อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไม่พบหลักฐานสำนวนคำกล่าวระหว่างละหมาดตะรอเวียะฮฺ

ละหมาด
สำนวนที่กล่าวระหว่างสองร็อกอะฮฺละหมาดตะรอเวียะฮฺ

...สำนวนคำกล่าวต่อไปนี้ ก่อนละหมาดตะรอเวียะฮฺในบ้านเรา...

ก่อนละหมาดตะรอเวี๊ยะฮฺบิลาลกล่าวคำว่า (เรียกคำกล่าวอิกอมัตตะรอเวียะฮฺ)

 "อัศลาตุ ซุนนาตัตตารอเวียะ ยามีอะฮฺ รอฮีมากุมุลลอฮ์ " 

ความหมาย :  มาเถิดมาละหมาดตะรอเวียะห์กัน เพื่อว่าอัลเลาะห์จะทรงตอบแทนผลบุญแก่เจ้าทั้งหลาย"
แล้วให้ญะมาอะฮฺตอบว่า "อัซซอลาตุ ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮฺ"

สำนวนดังกล่าวไม่พบหลักฐานสุนนะฮฺจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และบรรดาศอหะฮฺแต่อย่างใด


หลังจากละหมาดเสร็จ ระหว่างสองร็อกอะฮฺ บิลาลกล่าว่า "ฟัดลัล มินัลลอฮฺ วาเนียมะฮ์

ญามะอะฮฺกล่าวว่า ตอบว่า "วามัหฟีรอตัน วาเราะมะฮฺ ลาอิลาอาอิลลัลลอฮฺ วาดะฮูลา ชารีกาละฮฺ ลาฮุลมุลกู วาลาอุลฮัมดุ ยุยี วายูมีตู วาฮุวา อาลา กุลลีชัยอินกอดีร"


บิลาลอ่านซอลาวาต ว่า "อัลลอฮุมมา ศ็อลลีอาลามุฮัมมัด"

ญามะอะฮฺตอบว่า " อัลลอฮฺ ศ็อลลี วาซัลลิม อาลัยฮฺ"

และหลังสองร็อกอะฮต่อมา เมื่ออิมามให้สลามเสร็จ บิลาลอ่านซิเกร ว่า " ซุบฮานัลมาลิกิลมะบูรด์ ซุบฮานัลมาลีกิลเมายูด ซูบฮานัลมาลิกิลอัยยิลลาซี ลายานาฮุ วาลายามูตุ วาอูวา อาลากุลลีชัยอินกอดีรฺ"

ญามะอะฮิกล่าวตอบว่า "ซุบอานัลลอฮิ วัลฮัมดุ ลิลลา วาลาอิลาฮาอิลลัลลอฮฺ วัลลอฮุอักบัรฺ"

สำนวนดังกล่าวมา ก็ไม่พบหลักฐานสุนนะฮฺจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และบรรดาศอหะฮฺ เช่นเดียวกัน

สรุป ระหว่างทุกๆสองร็อกอะฮฺของละหมาดตะรอเวียะฮฺ(กิยามุรอมฎอน) ไม่พบหลักฐานสุนนะฮฺให้กล่าวสำนวนใดๆเลย

สำหรับที่มีหลักฐาน คือ หลังละหมาดวิตรฺ มีสุนนะฮฺให้อ่าน "  "سُبْحَانَ الْمَلِكِ الْقُدُّوْس  (ซุบฮานัลมะลิกิลกุดูส)  3 ครั้ง โดยต่างคนต่างอ่าน ซึ่งไม่ต้องอ่านกันเป็นญะมาอะฮฺ เพราะไม่มีหลักฐานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หรือซอฮาบะฮฺให้กล่าวซิกรฺนี้โดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับสำนวนวรรค   رَبُّ الْمَلائِكَةِ وَ الْرُوْح สายรายงานฎออีฟ (อ่อน))

 والله أعلم



1 ความคิดเห็น:

  1. การซ่อลาวาตใน ณ ที่นี้ หากผู้ใดทำการซ่อวาตตามนัยยะข้างต้นเขาจะได้ผลบุญมากมาย แต่ผู้ใดไม่กระทำก็ไม่ได้บุญและไม่ได้บาปแต่ประการใด แต่ถ้าหากผู้ที่ไม่ทำแล้วยังฮุกุ่มกล่าวหาผู้ซอลาวาตนบีกระทำบิดอะฮ์ลุ่มหลงตกนรก แน่นอนว่าเขาผู้นั้นคือพวกบิดอะฮ์อย่างแท้จริงนั่นเอง เนื่องจากเครื่องหมายของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ คือพวกเขาจะซ่อลาวาตนบีมาก ๆ

    ตอบลบ