อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

อย่าละทิ้งการยกมือขณะลงรุกัวะอฺและขึ้นจากรุกัวะอฺ




ได้มีมุสลิมบางท่าน หรือบางกลุ่มได้ละทิ้งการยกมือทั้งสองข้าง ขณะก้มรุกัวะอฺ และขณะเงยจากรุกัวะอฺ ขณะละหมาด โดยเฉพาะผู้ที่ตามมัซฮับฮานาฟีย์ ทั้งที่หลักฐานการปฏิบัติของท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัมลัม นั้น ท่านยกมือขณะรุกัวะอฺ และขณะเงยจากรุกัวะอฺ

แท้จริงท่านรอสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ..จะยกมือทั้งสองเมื่อต้องการจะรุกัวอ์ และท่านทำเช่นนั้นอีก เมื่อเงยศีรษะของท่านจากรุกัวอ์ ..."(บันทึกโดยอิหม่ามบุคอรี 1/13 สุนันอบีดาวูด หะดิษที่ 635 และ 649 มุสนัดอิหม่ามอะหฺมัด หะดิษที่ 679) 

ดังนั้น การยกมือในขณะก้มรุกัวะอฺ และขณะเงยจากรุกัวะอฺดังกล่าว เป็นสุนนะฮฺของละหมาด เช่นเดียวกับการยกมือขณะตักบีร่อตุเอียะหฺรอม ซึ่งผู้ละหมาดไม่ควรละทิ้งมัน...

والله أعلم بالصواب
✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น