อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เพียงนำหลักฐานที่ถูกต้องของละหมาดตะรอเวี๊ยะห์มาแจ้งให้ทราบ



ขอเรียนให้ทราบว่า ผู้ที่เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือ ผู้ที่ทำนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 23 ร็อกอะฮ์นั่นแหละครับ เพราะเขาหุก่มว่า คนที่ทำ 11 ร็อกอะฮ์มิใช่เป็นนมาซตะรอเวี๊ยะห์ แต่เป็นนมาซสุนัตมุฏลักเท่านั้น ดังข้อมูลที่ผมนำลงมาให้อ่านแล้ว ทั้งๆที่ผมเองไม่เคยพูดเลยว่า ทำนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 23 ร็อกอะฮ์ไม่ได้ ผมจึงเพียงนำหลักฐานที่ถูกต้องมาให้ดูกันเท่านั้นครับว่าอะไรเป็นอะไร และจนเดี๋ยวนี้ผมก็ยังยืนยันว่า นมาซตะรอเวี๊ยะห์ 23 ร็อกอะฮ์ ทำได้ แต่ผลบุญคงไม่เท่ากับทำ 11 ร็อกอะฮ์ เพราะนี่คือสิ่งที่ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมทำเป็นประจำ แถมบางครั้ง ท่านยังลดจำนวนร็อกอะฮ์ลงเหลือ 9 และ 7 ร็อกอะฮ์ด้วยซ้ำเมื่อท่านชราภาพลง .. แต่ถ้าใครจะถือว่า การทำนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 23 ร็อกอะฮ์ (ซึ่งท่านอิหม่ามมาลิกกล่าวว่าใครเป็นผู้ริเริ่มก็ไม่รู้) ว่า มีผลบุญมากกว่า 11 ร็อกอะฮ์ที่ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมทำแบบอย่างเอาไว้ ก็เชิญเถอะครับ เพราะเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะมีความเชื่อเช่นนั้นครับ ...

ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องการตัดสินของอัลลอฮ์หรอกครับ ที่ผมพูดไปอย่างนั้นก็เป็นการพูดตามสิ่งที่ท่านนบีย์เคยพูดไว้คือ .. ทางนำที่ "ดีเลิศ" ที่สุด คือทางนำของมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม" ครับ ซึ่งคำว่า "ดีเลิศ" ที่สุดก็คือ "มีผลบุญมากที่สุด" ครับ .. เพราะฉะนั้น ใครจะค้านคำพูดข้อนี้ของท่านนนบีย์อีกก็ตามสบายครับ .

อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น