อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ให้กล่าวศอละวาตเมื่อมีการกล่าวชื่อท่านนบีมูหัมมัด

ศาลาวาตนบี(صَلُّوا)


การกล่าวศอลาวาตแก่ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น มีหลายแบบ หลายสำนวน แม้แต่เราจะใช้สำนวนที่มีคำกล่าวน้อยก็ได้ สำหรับกรณีเมื่อได้ยินชื่อท่านรสูล หรือนบี หรือมูหัมมัด ให้ศอลาวาตด้วยสำนวนว่า “ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม”

ผลที่ได้รับเมื่อกล่าวศาลาวาตเมื่อมีการกล่าวชื่อท่านนบี

รายงานจากท่าน อนัส อิบนิ มาลิก  ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า “ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ผู้ใดที่เมื่อชื่อของฉันถูกกล่าว ณ ที่เขา ก็จงศอลาวาตให้แก่ฉัน แท้จริงผู้ใดศอลาวาตให้ฉันครั้งหนึ่ง อัลลอฮิ อัซซะวะญัล จะศอละวาตให้ผู้นั้น 10 ครั้ง”(บันทึกหะดิษโดย อันนะซาอีย์ , อิบนุซซุนนีย์ และอัซสุยูฏีย์ บันทึกไว้ในหนังสือ “ญามิอัศ ศอฆี๊รฺ”)
ผู้ืที่ไม่ยอมกล่าวศอลาวาตเมื่อมีการกล่าวชื่อท่านนบี

รายงานจากท่านจากท่านฮุซัยนฺ บิน อาลี ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า “ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ผู้ใดที่ชื่อของฉันถูกกล่าว ณ เขา และเขาไม่เห็นว่าการศอลาวาตให้ฉันนั้นเป็นความสำคัญ เขาผู้นั้นก้ไม่รู้จักทางที่จะนำไปสู่สวรรค์” (บันทึกหะดิษโดยท่านอิมามฎ็อบรอนีย์)
รายงานจากท่านอาลี อิบนิ อบีฏอลิบ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า “ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


‏البَخِيلُ مَنْ ذُكِرْتُ عِنْدَهُ فَلَمْ يُصَلِّ عَليَّ‏

“คนตระหนี่นั้น คือ คนที่ฉันถูกกล่าวถึง ณ ที่เขา แต่เขาก็ไม่ศอลาวาตแก่ฉัน” (บันทึกหะดิษโดยติรฺมีซีย์ อะหฺมัด นะซาอีย์ อากิม และอิบนิ ฮิบบาน)

รายงานจากท่านอบี ฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


رَغِمَ أنْفُ رَجُلٍ ذُكِرْتُ عِنْدَهُ فَلَمْ يُصَلِّ عَليَّ‏

“จมูกของบุคคลหนึ่งบุคคลใดจะถูกแนบกับดิน(หมายถึงประสบกับความต่ำต้อย) เมื่อนามของฉันถูกกล่าว ณ เขาแล้ว เขาไม่กล่าวศอลาวาตแก่ฉัน” (บันทึกหะดิษโดย ติรฺมีซีย์ , นะซาอีย์ ฮากิม และอิบนิ ฮิบบาน)
รายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า
“ครั้งหนึ่ง ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขึ้นมิมบัร เมื่อขึ้นบันไดขั้นที่หนึ่ง ท่านกล่าว “อามีน” เมื่อขึ้นขั้นที่สอง กล่าวว่า “อามีน” ภายหลังท่านจากท่านขึ้นขั้นที่สามแล้ว ท่านก้กล่าวว่า “อามีน” บรรดาศอหะบะฮฺกล่าวแก่ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า “โอ้ท่านรสูล เราได้ยินท่านกล่าว “อามีน” สามครั้ง”
ท่านรสูล ตอบว่า “เมื่อฉันขึ้นสู่ชั้นที่หนึ่ง ยิบรีล อะลัยอิสลาม มาหาฉัน และกล่าวว่า “ขออัลลอฮฺทรงให้ความต่ำต้อยจงประสบกับบุคคลที่เมื่อเดือนรอมฎอนเข้ามาสู่เขา แล้วรอมฎอนจากไปโดยเขานั้นไม่ได้รับการอภัยโทษ(ไม่ละหมาด ไม่ถือศิอลด)” แล้วฉันกล่าว “อามีน” เมื่อฉันนขึ้นสู่ชั้นที่สอง ท่านญิบรีลกล่าวว่า “ขอให้อัลลอฮฺทรงให้ต่ำต้อยประสบกับผู้ที่ทันชีวิตของบิดามารดาของเขา หรือคนหนึ่งคนใด แต่แล้วท่านทั้งสองไม่เป็นสาเหตุให้เขาผู้นั้นเข้าสวรรค์(เนรคุณต่อท่านทั้งสอง)” แล้วฉันก็กล่าว “อามีน” เมื่อฉันขึ้นสู่ชั้นที่สาม ท่านญิบรีลกล่าวว่า “ขออัลลอฮฺทรงให้ความต่ำต้อยประสบกับบุคคลที่เมื่อชื่อของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกกล่าว ณ เขา แล้วเขาไม่ศอลาวาตแก่ท่าน แล้วฉันก็กล่าว “อามีน”” (บันทึกหะดิษโดยมุสลิม ติรฺมีซีย์ อิบนุซัยมะอฺ อิบนุฮิบบาน และอัลอากิม)


  والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น