อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

2สาวพี่น้องชาวญี่ปุ่นค้นพบความเสมอภาคของผู้หญิงในอิสลาม



     นาย ซาอัด นาคามูรา ชาวญี่ปุ่น หนึ่งใน 6 ของจำนวนผู้เข้ารับอิสลาม
 ในระหว่างที่เขาพักอยู่ Elinji ซึ่งเป็นวัดพุทธศาสนา อยู่ทางตอนใต้ของโตเกียว ราว 100 กิโลเมตร 
เขามีความตระตื่อรือร้นให้ลูกสาวที่อยู่มหาวิทยาลัยได้เข้ารับอิสลาม 

นาคามูรา จึงได้นัดให้ลูกสาวทั้งสองมาพบกับผู้หนึ่งที่ไม่อยากระบุนาม ซึ่งเป็นนักเผยแพร่ศาสนาอิสลาม ณ ที่แห่งหนึ่ง

นาคามูรา พร้อมลูกสาวทั้งสอง จึงได้ไปตามนัด และได้แจ้งให้ทราบว่า เธอจะไม่แตะต้องอะไรทั้งสิ้น จนกว่าเธอจะได้รับคำตอบที่ให้ความพอใจก่อนว่า ศาสนาอิสลามนั้น ผู้หญิงก็มีสิทธิและความเสมอภาคในการปฏิบัติงานต่างๆเท่าเทียมกับผู้ชายหรือไม?  

อันเนื่องจากได้มีศัตรูอิสลามบางคนได้ทำลายความคิดเห็นของเธอ เกี่ยวกับความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า โดยบอกเธอว่าศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่ป่าเถื่อนแก่ผู้หญิงอย่างมาก และมันจะไม่ให้ความสุขความสบายแก่เขาทั้งในชีวิตนี้ และชีวิตในภายหน้า

ดังนั้นชายผู้นั้นจึงพูดกับหญิงทั้งสองว่า 
คุณต้องการที่จะรู้ด้วยตัวคุณเองไหม ว่าอัลลอฮฺได้ตรัสไว้อย่างไรเกี่ยวกับปัญหานี้
แล้วเขาก็ให้หญิงทั้งสองอ่านอัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-อะฮฺซาบ อายะที่ 35 ดังนี้

إِنَّ الْمُسْلِمِينَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ وَالْقَانِتِينَ وَالْقَانِتَاتِ وَالصَّادِقِينَ وَالصَّادِقَاتِ وَالصَّابِرِينَ وَالصَّابِرَاتِ وَالْخَاشِعِينَ وَالْخَاشِعَاتِ وَالْمُتَصَدِّقِينَ وَالْمُتَصَدِّقَاتِ وَالصَّائِمِينَ وَالصَّائِمَاتِ وَالْحَافِظِينَ فُرُوجَهُمْ وَالْحَافِظَاتِ وَالذَّاكِرِينَ اللَّهَ كَثِيرًا وَالذَّاكِرَاتِ أَعَدَّ اللَّهُ لَهُم مَّغْفِرَةً وَأَجْرًا عَظِيمًا ( 35 ) 

"แท้จริง บรรดาผู้นอบน้อมชายและหญิง 

บรรดาผู้ศรัทธาชายและหญิง 

บรรดาผู้ภักดีชายและหญิง 

บรรดาผู้สัตย์จริงชายและหญิง 

บรรดาผู้อดทนชายและหญิง 

บรรดาผู้ถ่อมตัวชายและหญิง 

บรรดาผู้บริจาคทานชายและหญิง

บรรดาผู้ถือศีลอดชายและหญิง 

บรรดาผู้รักษาอวัยวะเพศของพวกเขาที่เป็นชายและหญิง

 บรรดาผู้รำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างมากที่เป็นชายและหญิงนั้น"


หลังจากที่เธอทั้งสองได้อ่านอัลกุรอานอายะฮดังกล่าวเสร็จ เธอทั้งสองก็อุทานว่า

•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•“ทำไมศาสนาอิสลามถึงให้สิทธิ
และความเสมอภาคแก่ผู้หญิงและผู้ชายได้สมบูรณ์เช่นนี้?”•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•

หลังจากนั้น 2 พี่น้องได้ขอร้องให้ทิ้งพวกเธอไว้แต่เพียงลำพัง สองสามนาที เพื่อปรึกษาหารือกัน หลังจากนั้นเล็กน้อยพวกเธอก็กลับมา

และเธอทั้งสองก็กล่าวว่า
เราเชื่อว่าศาสนาอิสลามเป็นศาสนาเดียวที่เป็นความจริง โปรดรับเราเข้าเป็นอิสลามด้วยเถิด ถ้าจะให้ดีควรจะเริ่มก่อนที่เราจะเริ่มรับประทานอาหารค่ำนี้

ทุกคนทีอยู่ ณ ที่นั้น ต่างก็ได้แสดงความดีใจและขอบคุณต่อพระองค์อัลลอฮฺ โดยต่างก็กล่าวว่า อัลฮัมดุลิลลาฮฺ //บรรดาการสรรเสริญ เป็นสิทธิของอัลลอฮฺ//

•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*• •*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*• •*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*• •*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*• •*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ31 มีนาคม 2557 เวลา 22:06

    อั้ลลอฮุอักบัร อั้ลลอฮุอักบัร

    ตอบลบ