อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สุนนะฮฺให้ละหมาดอีดที่มุศ็อลลา

ละหมาดอีดที่มุศ็อลลา

วันอีด เป็นวันที่สำคัญทางศาสนาอิสลามซึ่งได้ถูกตราบัญญัติขึ้นในปีแรกแห่งฮิจญเราะฮฺศักราช  ซึ่งปรากฏว่าขณะที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีชีวิตอยู่นั้นท่านไม่เคยละหมาดวันอีดทั้งสองที่มัสยิดเลย แต่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ออกไปละหมาดอีดิลฟิฏรฺและอีดิล อัฎฮาที่มุศ็อลลา(สนามกว้าง)


จากหลักฐานหะดิษ ซึงรายงานจากท่าน อบู สะอีด อัล-คุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ  ดังนี้

عَنْ أَبِي سَعِيدٍ الْخُدْرِيِّ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ :كَانَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَخْرُجُ يَوْمَ الْفِطْرِ وَالأَضْحَى إِلَى الْمُصَلَّى، فَأَوَّلُ شَيْءٍ يَبْدَأُ بِهِ الصَّلاَةُ، ثُمَّ يَنْصَرِفُ فَيَقُومُ مُقَابِلَ النَّاسِ وَالنَّاسُ جُلُوسٌ عَلَى صُفُوفِهِمْ فَيَعِظُهُمْ وَيُوصِيهِمْ وَيَأْمُرُهُمْ، فَإِنْ كَانَ يُرِيدُ أَنْ يَقْطَعَ بَعْثًا قَطَعَهُ، أَوْ يَأْمُرَ بِشَيْءٍ أَمَرَ بِهِ، ثُمَّ يَنْصَرِفُ.  (البخاري رقم 903)

ความว่า จากท่านอบู สะอีด อัล-คุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า "ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ออกไปละหมาดอีดิลฟิฏรฺและอีดิล อัฎฮาที่มุศ็อลลา(สนามละหมาด) สิ่งแรกที่ท่านทำคือการละหมาด หลังจากนั้นท่านก็จะผละจากที่นั่ง และลุกขึ้นหันไปยังผู้คนที่กำลังนั่งอยู่ในแถวของพวกเขา แล้วท่านก็จะกล่าวคำตักเตือนพวกเขา สั่งเสียพวกเขา กำชับพวกเขา ถ้าหากท่านต้องการส่งกองทัพไปยังที่ใดที่หนึ่งท่านก็จะสั่งตรงนั้นหรือถ้าหากต้องการสั่งสิ่งหนึ่งสิ่งใดท่านก็จะทำตรงนั้น หลังจากนั้นท่านก็จะกลับ(หมายถึงเสร็จพิธี)  (รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 903)

จากหลักฐานหะดีษนี้ ถือว่าสุนนะฮฺให้ออกไปสู่สนามมุศ็อลลาเพื่อทำการละหมาดอีด แท้จริงแล้วสิ่งนั้นมีความประเสริฐกว่าการทำละหมาดอีดในมัสยิด เนื่องจากท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้คงไว้ซึ่งการกระทำดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ส่วนความหมายของ “المصلى” มุศ็อลลา หรือ สนามละหมาดในหะดีษนี้เป็นสนามแห่งหนึ่งหรือเป็นพื้นที่กว้างที่ห่างออกไปจากมัสยิดอันนะบะวีย์  ประมาณ 1,000 ศอก

อัล-อิมาม อัช-ชาฟิอีย์ กล่าวว่า เราได้รับ(รายงานมาว่า) แท้จริงท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ออกไปในทั้งสองวันอีดไปยังมุศ็อลลาในบริเวณนครมะดีนะฮฺ เฉกเช่นเดียวกับ (การกระทำ)ของบรรดาเหล่าเศาะหาบะฮฺหลังจากสมัยของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยกเว้นเมื่อมีเหตุขัดข้องบางประการ เช่น ฝนตก เป็นต้น ทั้งนี้รวมถึงประเทศอื่นๆ ด้วย ยกเว้นชาวมักกะฮฺเท่านั้น ไม่มีคำยืนยันว่าชาวสะลัฟสมัยก่อนมีทำการละหมาดอีดพร้อมๆ กันกับคนจำนวนมาก(ในมัสยิดใดๆ)ยกเว้นในมัสยิดอัลหะรอม และหากว่ามัสยิด(ในประเทศหรือหมู่บ้านมีความคับแคบ) ไม่สามารถที่จะบรรจุผู้คน(เมื่อทำการละหมาดอีด)  แต่อิหม่าม(ในสถานที่นั่น)ยังให้มีการทำละหมาดในสถานที่ดังกล่าว  ดังนั้น ข้าพเจ้า(มีความเห็นว่า)การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่มักรูฮฺสำหรับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องละหมาดซ้ำก็ตาม (อัล-อุมม์ ของ อัช-ชาฟิอีย์ 1/234)

***สำหรับหะดิษต่อไปนี้ ซึ่งรายงานว่าในวันอีด เกิดฝนตก ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงได้นำผู้คนละหมาดอีดในมัสยิด

รายงานจากท่านอบีหุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า
"พวกเขาประสบกับฝนตกในวันอีด ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้นำพวกเขาละหมาดอีดในมัสยิด" (บันทึกโดยอบูดาวุด อิบนุมาญะฮฺ และฮากิม) 

!!! แต่ในสายรายงานของหะดิษนี้มีคนที่ไม่เป็นที่รู้จักอยู่ด้วย
อัลฮาฟิซ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "อัตตัลคีส" ว่า สายรายหะดิษนี้อ่อนแอ
อัษาะหะบี ได้กล่าว หะดิษนี้ เป็นหะดิษมุงกัร



ไปละหมาดอีดที่มุศ็อลลา

ดังนั้น การละหมาดวันอีด ณ มุศ็อลลา (ในสนามหรือที่ลานกว้าง)  เป็นสุนนะฮฺของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และบรรดาเศาะหาบะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม ก็ได้ดำเนินรอยตามท่าน
และการร่วมกันออกไปยังท้องสนามหรือที่ลานกว้างนั้น นับเป็นสัญญลักษณ์ของอิสลาม และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และพลังของประชาชาติอิสลาม


والله أعلم بالصواب


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น