อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ดุนยา....คุกตาราง แห่ง ความมืดของชีวิต

ดุนยา.....สวนสนุกแห่งชีวิต
คิดแบบ ผู้ศรัทธา : เขียน
(จากหนังสือ : ลมหายใจแห่งจิตวิญญาณ)
Jiyah Abdulloh โพสต์
............................................



ดุนยา...ได้กลายเป็นอาหารคาวแห่งความอธรรมกำลังลุกลามส่งกลิ่นเหม็นของเหล่าความหายนะแห่งผู้โมฆะธรรม เหล่าสมุนดัจญาลตัวเล็กที่เกลื่อนกลาดทุกมุมเมือง โลกถูกครอบงำโดยวิญญาณร้ายแห่งญาฮฺลียะฮ์ จิตวิญญาณของโลกเน่าเสีย ความหิวกระหายของมันได้กลืนกินมวลมนุษย์ดั่งสายฟ้าที่ฟากกระหน่ำลงบนฟางหญ้า สะกดจิตวิญญาผู้คนให้สยบอยู่ใต้บทเพลงของมันอย่างน่าหดหู่
“คลื่นพายุร้ายญาฮิลียะฮฺ....พัดเหวี่ยงผู้คนไปตามกระแสของความทันสมัย ความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยอันเลวทรามอย่างน่าอนาถใจ หัวใจของมนุษย์ต่างว้าวุ่น....แม้กระทั่งเพศยังไม่รู้ตัวตนคือหญิงหรือชาย หญิงสลับชาย...ชายสลับหญิง จนเป็นที่แพร่หลาย”
โลกถูกเปลี่ยนนิยามแห่งชีวิต....ผู้คนไม่ต่างอะไรจากสรรพสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งมีชีวิตแต่ไร้ปัญญา ไร้ความเป็นมนุษย์ และสูญสิ้นซึ่งวิญญาณที่งดงาม
“มารดาผู้อธรรมต่างทอดทิ้งทารกน้อยที่เกิดจากตัวเธอเองได้ลงคอผิดวิสัยของความเป็นแม่ ทิ้งซากทารกเกลื่อนระนาดตามท้องถนนและถังขยะ ผู้ซึ่งเกิดมาเพื่อประจานความเน่าเฟะของตัณหาราคะระหว่างกันและกันของชายหนุ่มและหญิงสาว ลูกนั้นเล่า....ก็ผลักไสบิดามารดายิ่งกว่าซากเน่าของเศษขยะ ดุจเสมือนเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ”
เราต่างได้รู้เห็นว่า.....เหล่าผู้นำเกือบทุกแผ่นดินนั้นช่างไร้ซึ่งคุณธรรม ดำเนินการปกครองประชาราษฎร์ด้วยการขานรับ ความปรารถนาของมารร้าย ความเท็จกลับกลายเป็นที่เชิดชูดทางสังคมอย่างน่าเวทนา
ไม่แปลกเลย....ที่เราต่างก็ได้เห็นผู้นำที่เลวทรามขึ้นเถลิงอำนาจอย่างบ้าคลั่งลุแก่อำนาจจนเจนตา
จริยธรรมของโลกสั่นคลอน ชะตากรรมของมนุษย์ถูกบดบังด้วยตัณหา หมอกควันของการปฏิเสธสาส์นแห่งพระเจ้าได้สิงสู่หัวใจของผู้คนไปทั่ว
ความหลงผิด ความมืดมน ความโหดร้าย เข้าไปทักทายผู้คนทุกครัวเรือน ศาสนาไม่ต่างอะไรกับวัตถุโบราณที่ไร้ค่าสิ้นชีวิตและว่างเปล่าซึ่งวิญญาณ เราได้เห็นในสิ่งที่สายตาไม่เคยเห็นอย่างเหลือเชื่อ ได้รับรู้ในสิ่งที่โสตประสาทไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างงุนงง พร้อมกับความปวดร้าวที่ฝังแน่นอยู่ในทรวงอก มนุษย์ต่างเกิดมาเพื่อเรียนรู้การฝ่าฝืนและการปฏิเสธผู้สร้างของเขา
ความวุ่นวาย ณ ปัจจุบันที่เกิดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด มนุษย์ต่างไร้เป้าหมายแห่งการดำเนินชีวิต หากไม่รู้เป้าหมายของตน ณ โลกนี้ มนุษย์ก็ย่อมหมดแสงไฟแห่งสัจธรรม หากย้อนนึกคิดว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นบนพื้นพิภพนี้เพื่อวัตถุประสงค์ใดกันเล่า
ก่อนที่พระองค์จักริเริ่มสร้างมนุษย์ พระองค์ย่อมมีเป้าหมาย ณ พระองค์ที่ล้ำลึก พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งถึงการสร้างมนุษย์ขึ้นบนหน้าแผ่นดินว่าต้องหลั่งนองเลือดชโลมเนื้อแก่กันโดยแน่แท้ แต่กระนั้นพระองค์ก็ยังคงยืนกรานที่จะบังเกิดพวกเขาขึ้นมาเพื่อยกเกียรติของพวกเขาโดยนามของพระองค์
ส่วนในมิติของผู้ศรัทธานั้นหรือ พวกเขาต่างเคลื่อนไหวตัวเองเพื่อแสวงหาความโปรดปราน ณ พระองค์ มาดแม้นเรือนร่างเขาถูกอธรรมและถูกฉีกทิ้งก็ตาม ทุกชีวิตล้วนถูกทดสอบอย่างไม่หยุดหย่อน บ้างดั่งพายุ บ้างดั่งสายลมตามระดับอีหม่านของตนที่ต่างกัน
ไม่มีวาจาใด ๆ ตัดสินคดีของใครได้ว่า บททดสอบของฉันหนักหนาโหดร้ายยิ่งกว่า เพราะบททดสอบเหล่านั้นพระองค์ย่อมทรงรู้ดีว่าควรทดสอบลมหายใจไหนเบาและลมหายใจใดให้หนักหน่วงกว่ากัน
อีกมุมหนึ่งของดุนยานั้นเล่า เราต่างเห็นเรือนร่างอันทรงเกียรติของนักสู้เพื่อสัจธรรม (ชะฮีด) นอนกองเรียงไร้วิญญาณทอดยางออกไปตามท้องถนนดุจก้อนกรวด หลายชีวิตที่ยอมหลั่งเลือดเพื่ออุทิศมันตามความศรัทธาของตนเพียงปกป้องอิสลามที่สูงส่งอย่างสง่าบนหน้าแผ่นดิน เพื่อนำสาส์นแห่งพระเจ้าและชูธง
“ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ์” ให้โลกสะบัดเหนือปฐพี
เพราะ....ดวงวิญญาณเหล่านั้นมองเห็นโลกหน้าชัดเจน ยิ่งกว่าการมองเห็นดวงจันทร์ พวกเขามีจุดยืนที่มั่นคงว่าทุกอย่างในกำมือ แม้กระทั่งชีวิต ก็มิใช่กรรมสิทธิ์ของเขาเองเลยสักอย่างเดียว
หลายชีวิตภูมิใจ ดีใจเมื่อครบรอบวันเกิด แอบทะนงตนในสถานภาพของตนเอง ทั้งวงศ์ตระกูลและลาภยศ ภาคภูมิใจทรัพย์สมบัติ บูชาทรัพย์ดั่งพระเจ้า จะมีประโยชน์อันใดเล่าที่นั่งอยู่บนความสุขและเสียงหัวเราะบนโลกดุนยา แต่แลวต้องจมปลักอยู่กับความทุกข์ระทมโอดครวญร่ำไห้สุดอาดูรสิ้นหวังในวันกิยามะฮ์
อะไรจักพินาศมากไปกว่า ความหรูหรา ความบันเทิงเริงรมย์ ความทันสมัย ล้วนเป็นสื่อชักนำไปสู่การหมกมุ่นคลุกคลีอยู่กับวิ่งเพลิดเพลินในโลกมายานี้ มนุษย์หลงใหลอยู่กับมันอย่างไม่มีขีดจำกัด จนเกินขอบเขตที่ศาสนากำหนด
จักมีอะไรหนักหน่วงกว่าความสุขที่หลายคนเสน่หายอมพลีกายเพื่อแลกมา ความพร้อมทางด้านวัตถุทำให้มนุษย์มีความรู้สึกเพลิดเพลินจนทำให้พวกเขาละเลยหน้าที่เชิญชวนผู้คนทั้งหลาย สู่แนวทางอันเที่ยงตรงของอัลลอฮฺ สู่แนวทางการญิฮาดอันทรงเกียติ เพื่อแสวงหาความพอพระทัยต่อพระองค์ ในเส้นทางเดินของดุนยาอันวกวน
จะมีอะไรต่ำทรามกว่า การที่คนเราตกเป็นทาสของตนเองหมกมุ่นอยู่กับอารมณ์ใฝ่ต่ำ การจมปลักอยู่กับความเสื่อมทรามทางศีลธรรม เป็นทาสของตัณหาโลกียะอย่างหมดทางปลดปล่อยตนเองให้รอดพ้นได้ หลงระเริงอยู่กับสิ่งโสมม ความบันเทิงเริงรมย์ไปวัน ๆ
ความไร้สาระและความบันเทิงเริงรมย์ตามตัญหาอย่างเลื่อนลอย คือศาสนาใหม่ที่สวยงามของพวกเขาจริง ๆ
โลกกำลังหมุนรอบตัวเอง รอการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จนกลายเป็นญาฮิลียะฮ์ สังคมที่อาศัยกำลังเปลี่ยนแปรตามสภาพอากาศ กลิ่นไอแห่งความเท็จ
หากเธอมิเปลี่ยนตัวเองและสังคมรอบข้างเธอ ให้ก่อเกิดศาสนา แน่นอนความเลวร้ายและสังคมจะเดินมาหาเธอที่หน้าประตูบ้าน เพื่อเชื้อเชิญเธอและคนที่เธอรักไปสู่คำสอนของมัน
“....และเชื่อเถอะว่าเมื่อวันนั้นมาถึง มันจะเปลี่ยนเธอและหัวใจของเธอทุกดวงอย่างไม่มีทางเลือก”
เธอย่อมรู้ดี....ต่อสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ณ ดุนยา หากเธอมิยกหัวใจและจิตวิญญาณเหนือมัน วันหนึ่งมันกลับนำพาชีวิตและจิตวิญญาณเธอไปสู่ความอ่อนแอ และโรคร้ายนานาชนิดเป็นแน่แท้
อาคิเราะฮ์....โลกแห่งความหายนะและพินาศยิ่งต่อหลายชีวิต ผู้ที่หัวใจมุ่งเสพสุข ณ คุกแห่งดุนยาอย่างสิ้นคิด โลกแห่งคำตอบของมวลมนุษย์ ทุกชีวิตนำการงานของตนทูลถวายต่อพระองค์
หากบนตราชูหนักด้วยผลบุญแห่งความดี สวรรค์คือที่รับรองสำหรับพวกเขา ทว่ามาตรบนตราชูหนักหน่วงด้วยความชั่ว หนทางแห่งความพินาศชัดแจ้งยิ่ง ที่พำนันกเขาคือ นรกญะฮันนัม
“โอ้หนุ่มสว....รุ่งอรุณและความมืดมิดของโลกนั้น หาใช่อยู่ที่ขอบเหวหรือที่ปลายฟ้าไม่ แต่ทว่ามันอยู่ที่อุ้งมือของเธอทั้งสองต่างหากมิใช่หรือ ?.....”
โอ้หนุ่มสาว....ถ้าหัวใจของเธอไร้แสงแห่งทางนำ อีกไม่นานเธอจะกลายเป็นทาสของวัตถุและทาสของดุนยา และอีกไม่นานเกินรอที่หัวใจของเธอจะมอดดับ ลงบนทางนำของพระเจ้าผู้ทรงสร้างเธอมา ด้วยอำนาจของพระองค์เองอย่างน่าอดสูงยิ่ง
......................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น