เมื่อมุสลิมคนใดได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย มีสุนนะฮฺให้ขอดุอาอ์ให้แก่ผู้ป่วยดังนี้
โดยกล่าวว่า
اللَّهُمَّ رَبَّ النَّاسِ أَذْهِبِ الْبَأْسَ اشْفِهِ وَأَنْتَ الشَّافِي لَا شِفَاءَ إِلَّا شِفَاؤُكَ شِفَاءً لَا يُغَادِرُ سَقَمًا
“ อัซฮิบิลบะอฺสะ ร็อบบันนาสิ วัชฟิ อันตัชชาฟีย์ ลา ชิฟาอะ อิลลา ชิฟาอุกะ ชิฟาอัน ลายุฆอดิรุ สะเกาะมา"
ความว่า
“ ขอพระองค์ (อัลลอฮฺ) ทรงโปรดทำให้การป่วยไข้นี้หายไปด้วยเถิด, ขอพระองค์ทรงโปรดรักษา (เพราะ) พระองค์คือผู้รักษา โดยไม่มีการักษาใดๆ นอกจากการรักษาของพระองค์เท่านั้น ซึ่งเป็นการรักษาที่ทำให้การป่วยไข้นั้นหายขาด “ (บันทึกโดยบุคอรีย์,มุสลิม,อิบนุ มาญะฮฺ และอะหฺมัด)
และขณะเยี่ยมผู้ป่วยศาสนาส่งเสริมให้พูดเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ป่วย หรือญาติของผู้ป่วย
หากผู้ป่วยต้องการพักผ่อนหรือพิจารณาดูแล้วหากเราอยู่กับผู้ป่วยนานๆจะทำให้ผู้ป่วยพักผ่อนได้น้อย เช่นนี้เราต้องรีบขอตัวกลับ
การไปเยี่ยมผู้ป่วย ให้ไปเยี่ยมผู้ป่วยทุกคนที่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นมุสลิม หรือต่างศาสนิกก็ตาม มีรายงานว่า ท่านนะบี ได้ไปเยี่ยมมุชริกบางคนที่ป่วยไข้เป็นการส่วนตัว ในฐานะที่เป็นญาติที่ใกล้ชิด ดังเช่น อบูฏอลิบ ซึ่งเป็นลุงของท่าน
และมีหลักฐานยืนยันว่า ท่านนะบี ได้ไปเยี่ยมเด็กยิว ซึ่งเคยรับใช้ท่าน ท่านได้เสนอให้เขาเข้ารับอิสลาม ดังที่เคยเสนอแก่ลุงของท่านแต่ลุงของท่านไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น ส่วนเด็กน้อยชาวยิวคนนี้ตกลงรับข้อเสนอ และได้ประกาศตนเข้ารับอิสลามในทีสุด ท่านนะบี กลับออกมาด้วยความดีใจ พลางกล่าวว่า
"การสรรเสริญทั้งมวลนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้รงทำให้เด็กคนนี้รอดพ้นภัยจากนรก"
والله أعلم بالصواب
✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น