฮ ได้นำเสนอ(ทัศนะ)จากท่านอะฏออ์ ว่าท่านกล่าวว่า “ผู้ใดรู้จักอัลลอฮ เขาก็คือผู้รู้-อาลิม” (ญามิอฺ บะยาน อิลมุ วะ ฟัฎลิฮฺ หน้า 2/49)

อัช-ชัยคฺ อิบนุ อุษัยมีน เราะหิมะฮุลลอฮ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ กิตาบุล อิลมฺ ว่า “อุละมาอ์ คือ ผู้ที่เผยแพร่ความรู้ของพวกเขาเพื่อให้เกิดความยำเกรงต่ออัลลอฮ” (กิตาบุล อิลมฺ หน้า 147)

ท่านบัดรุดดีน อัล-กินานีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ กล่าวว่า “พวกเขา(อุละมาอ์) คือ ผู้ที่อธิบายทุกสิ่งที่หะลาลและหะรอม และเรียกร้องไปสู่สิ่งดีงาม พร้อมกับปฏิเสธชั่วร้ายทั้งมวล”(ตัซกิยะตุส สามิอฺ หน้า 31)

ท่านอับดุสสลาม บิน บัรญัส เราะหิมะฮุลลอฮ กล่าวว่า “ผู้ที่คู่ควรต่อการเรียกว่าเป็น “ผู้รู้-อาลิม” นั้น จำนวนของพวกเขามีน้อย และไม่ถือว่าเกินเลยแต่อย่างใด หากเราจะกล่าวว่าแทบจะไม่มี(มีน้อยมาก) อันเป็นเพราะ คุณลักษณะของผู้รู้นั้น ส่วนใหญ่แล้วไม่มีอยู่ที่บุคคลที่อ้างตน(หรือผู้อื่นอ้างให้)ว่ามีความรู้ในยุคสมัยนี้ยังไม่ถือว่าเป็นผู้รู้-อาลิม หากเพียงแค่มีความสามารถในการพูดหรือเขียน (ตลอดจน)ผู้ที่เผยแพร่งานเขียนต่างๆ หรือผู้ที่ตรวจทานหนังสือต่างๆด้วยมือ หากผู้รู้-อาลิมถูกเทียบเช่นนี้แล้ว ก็จบกัน(หมายถึง ผู้รู้ก็จะมีอย่างมากมาย) แต่มโนภาพเช่นนี้แหล่ะ ที่มักจะเกาะติดอยู่ในความคิดของคนที่ไม่มีความรู้ดังนั้น จึงมีคนจำนวนมากถูกหลอกด้วยกับความสามารถของคนๆนหนึ่ง และถูกหลอกด้วยความเชี่ยวชาญในการประพันธ์งานเขียน ทั้งๆที่เขามิใช่อุละมาอ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนประหลาดใจ ผู้รู้-อาลิมที่แท้จริงนั้นคือ ผู้ที่มีความรู้ศาสนาอย่างลึกซึ้ง รู้บทบัญญัติของอัล-กุรอานและอัส-สุนนะฮฺ มีความรู้อุศูลุลฟิกฮฺ เช่น การนาสิคและมันสูค , มุฏลัก , มุก็อยยัด , มุจญ์มัล , มุฟัสสัร และผู้ที่สำรวจคำพูดของสะลัฟ(มาใช้พิจารณาและปฏิบัติตาม) เมื่อพวกเขาประสบกับความขัดแย้ง” (วุญูบุล อิรติบาฎ บิ อุละมาอ์ หน้า 8)

อัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ได้ตรัสถึงคุณลักษณะเฉพาะของผู้รู้-อาลิม ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนส่วนมากที่อ้างว่ามีความรู้ หรือที่ถูกยอมรับว่าเป็นผู้รู้ หรืออาจจะถึงขั้นเรียกว่า วะลิยุลลอฮ-คนรักของอัลลอฮ พระองค์ตรัสว่า

إِنَّمَا يَخْشَى اللَّهَ مِنْ عِبَادِهِ الْعُلَمَاء

แท้จริง บรรดาผู้ที่มีความรู้จากปวงบ่าวของพระองค์เท่านั้นที่เกรงกลัวอัลลอฮ (สูเราะฮฺฟาฏิร 35 : 28)

คุณลักษณะของอุละมาอ์

บทความนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ทราบว่า ใครคือผู้ที่คู่ควรได้รับการเรียกขานว่าเป็นอุละมาอ์ และบุญคุณของพวกเขาในการปกป้องอิสลามและมุสลิมจากศัตรูของศาสนา เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยที่ดีที่สุด นั่นคือ ยุคเศาะหาบะฮฺ จนถึงปัจจุบันบทความชิ้นนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อฉายภาพที่ถูกต้องแก่พี่น้องมุสลิมบางส่วนที่มอบชื่อ อุละมาอ์ ให้แก่บุคคลที่ไม่คู่ควรได้รับมัน

A- มุสลิมบางคนดูแคลนสิทธิของอุละมาอ์ สำหรับพวกเขาแล้ว อุละมาอ์ก็คือ ผู้ที่มีความสามารถในการเล่นลิ้น(ในการพูด) และประดับประดาคำพูดของพวกเขาด้วยเรื่องเล่า กวีโคลงกลอน หรือความรู้บำบัดหัวใจ(ให้อ่อนโยน)

B- มุสลิมบางคนยึดถืออุละมาอ์เป็น บุคคลที่เข้าใจชีวิต(ทั้งหมด)และลึกซึ้งกับมัน เป็นบุคคลที่กล้าหาญในการต่อต้านผู้นำผู้ปกครอง(แน่นอนว่า ด้วยปราศจากทางนำของความรู้)

C- ในหมู่พวกเขามีผู้ที่เข้าใจว่า อุละมาอ์คือ หนอนหนังสือ แม้ว่าจะไม่ได้เข้าใจในเนื้อหาของมันตามการเข้าใจของชนยุคสะลัฟก็ตาม

D- ในหมู่พวกเขามีผู้ที่เข้าใจว่า อุละมาอ์คือ ผู้ที่อพยพ-ย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อการดะอฺวะฮฺผู้คน พวกเขากล่าวว่า เราไม่ต้องการตำราหนังสือ แต่เราต้องการดาอีย์และงานดะอฺวะฮฺ

E- มุสลิมบางคนไม่สามารถแยกแยะออกได้ ระหว่างผู้รู้-อาลิม กับนักเล่า(หรือนักบรรยาย)และนักตักเตือน รวมถึงระหว่างนักศึกษากับอุละมาอ์ สำหรับพวกเขาแล้ว นักเล่าเรื่อง(หรือนักบรรยาย)นั้นคืออุละมาอ์ ที่เป็นแหล่งรับความรู้และถามปัญหา

ส่วนหนึ่งจากคุณลักษณะของอุละมาอ์ คือ

1- อิบนุ เราะญับ อัล-หัมบะลีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ กล่าวว่า “พวกเขา คือ ผู้ที่ไม่ต้องการตำแหน่ง และรังเกียจการยกย่องสรรเสริญ และไม่โอ้อวด(หรือยิ่งยโส)ต่อใครๆ ” อัล-หะสัน กล่าวว่า “ผู้รู้(ฟากิฮฺ) คือ ผู้ที่มีความสมถะต่อดุนยา และรักในอาคิเราะฮฺ มีความรู้(ที่ลึกซึ้งและแม่นยำ)เกี่ยวกับศาสนา และทำการอิบาดะฮฺต่อพระผุ้อภิบาลของเขาอยู่เสมอ”ในอีกรายงาน ระบุว่า “คือผู้ที่ไม่อิจฉาต่อใครคนใดที่อยู่สูงกว่าตน และไม่ดูถูกดูแคลนใครที่(มีฐานะ)อยู่เบื้องล่างตนเอง และไม่รับค้าข้างในการเผยแพร่ความรู้ของอัลลอฮแต่อย่างใด” (อัล-คิฏอบุล มินบะริยยะฮฺ 1/177)

2- อิบนุ เราะญับ อัล-หัมบะลีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ กล่าวว่า “พวกเขา(อุละมาอ์) คือ ผู้ที่ไม่อ้างตนว่าเป็นผู้มีความรู้ ไม่ภูมิใจในความรู้ของตนเองเหนือผู้อื่น และจะไม่จดจ่ออยู่กับการตัดสินคนโง่เขลาว่าเป็นผู้สวนทางสุนนะฮฺ”

3- อิบนุ เราะญับ อัล-หัมบะลีย์ กล่าวว่า “พวกเขา(อุละมาอ์) คือ ผู้คิดในแง่ร้ายต่อตัวของพวกเขาเอง และคิดในแง่ดีต่ออุละมาอ์สะลัฟ และพวกเขายอมรับในบรรดาอุละมาอ์ก่อนหน้าพวกเขา และยอมรับว่า พวกเขามิอาจบรรลุไปถึงขั้นของพวกเขา หรือใกล้เคียงพวกเขาได้”

4- พวกเขามีความเห็นว่า สัจธรรมและทางนำนั้น มีอยู่ในการทำตามสิ่งที่อัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ทรงประทานมาให้ อัลลอฮ ทรงตรัสว่า

وَيَرَى الَّذِينَ أُوتُوا الْعِلْمَ الَّذِي أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ هُوَ الْحَقَّ وَيَهْدِي إِلَى صِرَاطِ الْعَزِيزِ الْحَمِيدِ

และผู้ที่ได้รับความรู้จะตระหนักดีว่า สิ่งที่ได้ถูกประทานแก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้านั้นเป็นสัจธรรม และจะชี้นำไปสู่แนวทางแห่งพระผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ (สูเราะฮฺสะบะอ์ 34 : 6)

5- พวกเขาคือ ผู้ที่เข้าใจดีที่สุดในการอุปมาอุปมัยของอัลลอฮในคัมภีร์อัล-กุรอาน ตลอดจนสิ่งที่อัลลอฮและเราะสูลของพระองค์ประสงค์ อัลลอฮฺ ตรัสว่า

وَتِلْكَ الْأَمْثَالُ نَضْرِبُهَا لِلنَّاسِ وَمَا يَعْقِلُهَا إِلَّا الْعَالِمُونَ

และเหล่านี้คืออุปมาทั้งหลายที่เราได้เปรียบเทียบมัน สำหรับปวงมนุษย์แต่ไม่มีผู้ใดตระหนักมันหรอก นอกจากผู้มีความรู้ (สูเราะฮฺอัล-อังกะบูต 29 : 43)

6- พวกเขาเขาคือ ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์หุกุ่มและการเข้าใจมัน อัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ตรัสว่า

وَإِذَا جَاءَهُمْ أَمْرٌ مِّنَ الْأَمْنِ أَوِ الْخَوْفِ أَذَاعُوا بِهِ ۖ وَلَوْ رَدُّوهُ إِلَى الرَّسُولِ وَإِلَىٰ أُولِي الْأَمْرِ مِنْهُمْ لَعَلِمَهُ الَّذِينَ يَسْتَنبِطُونَهُ مِنْهُمْ ۗ وَلَوْلَا فَضْلُ اللَّـهِ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَتُهُ لَاتَّبَعْتُمُ الشَّيْطَانَ إِلَّا قَلِيلًا

ละเมื่อมีเรื่องหนึ่งเรื่องใดมายังพวกเขาจะเป็นความปลอดภัยก็ดีหรือความกลัวก็ดี พวกเขาก็จะแพร่มันออกไปและหากว่าพวกเขาให้มันกลับไปยังเราะสูล และยังผู้ปกครองการงานในหมู่พวกเขาแล้ว แน่นอนบรรดาผู้ที่วินิจฉัยมันในหมู่พวกเขาก็ย่อมรู้มันได้ และหากมิใช่ความเมตตาของอัลลอฮที่มีต่อพวกเจ้าแล้ว แน่นอน พวกเจ้าก็คงปฏิบัติตามชัยตอนไปแล้ว นอกจากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (สูเราะฮฺอัน-นิสาอ์ 4 : 83)

7- พวกเขาคือ ผู้ที่นอบน้อมและยอมตนในการปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา พระองค์ตรัสว่า

قُلْ آمِنُواْ بِهِ أَوْ لاَ تُؤْمِنُواْ إِنَّ الَّذِينَ أُوتُواْ الْعِلْمَ مِن قَبْلِهِ إِذَا يُتْلَى عَلَيْهِمْ يَخِرُّونَ لِلأَذْقَانِ سُجَّدًاوَيَقُولُونَ سُبْحَانَ رَبِّنَا إِن كَانَ وَعْدُ رَبِّنَا لَمَفْعُولاًوَيَخِرُّونَ لِلأَذْقَانِ يَبْكُونَ وَيَزِيدُهُمْ خُشُوعًا

จงกล่าวเถิดมุหัมมัด พวกท่านจะศรัทธาในมันหรือไม่ศรัทธาก็ตามแท้จริง บรรดาผู้ได้รับความรู้ก่อนหน้ามันนั้นเมื่อมันได้ถูกอ่านแก่พวกเขาพวกเขาจะหมอบราบลง ใบหน้าจรดพื้นเพื่อสุญด และพวกเขาจะกล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้าของเรา สัญญาของพระเจ้าของเรานั้นแน่นอน ย่อมถูกปฏิบัติให้ครบถ้วน และพวกเขาจะหมอบราบลงใบหน้าจรดพื้นพลางร้องไห้และมันจะเพิ่มการสำรวมแก่พวกเขา (สูเราะฮฺอัล-อิสรออ์ 17 : 107-109)

(มุอามะละตุล อุละมาอ์ เขียนโดย ชัยคฺ มุหัมมัด บิน อุมัร บิน สาลิม บัซมูล , วุญูบ อัล-อิรติบาฎ บิล อุละมาอ์ เขียนโดย ชัยคฺ หะสัน บิน กอสิม อัร-ริมีย์)

นี่คือคุณลักษณะบางประการของอุละมาอ์ที่แท้จริง ที่อัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ทรงตรัสไว้ในอัล-กุรอาน และในสุนนะฮฺของท่านเราะสูล ผู้แสดงท่าทีเป็นผู้รู้และสวมเครื่องแต่งกายของพวกเขาก็เป็นที่ชัดเจนว่า แท้จริงแล้ว พวกเขาไม่คู่ควรที่จะสวมใส่มัน ทั้งหมดนี้ได้เปิดเผยให้เห็นถึงธาตุแท้ของอุละมาอ์อะฮฺลุลบิดอะฮฺ ซึ่งพวกเขามิได้เป็นดังชื่อเรียกขานแต่อย่างใด พวกเขาห่างไกลจากอัล-กุรอานและอัส-สุนนะฮฺ และออกนอกแนวทางสะลัฟ

ตัวอย่างอุละมาอ์ร็อบบานีย์

ในส่วนนี้นั้น มิได้ต้องการจำกัดอยู่แค่เพียงพวกเขา แต่ถือเป็นตัวอย่างชีวิตของอุละมาอ์(ที่เราจะได้นำมาใคร่ครวญ และนำมาใช้ในการพิจารณาว่า ใครคืออุละมาอ์ที่แท้จริง กับผู้คนในปัจจุบัน-ผู้แปล) แม้นว่าพวกเขาจะกลับไปยังอัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา แล้วก็ตาม พวกเขามีชีวิตด้วยบุญคุณของพวกเขาเองที่มีต่ออิสลามและชาวมุสลิม และด้วยงานมรดกแห่งงานเขียนของพวกเขา ดังตัวอย่างต่อไปนี้

1- จากยุคเศาะหาบะฮฺ ซึ่งนำโดย เคาะลีฟะฮฺ อัร-รอชิดีน ทั้งสี่ท่าน คือ ท่านอบูบักร , อุมัร , อุษมาน และอลี

2- ยุคตาบิอีน ในแกนนำอุละมาอ์ของพวกเขา ก็คือ ท่านสะอีด บิน อัล-มุสสัยยับ(เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 90) ท่านอุรวะฮฺ บิน อัซ-ซุบัยรฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 93) ท่านอลี บิน หุสัยนฺ ซัยนัลอาบิอีน (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 93) ท่านมุหัมมัด บิน อัล-หะนะฟียยะฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 80) ท่านอุบัยดุลลอฮ บิน อับดุลลอฮ บิน อุตบะฮฺ บิน มัสอูด (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 94 หรือหลังจากนั้น) ท่านสาลิม บิน อับดุลลอฮ บิน อุมัร (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 106) ท่านหะสัน อัล-บัศรีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 110) ท่านมุหัมมัด บิน สิรีน (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 110) ท่านอุมัร บิน อับดุลอะซีซ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 101) และท่านมุหัมมัด บิน ชิฮาบ อัซ-ซุฮฺรีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 125)

3- ยุคตาบิอิต ตาบิอีน ในบรรดาแกนนำผู้รู้ของพวกเขา ได้แก่ อัล-อิมามมาลิก (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 179) ท่านอัล-เอาซาอีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 107) ท่านสุฟยาน บิน สะอีด อัษ-เษารีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 161) ท่านสุฟยาน บิน อุยัยนะฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 198) ท่านอิสมาอีล บิน อุลัยยะฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 193) ท่านอัล-ลัยษฺ บิน สะอดฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่175) และท่านอบูหะนิฟีย์ บิน อัน-นุอฺมาน (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 150)

4- ยุคหลังจากพวกเขา ได้แก่ ท่านอับดุลลอฮ บิน อัล-มุบาร็อก (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 181) ท่านวากิอฺ บิน ญัรรอหฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 197) ท่านมุหัมมัด บิน อิดรีส อัช-ชาฟิอีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 203) ท่านอับดุรเราะหฺมาน บิน มะฮฺดีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 198) ท่านยะหฺยา บิน สะอีด อัล-ก็อฏฏอน (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 198) และท่านอัฟฟาน บิน มุสลิม (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 219)

5- ลูกศิษย์ของพวกเขา ได้แก่ อัล-อิมามอะหฺมัด บิน หัมบัล (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 241) ท่านยะหฺยา บิน มะอีน (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 233) และท่านอลี บิน อัล-มาดินีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 234)

6- ลูกศิษย์ของพวกเขา เช่น อัล-อิมามอัล-บุคอรีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่256) อัล-อิมามมุสลิม (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 261) อบูหาติม (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 277) อบูซุรอะฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 264) อบูดาวูด (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 275) อัต-ติรมีซีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 279) และอัน-นะสาอีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 303)

7- ชนยุคหลังพวกเขา เช่น อิบนุญะรีร (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 310) อิบนุคุซัยมะฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 311) อัด-ดารุกุฏนีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่385) อัล-เคาะฏีบ อัล-บัฆดาดีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 463) อิบนุอับดิลบัร อัน-นุมัยรีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 463)

8- ชนยุคหลังพวกเขา เช่น อับดุลฆอนิย์ อัล-มักดีสีย์ , อิบนุกุดามะฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 620) อิบนุเศาะลาฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 643) อิบนุตัยมียะฮฺ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 728) อัล-มิซซีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 743) อัซ-ซะฮะบีย์ (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 748) อิบนุกะษีร (เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 774) และอุละมาอ์ยุคเดียวกันกับพวกเขา และลูกศิษย์ของพวกเขาที่ดำเนินตามแนวทางของพวกเขาในการยึดมั่นกับอัล-กุรอานและอัส-สุนนะฮฺจนถึงวันนี้

9- ตัวอย่างอุละมาอ์(ร็อบบานีย์)ในยุคสมัยนี้ เช่น ชัยคฺ อับดุลอะซีซ บิน บาซ , ชัยคฺ มุหัมมัด นาศิรุดดีน อัล-อัลบานีย์ , ชัยคฺ มุหัมมัด บิน ศอลิหฺ อัล-อุษัยมีน , ชัยคฺ มุหัมมัด อะมาน อัล-ญามิอฺ , ชัยคฺ มุกบิล บิน ฮาดีย์ อัล-วาดิอีย์ และคนอื่นๆที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในยุคสมัยของเรา และชัยคฺ อะหฺมัด บิน ยะหฺยา อัน-นัจญ์มีย์ , ชัยคฺ ศอลิหฺ บิน เฟาซาน บิน อับดุลลอฮ อัล-เฟาซาน , ชัยคฺ ซัยดฺ อัล-มัดคอลีย์ , ชัยคฺ อับดุลอะซีซ อะลู ชัยคฺ , ชัยคฺ อับดุลมุหฺสิน อัล-อับบาด , ชัยคฺ อัล-ฆุดัยยาน , ชัยคฺ ศอลิหฺ อัล-ลุหัยดาน , ชัยคฺ ศอลิหฺ อัส-สุหัยมีย์ , ชัยคฺ อุบัยดฺ อัล-ญาบรีย์ และคนอื่นๆที่ดำเนินตามแนวทางของพวกเขาบนแนวทางสะลัฟ (มุญูบ อิรติบาฏ บิ อุละมาอ์)

วัลลอฮุอะอฺลัม

(นำมาจาก วารสารอัช-ชะรีอะฮฺ เล่มที่ 1 หมายเลขที่ 12 ปีฮิจเราะฮฺที่ 1425 ปีคริสตศักราชที่ 2005 หัวข้อ คุณลักษณะของอุละมาอ์ เขียนโดย อัล-อุสตาซ อบู อุสามะฮฺ บิน เราะวียะฮฺ อัน-นะวะวีย์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น