อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

หลักฐานว่าด้วยการที่อัลลอฮฺทรงเสด็จลงมา




รายงานจากท่านอบูฮุร้อยเราะฮิ ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ เล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
พระผู้อภิบาลจะเสด็จลงมา(นุซูล) ยังฟากฟ้าต่ำสุด ในทุกค่ำคืนจนกระทั้งเหลือ แค่ 1 ใน 3 สุดท้ายของกลางคืน โดยพระองค์จะกล่าวว่า ผู้ใดวิงวอนต่อข้า ดังนั้นข้าจะตอบรับเขา และผู้ใดขอต่อข้า ข้าก็จะให้เขา และผู้ใดขออภัยโทษต่อข้า ก็จะอภัยแก่เขา (บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม)

หะดิษข้างต้นนี้ เป็นสายรายงานที่ถูกต้องตามเงื่อนไขของหะดิษเศาะเฮียะฮฺ โดยผ่านการรายงานจากบรรดาศอหาบะฮฺเกือบ 29 คน จึงไม่เป็นที่อนุญาตแก่ชาวสุนนะฮฺคนใดที่จะทำการปฏิเสธหะดิษต้นนี้

สิ่งที่เราเข้าใจตามที่ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทรงพรรณนาไว้ถึงการกระทำของพระองค์อัลลอฮฺ การลงมาดังกล่าวในความเป็นจริงแล้ว คือ การลงมายังฟากฟ้าต่ำสุดจริงๆ และไม่ใช่เป็นการอุปมาอุปมัยของคำแต่อย่างใดเลย การลงมาของพระองค์นั้น เป็นการกระทำที่สอดคล้องกับความสูงส่ง และความบริสุทธิ์ของพระองค์เอง กระทำไปตามประสงค์ของพระองค์ด้วยความสมบูรณ์แบบ ภายใต้ข้อเท็จจริงที่ว่า พระองค์ทรงไม่เหมือนสิ่งใด และไม่มีสิ่งใดที่เสมอ เหมือนพระองค์ เช่นเดียวกับการพระองค์ทรงดำรัสว่าพระองค์คือผู้ได้ยิน การได้ยินของพระองค์ คือการได้ยินในความหมายจริงหากแต่ภาวะของการได้ยินของพระองค์นั้น ไม่ได้เป็นวัตถุธรรม ดังเช่นสรรพสัตว์ทีต้องมีใบหู หรืออวัยวะเพื่อการได้ยิน

ด้วยเหตุนี้จึงไม่พบว่าตัวท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บรรดาสาวกของท่านเอง ตลอดปวงปราชญ์แห่งชนสลัฟได้ทำการให้ความหมายหะดิษนี้ด้วยความหมายอย่างอื่น จึงไม่เป็นที่อนุมัติที่เราจะสู้รู้การกระทำตัวเหนือท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ด้วยการอธิบายถึงการลงมาของพระเมตตาเราะฮฺมัตแห่งพระองค์อัลลอฮฺ ไม่ใช่พระองค์ทรงเสด็จลงมาจริงๆ ดังกลุ่มวิภาษนิยมเข้าใจกัน

ท่านออบนุตัยมียะฮฺ กล่าวว่า
ทัศนะที่ถูกต้องจากจุดยืนของชาวสลัพก็คือว่า อัลลอฮฺทรงลงมา และ(การลงมา) นั้นมิได้หมายความว่า อัลลอฮฺได้ละทิ้ง(การอิสติวาอ์เหนือ)บัลลังค์ไปในตัว...และการลงมาของอัลลอฮฺยังฟากฟ้าชั้นต่ำสุดดังการกล่าวของท่านรสูล ของพระองค์นั้น ได้เกิดขึ้นในซีกทิศตะวันออก และต่อมาก็ซีกตะวันตก(เพราะดวงอาทิตย์มีขึ้นลง)"  (ตะกียุดดีนอิบนิตัยมียะฮฺ 1416)

والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น