อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

โต ผมเปลี่ยนคนที่หลงผิดด้วยการพูดแทนเสียงเพลง

เปิดใจ โต วีรชน ศรัทธายิ่ง (ชื่อเดิม ณัฐพล พุทธภาวนา) 

 โต วีรชน ก็ได้ออกมาเปิดใจกับรายการ เจาะใจ เกี่ยวกับชีวิตใหม่บนเส้นทางแห่งศรัทธาของ โต ซิลลี่ฟูล จากร็อคสตาร์ยอดนิยม กลายเป็นบุคคลที่ใช้การปฏิบัติตนและศรัทธาทั้งหมดเพื่อศาสนาอิสลาม โดย โต วีรชน เริ่มย้อนเล่าให้ฟังว่า เขาเกิดมาในครอบครัวมุสลิมที่สอนให้ลูกหัดคิด หัดใช้สมองตั้งแต่เด็ก เห็นอะไรต้องวิจารณ์ ต้องใช้สมองคิด อย่าให้คนชักจูงไปได้ และการคิดของเขาก็นำไปสู่การเขียนเพลง เพื่อจะถ่ายทอดข้อความและความคิดที่มีอยู่มากมายเต็มหัวของเขาให้คนหมู่มากได้รับรู้ กระทั่ง พี่ป้อม อัสนี มาเห็นเพลงของเขาก็รู้สึกชอบ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้องที่ชื่อว่า "โต ซิลลี่ฟูล"

 โต บอกว่า บทเพลงของเขาพยายามแทรกเนื้อหาสาระความเป็นจริง ทั้งเรื่องการทรยศ หักหลัง การไว้ใจ เพราะความเป็นจริงคือ คนเราใช้สมองมากกวาหัวใจ แต่หลัง ๆ จะมีแทรกเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ลงไปบ้าง เพื่อดึงคนฟัง และในที่สุด บทเพลงของเขาก็เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่น ทำให้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงขึ้นมาทันที ในตอนนั้น โต รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่มีคนชอบงานเพลงของเขา แม้จะยังไม่ชินกับการที่ไปไหนมาไหนก็มีคนมอง เผลอเข้าใจไปว่า คนอื่นมองหน้าหาเรื่องซะอีก


ชีวิตร็อคสตาร์ แม้จะดูมีความสุข แต่ก็ต้องแลกกับหลาย ๆ สิ่งที่สูญเสียไป กระทั่งเริ่มดังมาก ๆ โต ซิลลี่ฟูล กลับรู้สึกว่าชีวิตของเขาเริ่มไม่มีความสุขเสียแล้ว เพราะวัน ๆ ต้องอยู่แต่ในห้องอัด หรือไม่ก็ได้แต่นั่งเฉย ๆ อยู่ในห้องนอน วันละ 8-9 ชั่วโมง เพื่อรอทีมงานโทรมาเรียกไปซาวนด์เช็ก และพอไปเล่นคอนเสิร์ต เขาก็ยังเจอคนมาตีกัน แทงกันเลือดสาดต่อหน้า ผู้หญิงผู้ชายมั่วกันตรงนั้น คนอื่นก็เมากันเละเทะ ขัดกับเจตนารมณ์ตั้งแต่แรกของเรา

          "ผมเห็นอย่างนั้นเรื่อย ๆ ก็มานั่งคิดว่า เอ๊ะ ดนตรีมันดีจริงหรือ เพราะคนเขาไม่ได้ฟังที่ผมพูด เขาฟังดนตรี ไม่ได้ฟังคำพูดผมเลย ผมพยายามแทบบ้าอยู่ในห้องอัด พอมาเล่นคอนเสิร์ตก็เจอแบบนี้เกือบ 90% บางทีเล่นเพลงเดียวก็กลับบ้าน เรื่องนี้บวกกับเรื่องอื่น ๆ ที่มันเข้ามาในตอนนั้น ทำให้ผมมาคิดว่า ที่ผมคิดนั้นถูกจริงหรือ เรารู้มากจริงหรือ หรือมีความจริงตรงอื่นที่เรายังไม่รู้ที่เป็นความจริงแท้ ๆ"

หลังจากนั้น โต ก็นั่งคิดและตั้งคำถามอยู่ในห้องเงียบ ๆ ว่า คนเราเกิดมาได้อย่างไร เพราะธรรมชาติสร้างมา แต่ธรรมชาติมันก็มีระบบ ทุกระบบต้องมีคนออกแบบ แล้วผู้ที่ออกแบบระบบก็ต้องมีเป้าหมาย จากนั้น โต ก็เริ่มค้นหาผู้ที่ออกแบบระบบ และก็มาคิดว่า ทำไมคนทั่วไป หรือแม้แต่คนมุสลิมไม่กล้าจับความหมายของคัมภีร์อัลกุรอาน คล้ายกับคนท่องบทสวดมนต์ทั้งที่ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร เขาจึงตัดสินใจเปิดคัมภีร์แล้วพบคำแรกที่เขียนว่า "ฉันคือผู้สร้างโลก" คำ ๆ นี้ ได้ตอบคำถามทั้งหมดของ โต ซิลลี่ฟูล ได้อย่างชัดเจน


จากเดิมที่เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่คัมภีร์อัลกุรอานเป็นเล่มเดียวที่เขาอ่านจบเป็นร้อย ๆ รอบแล้ว กระทั่งไปฝึกอ่านภาษาอาหรับ เพื่ออ่านต้นฉบับ การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ โต ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมากมายเกี่ยวกับความจริงของชีวิต พร้อมกับตอบคำถามได้แล้วว่า ใครคือผู้ที่ออกแบบระบบ และยังมีเรื่องชีวิตหลังความตายที่เขาเพิ่งได้รู้ ว่า ชีวิตคนเราก็เหมือนกับการทำข้อสอบ ยังมีชีวิตหลังความตายอีก ดังนั้น ใครที่อยากสอบผ่าน ก็ต้องรีบทำข้อสอบให้เสร็จ ก่อนหมดเวลา

          "ทุกวันนี้ ถ้าเรารู้ว่า มีอีกห้องหนึ่งที่รอเราอยู่ เราจะไม่กล้าทำตัวเลวร้าย เพราะถ้าคุณทำตัวเลวร้าย เราจะไม่ได้ไปห้องนั้น แต่ทุกวันนี้ เราคิดว่ามันมีอยู่แค่ห้องเดียว ก็เลยเอาเปรียบกันเต็มที่เลย"

          เมื่อ โต วีรชน รับรู้ว่า การเล่นดนตรีไม่ได้ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น เพราะวัยรุ่นก็ยังฆ่ากัน ท้องก่อนแต่ง เล่นยาเสพติด เมาเละเทะ นี่ไม่ใช่วิธีที่จะทำให้เขาได้รับชัยชนะในการเปลี่ยนคน เขาจึงเริ่มค้นหาวิธีใหม่ที่ไม่ใช่การเล่นดนตรี ซึ่งไม่ตรงตามหลักศาสนา ในที่สุด โต ก็เปลี่ยนวิธี จากการเขียนเพลงมาเป็น "การพูด" เพื่อหวังจะเปลี่ยนคนตามเจตนารมณ์ที่ตั้งใจไว้

          เยาวชน คือ กลุ่มเป้าหมายหลักที่ โต อยากจะสื่อข้อความไปถึง เพื่อให้สังคมดีขึ้น เมื่อเห็นเช่นนั้น โต จึงเดินทางตระเวนไปบรรยายเรื่องปัญหายาเสพติดให้เยาวชนในพื้นที่สีแดง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับฟัง โดยที่เขาไปด้วยใจ ไม่มีค่าตัวใด ๆ และก็ทำให้เด็ก ๆ ที่ติดยาเสพติดหลายคนสามารถเลิกยา พร้อมกับเปลี่ยนความคิดได้ นี่จึงทำให้ โต รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากกว่าตอนมีชื่อเสียงเสียอีก
         
          โต วีรชน บอกว่า เขาไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน ความผิดหวังในตัวมนุษย์ก็ไม่มีอีกต่อไป เพราะสำหรับคนที่มีความเกรงกลัวพระเจ้า จะไม่มีการโกหกกันแม้แต่นิดเดียว แม้จะเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นก็ตาม ไม่มีความแก่งแย่ง ไม่มีการใส่หน้ากากหลอกลวง เพราะทุกคนมีเป้าหมายคืออยากสอบผ่านเพียงอย่างเดียว การที่เขาได้เข้าไปในสังคมเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกดีมาก ต่อให้เงิน 10 ล้านก็ไม่สามารถแลกกับสิ่งนี้ได้

           และนี่ก็คือคำตอบของชีวิตที่อดีตร็อคสตาร์ชื่อดัง "โต ซิลลี่ฟูล" ตามหามานานจนได้ค้นพบ แล้วคุณล่ะ? ได้เริ่มออกเดินทางค้นหาเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตแล้วหรือยัง...



✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿

                         ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น