อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การจัดศพที่ไม่มีแบบอย่างจากท่านนบี และบรรดาศอหะบะฮฺ






การจัดศพแบบนี้มีด้วยหรือในอิสลาม







ถ้าเป็นงานศพของศาสนาอื่น เขาเรียกว่าพวงหรีด...พวงหรีด หมายถึงดอกไม้ที่จัด
ตกแต่งขึ้นตามโครงรูปร่างที่เรากำหนด เช่น รูปวงกลม วงรี รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม ฯลฯ การจัดพวงหรีดเป็นการจัดดอกไม้ที่นำไปใช้ในงานอวมงคลเพื่อใช้สำหรับนำไปเคารพศพในงานศพนอกจากจัดดอกไม้ เป็นพวงหรีดแล้ว ยังมีการนำดอกไม้มาจัดเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ที่ตั้งศพ บนหีบศพ เพื่อลดความเศร้าโศกของเจ้าภาพ และยังแสดงถึงฐานะของเจ้าภาพอีกด้ @ อวมงคล หมายถึง การทำบุญเกี่ยวกับเรื่องการตายดังกล่าวแล้ว นิยมทำกันอยู่ ๒ อย่างคือ ทำบุญหน้าศพ ที่เรียกกันว่าทำบุญ ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน หรือทำบุญหน้าวันปลงศพ อย่างหนึ่ง ทำบุญอัฐิหรือทำบุญปรารภการตาย ของบรรพบุรุษ หรือผู้ใดผู้หนึ่ง ในวันคล้ายกับวันตายของท่านผู้ล่วงลับไปแล้วอย่างหนึ่ง ทั้งสองอย่างนี้ มีระเบียบ


ลองคิดดูแบบง่ายๆ กษัตย์ซาอุดิอาราเบีย รวยล้นฟ้า สามารถหาโลงทองคำฝังเพรชชุบมุกเลยด้วยซ้ำแต่ พอตายไปบรรดาอุลามะซาอุดิอาราเบียกะฝั่นด้วยฝ้า แล้วลงหลุมง่ายๆ ไม่ฟุ่มเฟือย

แล้วนี่คนธรรมาดากลับมาตกแต่งด้วยดอกต่างๆ แถมใส่โลงด้วย คนตายเขาไม่รู้เรื่องหลอก คนเป๊นนี้แหละที่ทำ



ท่านนบีฯศ็อลฯกล่าวว่า “แน่นอนพวกเจ้าจะประพฤติตามแนวทางของคนก่อนพวกเจ้าทีละคืบ ทีละศอก จนกระทั่งพวกเขาเหล่านั้นเดินเข้าไปในรูแย้ พวกเจ้าก็จะเดินตามพวกเขา (เข้าไปในรูแย้) ด้วย” บรรดาเศาะหาบะฮฺก็ถามว่า “พวกนั้นคือ ยะฮูดและนะศอรอ (ยิวและคริสต์) ใช่หรือไม่?” ท่านก็ตอบว่า “จะเป็นใครเสียอีก” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 3269 มุสลิม : 2669)



"พวกท่านอย่าได้ถามประชาชนปัจจุบันในสิ่งที่พวกเขาทำบิดอะฮฺต่างๆขึ้นมา เพราะพวกเขาจะเตรียมข้ออ้าง(คำตอบ)ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แต่จงถามเขาเรื่องซุนนะฮฺท่านจะพบว่าพวกเขาไม่รู้จักมันเลย(ว่าซุนนะฮฺในเรื่องนั้นๆเป็นอย่างไร)"

ฮิชาม บิน อุรวะฮ์ หลานท่านหญิงอาอิชะฮฺ --
จากหนังสือ คำนะศีฮัต แก่ผู้ที่เชื่อในบิดอะอฺ หะสะนะหฺ
โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย

ต้นเหตุที่ทำให้เกิดบิดอะฮ์(การเพิ่มเติม)ในศาสนาอิสลาม



ท่านนบี ซ.ล. เคยทำใว้เป๊นแบบอย่างมากมายแล้วและนี่คือแนวทางที่ดีที่สุด ซอฮาบะฮ์ก๊เข้าใจตามที่นบีสอน * แต่ชนรุ่นหลังกลับเอาสมองปัญญาไปนำหน้าศาสนา คิดเองประดิษย์เอง .


วาทะอาจารย์ฟารีด หลังจากที่ท่านได้ยกประเด็นการใช้ชื่ออิหม่ามชาฟีอีในการหากินเรื่องศาสนาของราชครูหัวเก่า(บางคน)ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอีซีกุโบร์ ทำบุญบ้านคนตาย เบอรซันญี บารอดอฮฺ อ่านยาซีนที่หลุมฝังศพ ทำเมาลิด การกล่าวอุศอลลีย์ ซึ่งเหล่านี้ถูกกุขึ้นเพื่อที่จะหลอกลวงประชาชนที่ถูกจำกัดการเข้าถึงความรู้ศาสนาด้วยการสร้างวาทกรรมเท็จๆเช่น...จะอ่านศาสนาต้องจากกีตาบยาวี...ต้องฟังบาบอ ฟังโต๊ะครูจากปอเนาะเท่านั้น ฯลฯ ซึ่งเป็นผลประโยชน์(ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ)ต่อโต๊ะครูเหล่านั้น การเข้าถึงความรู้ศาสนาที่ถูกต้องจึงยากยิ่งสำหรับชาวบ้าน

สิ่งเหล่านี้อิหม่ามชาฟีอี ไม่เคยรับรู้เพราะท่านเป็นชาวสลัฟ"ผู้เกิดก่อนคำสอนบิดอะฮฺทั้งหลายแหล"ด้วยซ้ำ ดังนั้น พวกเราจงตื่นเถอะ ปกป้องอิหม่ามชาฟีอี ผู้บริสุทธิ์จากข้อกล่าวอ้างของบรรดาราชครูหัวเก่าทั้งหลาย อินชาอัลลอฮฺ

 والله أعلم




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น