อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กรณีเสียศิลอด วาญิบต้องชดใช้ และต้องเสียกัฟฟาเราะฮฺ

เสียกัฟฟาเราะฮฺ

หากผู้ถือศิลอดเสียศิลอด อันเนื่องจากมีเพศสัมพันธุ์ระหว่างสามีภรรยาในช่วงกลางวันของเดือนรอมฎอน วาญิบจะต้องชดใช้การถือศิลอด และต้องเสียค่ากัฟฟาเราะฮฺ หรือค่าปรับ

ท่านอบูอุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า

"ชายผู้หนึ่งมาหาท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พลางกล่าวว่า ฉันหายนะแล้ว ท่านรสูล ถามว่า อะไรหรือที่ทำให้ท่านหายนะ เขาตอบว่า ฉันมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของฉัน (ตอนกลางวัน) ในเดือนรอมฎอน ท่านนบี ตอบว่า ท่านสามารถที่จะปล่อยทาสไหม? เขาตอบว่า ไม่มีความสามารถ ท่านถามว่า แล้วท่านสามารถที่จะถือศิลอดติดต่อกัน 2 เดือนไหม? เขาตอบว่า ไม่มีความสามารถ ท่านนบี พูดต่อว่า แล้วท่านมีความสามารถเลี้ยงอาหารแก่คนยากจน 60 คนไหม? เขาตอบว่า ไม่มีความสามารถ ท่านนบีก็บอกกับเขาว่า งั่นท่านจงนั่งลงก่อน เขาก็นั่งลง (จากนั้น) ก็มีอินทผลัมชะลอมหนึ่งถุกมอบให้แก่ท่านนบี ท่านนบีจึงกล่าวแก่ชายผู้นั้นว่า ท่านจงเอานี่ไป แล้วนำไปเศาะดะเกาะฮฺ(เป็นค่ากัฟฟาเราะฮฺ)เถิด เขาตอบว่า ในเมืองนี้ยังมีใครจนมากไปกว่าฉันอีกหรือ? แล้วท่านนบี ก็หัวเราะจนกระทั่งเห็นฟันกราม แล้วท่านนบี ก็กล่าวขึ้นว่า ท่านจงเอาอาหารนี้ไปเลี้ยงครอบครัวของท่านเถิด"(หะดิาเศาะเฮียะฮฺ...บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดิษเลขที่ 6709)

สำหรับกรณีสามีภรรยามีเจตนามีเพศสัมพันธุ์ร่วมกันในกลางวันของเดือนรอมฎอน ซึ่งทั้งสองตั้งใจถือศิลอดในวันนั้นด้วย นักวิชาการส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า สามีและภรรยาต้องจ่ายกัฟฟาเราะฮฺโดยมีความผิดเท่าเทียมกัน

ส่วนกรณีภริยาที่ถูกสามีบังคับให้มีเพศสัมพันธุ์ ภรรยาถือศิืลอดชดใช้เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องจ่ายกัฟฟาเราะฮฺแต่อย่างใด

และให้นับยึดหลักวันหนึ่ง เป็น 1 กัฟฟาเราะฮฺ  ไม่ว่าวันนั้นจะมีเพศสัมพันธุ์กันกี่ครั้งก็ตาม หากมีเพศสัมพันธุ์ 3 วันก็ ต้องจ่าย 3 กัฟฟาเราะฮฺ และการจ่ายนัฟฟาเราะฮฺให้จ่ายตามความสามารถตามลำดับหะดิษข้างต้น กล่าวคือ

A. 1 กัฟฟาเราะฮฺนั้นให้ปล่อยทาส 1 คนที่เป็นมุสลิม

B.ถ้าไม่มีทาสก็ให้ถือศีลอด 2 เดือนติดต่อกัน

C.ถ้าไม่สามารถก็ให้เลี้ยงอาหารคนจน 60 คน

D.ถ้าไม่มีความสามารถอีกให้ทำทานตามความสามารถ

E.ถ้าไม่มีความสามารถอีกเขาก้เป็นอิสระจากกัฟฟาเราะฮิดังกล่าว

นี่ถือเป็น 1 กัฟฟาเราะฮฺ
ถ้า 2 กัฟฟาเราะฮฺ ให้ปล่อยทาส 2 คนที่เป็นมุสลิม ถ้าไม่มีทาสก็ให้ถือศีลอด 4 เดือนติดต่อกัน ถ้าไม่สามารถก็ให้เลี้ยงอาหารคนจน 120 คน เป็นต้น
คนจนคนหนึ่ง จะได้รับข้าวสารกัฟฟาเราะฮฺ ก็ประมาณ 1 มุดดฺ หรือ เท่ากับ 7 ขีด และคนจนคนหนึ่ง จะได้รับข้าวสารกัฟฟาเราะฮฺ เกิน 1 มุดดฺได้ กรณีที่มีการจ่ายกัฟฟาเราะฮฺ ตั้งแต่ 2 กัฟฟาเราะฮฺขึ้นไป แต่หากไม่สามารถจ่ายกัฟฟาเราะฮฺได้ทั้งหมดติดต่อกัน ก็ให้ค่อยๆทยอยเสียจนครบ

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น