อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การสวมหมวกขณะละหมาดเป็นการแต่งกายในสภาพที่เรียบร้อย


การสวมหมวกหรือสาระบั่นไม่ว่าขณะอยู่นอกละหมาด หรือขณะละหมาด เป็นเครื่องประดับ ในสภาพที่เครื่องแต่งกายที่สุภาพเรียบร้อย และนั้นเป็นที่สมควรยิ่งหากเราไม่มีอุปสรรคใดๆ ที่จะสวมมันขณะเข้าเฝ้าพระองค์อัลลอฮฺขณะละหมาด

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบอานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
يَا بَنِي آدَمَ قَدْ أَنزَلْنَا عَلَيْكُمْ لِبَاسًا يُوَارِي سَوْآتِكُمْ وَرِيشًا وَلِبَاسُ التَّقْوَىٰ ذَٰلِكَ خَيْرٌ ذَٰلِكَ مِنْ آيَاتِ اللَّهِ لَعَلَّهُمْ يَذَّكَّرُونَ ( 26 )
“ลูกหลานอาดัมเอ๋ย! แท้จริงเราได้ให้ลงมาแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งเครื่องนุ่งห่ม ทีปกปิดสิ่งที่อันน่าละอายของพวกเจ้าและเครื่องนุ่งห่มที่ให้ความสวยงาม และเครื่องนุ่งห่มแห่งความยำเกรง นั่นคือสิ่งที่ดียิ่ง นั่นแหละคือส่วนหนึ่งจากบรรดาโองการของอัลลอฮ์ เพื่อที่ว่าเขาเหล่านั้นจะได้รำลึก”
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลอะอฺร็อฟ 7:26)


يَا بَنِي آدَمَ خُذُوا زِينَتَكُمْ عِندَ كُلِّ مَسْجِدٍَ ( 31 )
“ลูกหลานอาดัมเอ๋ย จงเอาเครื่องประดับกายของพวกเจ้า ณ ทุกมัสยิด (หมายถึงสวมเครื่องนุ่งห่มที่เรียบร้อยขณะฏอว๊าฟ และทุกครั้งที่ไปมัสยิด ให้ถือปฏิบัติเป็นเนื่องนิจ)” (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลอะอฺร็อฟ 7:31)

ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริง สำหรับอัลลอฮฺนั้น สมควรอย่างยิ่งที่พวกท่านจะต้องตกแต่งประดับประดาเพื่อพระองค์”

รายงานจากอิบนุอุมัร ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านละหมาดก็สวมใส่ชุดที่เป็นสองชั้น เพราะสมควรอย่างยิ่งที่พวกท่านจะต้องสวมเครื่องประดับ เพื่ออัลลอฮฺ ผู้ทรงเกรียงไกร หากว่าผู้ที่ละหมาดไม่มีเสื้อสองตัว ก็จงนุ่งผ้าชั้นใน และอย่าปฏิบัติเช่นพวกยิวที่ละหมาดโดยใช้ผ้าคลุ่มร่างกายมิดชิด มิให้อวัยวะใดปรากฏเห็น” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบัยฮะกีย์)

ท่านอิมามอัลมาวัรดีย์ กล่าวถึงการแต่งตัวและการประดับประดา ที่ปรากฏในอายะฮฺที่ 31 สูเราะฮฺอัลอะอฺร็อฟว่า
“หมายถึงให้ผู้ที่ละหมาดประดับประดาตัวของเขาด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม”

ท่านอบูฮัยยาน มีความเห็นว่า
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการปกปิดเอาเราะฮฺ เพราะการปกปิดเอาเราะฮฺนั้น เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติเมื่อละหมาดอยู่แล้ว ไม่ว่าในกรณีใด”

ท่านเชคมุฮัมมัด ซาฮิด อัลเกาซารีย์ กล่าวในคำถามที่เกี่ยวกับฮุก่มการละหมาด โดยไม่สวมหมวก ทั้งที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ ว่า
“ผู้ที่ละหมาดโดยไม่สวมหมวก ทั้งที่ไม่มีอุปสรรคใดๆนั้น การละหมาดของเขาถูกต้องครบถ้วนตามฮุก่มและเงื่อนไขต่างๆของการละหมาด แต่ทว่าการละหมาดนั้นขัดกับสุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม และยังขัดต่อประเพณีปฏิบัติของชาวมุสลิมที่ถ่ายทอดกันมาในทุกแห่งของโลกอิสลาม ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการเลียนแบบชาวอะฮฺลุ้ลกิตาย(ยิวและคริสต์) เพราะเมื่อพวกเขาละหมาด พวกเขาก็จะละหมาดโดยเปิดศีรษะ นอกจากนี้ยังเป็นการละทิ้งเครื่องประดับที่บรรดามุสลิมถูกกำชับให้นำไปปฏิบัติในทุกครั้งที่เข้ามัสยิดหรือทำละหมาดอีกด้วย”

เชคอัลอัลบานีย์ กล่าว่า
“ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า การละหมาดโดยไม่ต้องสวมหมวกหรือสาระบั่นนั้นถือเป็นการกระทำที่น่ารักเกียจ(มักรูฮฺ) เพราะศาสนาอิสลามชอบให้มุสลิมละหมาดโดยแต่งตัวเรียบร้อยสมบูรณ์”

ดังนั้น การสวมหมวกหรือสาระบั่น จึงไม่ใช่เงื่อนไขของความสมบูรณ์ของการละหมาด ไม่ใช่เกี่ยวกับการปกปิดเอาเราะฮฺที่ถือเป็นวาญิบจำเป็นต้องสวมหมวกหรือสาระบั่น มิเช่นนั้นการละหมาดไม่สมบูรณ์ และไม่ใช่เป็นสุนัตที่สวมใส่แล้วได้บุญ ถ้าไม่ใส่แล้วก็ไม่เกิดโทษและไม่ทำให้เสียละหมาด

แต่การสวมหมวก หรือสาระบั่นเป็นสุนนะฮฺ หรือแบบอย่างจากท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ทั้งนอกเวลาและในเวลาละหมาด หากเราเนียตว่าการสวมใส่หมวกหรือสาระบั่นตามแบบอย่างท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม อัลลอฮฺจะทรงตอบแทนในส่วนนี้

และการสวมหมวก หรือสาระบั่น ถือเป็นเครื่องประดับประดา เป็นการแต่งกายด้วยสภาพที่เรียบร้อย และเป็นประเพณีปฏิบัติของชาวมุสลิมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาจากชาวสลัฟสู่ชาวคอลัฟนั้นเอง

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น