อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คนที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ มีอะกีดะฮเชื่อว่าอัลลอฮมีรูปร้างจริงหรือ



ในหนังสือ หลักอะกีดะฮ์แนวทางสะลัฟระหว่างอัลอะชาอิเราะฮ์กับวะฮฺฮาบียะฮ์ หน้า 96-97
อาจารย์อารีฟีน ได้ตั้งหัวเรื่องว่า "วะฮบีย์กับอะกีดะฮพระเจ้ามีรูปร่าง

โดยอ้างคำพูดชัยค์บินบาซ ว่า

واليد والقدم والأصابع والكلام والإرادة وغير ذلك. كلها يقال فيها إنها معلومة من حيث اللغة العربية
และมือ(ของอัลลอฮ) เท้า,บรรดานิ้ว,การพูด,การเจตนา ทั้งหมดนั้นจะถูกกล่าวว่า มันมีความหมายเป็นที่รู้กันตามหลักภาษาอาหรับ"

>>>>>>>>

ชี้แจงดังนี้

อาจารย์อารีฟีน กล่าวหาคนที่ตนเองอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ และชัยคฺบินบาซ ว่า มีอะกีดะฮเชื่อว่าอัลลอฮมีรูปร้าง โดยตัดข้อความคำพูดของชัยค์บินบาซบางส่วน อย่างไร้อามานะฮทางวิชาการ
มาดูคำพูดชัยค์บินบาซ เต็มๆหลังจากที่ท่านได้อธิบายเรื่อง สิฟัตอิสติวาอฺ ท่านได้กล่าวต่อว่า

وهكذا القول في باقي الصفات من السمع والبصر والرضى والغضب واليد والقدم والأصابع والكلام والإرادة وغير ذلك. كلها يقال فيها إنها معلومة من حيث اللغة العربية، فالإيمان بها واجب والكيف مجهول لنا لا يعلمه إلا الله سبحانه، مع الإيمان أن صفاته سبحانه كلها كاملة، وأنه سبحانه لا يشبه شيئا من خلقه، فليس علمه كعلمنا، ولا يده كأيدينا، ولا أصابعه كأصابعنا، ولا رضاه كرضانا إلى غير ذلك، كما قال سبحانه: {لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ

และในทำนองเดียวกันนี้ คือ คำพูดเกียวกับบรรดาสิฟาตที่เหลือ เช่น การได้ยิน,การเห็น,การพอพระทัย,มือ ,เท้า,บรรดานิ้ว,การพูด,การเจตนา ทั้งหมดนั้นจะถูกกล่าวว่า มันมีความหมายเป็นที่รู้กันตามหลักภาษาอาหรับ ดังนั้น การศรัทธาต่อมันนั้น เป็นวาญิบ และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน สำหรับเรา ไม่มีผู้ใดรู้มันนอกจากอัลลอฮ (ซ.บ) พร้อมกับให้ศรัทธาว่า แท้จริงบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ (ซ.บ)ทั้งหมดของมัน สมบูรณ์ และแท้จริงพระองค์ ซ.บ ไม่มีสิ่งใดจากมัคลูคของพระองค์ คล้ายคลึงพระองค์ ,ความรู้ของพระองค์ ไม่เหมือนความรู้ของเรา,มือของพระองค์ ไม่เหมือนมือของเรา ,บรรดานิ้วของพระองค์ ไม่เหมือนบรรดานิ้วของเรา,การพอพระทัยของพระองค์ ไม่เหมือนการพอใจของเรา ฯลฯ ดังที่พระองค์ ซ.บ ตรัสว่า (ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์คือ ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น) -ฟัตวาเช็ตบินบาซ เล่ม 2 หน้า 96-97 เรือง
بيان مذهب أهل السنة في الاستواء

...........
การกล่าวหาชัยคฺบิน บาซ และกลุ่มพี่น้องมุสลิมที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นลัทธิวะฮบียะฮ ว่า มีอะกีดะฮว่าอัลลอฮมีรูปร่างนั้น เป็นการบิดเบือน ปรักปรำ ใส่ร้ายพี่น้องมุสลิม อย่างน่าละอายที่สุด วัลอิยาซุบิลละฮ

เพราะสะลัฟนั้น พวกเขาไม่ถื่อว่า การยืนยันความหมายตามที่มีมาในตัวบทคือการเปรียบอัลลอฮกับมัคลูคและเป็นการเชื่อว่า พระเจ้ามีรูปร่าง เพราะมันคือสิฟาต ไม่ใช่อวัยวะ

وَقَالَ نُعَيْمُ بْنُ حَمَّادٍ : مَنْ شَبَّهَ اللَّهَ بِشَيْءٍ مِنْ خَلْقِهِ فَقَدْ كَفَرَ ، وَمَنْ أَنْكَرَ مَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ فَقَدْ كَفَرَ ، وَلَيْسَ فِيمَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ وَلَا رَسُولُهُ تَشْبِيهٌ

และ นุอัยมฺ บิน หัมมาด กล่าวว่า “ ผู้ใดเปลียบเทียบอัลลอฮ ว่าคล้ายคลึงด้วยสิ่งใดๆจากมัคลูคของพระองค์ แน่นอน เขาเป็นกุฟุร และผู้ใด ปฏิเสธ สิ่งที่อัลลอฮทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมัน แน่นอนเขาเป็นกุฟุร และ สิ่งที่อัลลอฮ ทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมันและสิ่งที่รอซูลของพระองค์ (พรรณนาคุณลักษณะแก่พระองค์ด้วยมัน)นั้น ไม่ใช่เป็นการตัชบีฮ(หมายถึงไม่ใช่เป็นเปรียบเทียบว่าอัลลอฮคล้ายคลึงกับมัคลูค) – ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฎาะหาวียะฮ เล่ม หน้า 85 และ ดู ชัรหุอุศูลเอียะติกอด อะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ เล่ม 2 หน้า 532 หะดิษหมายเลข 936

ท่านอิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ) กล่าวว่า

ثُمَّ لَفْظُ " التَّجْسِيمِ " لَا يُوجَدُ فِي كَلَامِ أَحَدٍ مِنْ السَّلَفِ لَا نَفْيًا وَلَا إثْبَاتًا فَكَيْفَ يَحِلُّ أَنْ يُقَالَ : مَذْهَبُ السَّلَفِ نَفْيُ التَّجْسِيمِ أَوْ إثْبَاتُهُ بِلَا ذِكْرٍ لِذَلِكَ اللَّفْظِ وَلَا لِمَعْنَاهُ عَنْهُمْ

ต่อมา คำว่า “อัตตัจญซีม” (การมีรูปร่าง) ไม่พบในคำพูดของคนหนึ่งคนใดจากชาวสะลาฟ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธ หรือ การรับรอง ดังนั้น
จะอนุญาตให้พูดว่า “มัซฮับสะลัฟ ปฏิเสธการมีรูปร่าง หรือ รับรองมัน ได้อย่างไร โดยที่ไม่การกล่าวถึงถ้อยคำดังกล่าวและไม่ได้กล่าวถึงความหมายของมัน จากพวกเขา – ดู มัจญมัวะ ฟะตาวา อิบนุตัยมียะฮ เล่ม 4 หน้า 152 เรื่อง อะกีดะฮ
คำว่า "รูปร่างเกี่ยวกับอัลลอฮ เป็นคำที่ถูปอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายพี่น้องมุสลิมที่ไม่ตีความอายะฮและหะดิษสิฟาตเหมือนกับตัวเองเท่านั้น

والله أعلم بالصواب

มูลนิธิ อนุรักษ์มรดกอิสลาม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น