อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560

อย่าสร้างอุตริในศาสนา และการหลงผิด





จากหนังสือ "ริยาฎอัซซอลิฮีน" (สวรรค์ของกัลยาณชน) บทที่ 18 ของอีหม่าม อันนะวะวี

อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงกล่าวว่า
: فَسَقُوا أَنَّهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
ความว่า : “หลังจากสัจธรรมแล้ว อะไรเล่าที่ยังคงเหลืออยู่นอกจากความเท็จ”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ยูนุส 10 : 32)

مَّا فَرَّطْنَا فِي الْكِتَابِ مِن شَيْءٍ
“เรามิได้ละเลยสิ่งใดไว้ในคัมภีร์แห่งคำบัญชาของเรา”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัล-อันอาม  6 : 38)

فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ
“ดังนั้น หากสูเจ้าโต้แย้งกันในสิ่งใด จงอ้างมันกลับไปยังอัลลอฮ์ และรสูล”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัน-นิสา  4 : 59)

وَأَنَّ هَٰذَا صِرَاطِي مُسْتَقِيمًا فَاتَّبِعُوهُ وَلَا تَتَّبِعُوا السُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمْ عَن سَبِيلِهِ
“และแท้จริงนี้คือทางของข้าอันเที่ยงตรงพวกเจ้าจงปฏิบัติตามมันเถิด และอย่าปฏิบัติตามหลาย ๆ ทาง เพราะมันจะทำให้พวกเจ้าแยกออกไปจากทางของพระองค์”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัล-อันอาม  6 : 153)

قُلْ إِن كُنتُمْ تُحِبُّونَ اللَّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللَّهُ وَيَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَّحِيمٌ
“จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮ์ ก็จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮ์ก็จะทรงรักพวกท่าน และจะทรงอภัยให้แก่พวกท่านซึ่งโทษทั้งหลายของพวกท่าน และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อาน-อิมรอน  3 : 31)

ท่านหญิงอาอิชะห์ (ร่อฎียัลลอฮุอันฮา) รายงานว่า
ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
مَنْ عَمِلَ عَمَلاً لَيْسَ عَليْهِ أمْرُنَا فَهُوَ رَدٌّ
“ผู้ใดกระทำสิ่งใดโดยสิ่งนั้นไม่ใช่งานของเรามันเป็นโมฆะ”
(บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 3243)

النَّهْيُ عَنِ الابْتِدَاعِ فِيْ الدِّيْنِ

عَنْ اُمِّ المُؤْمِنِيْنَ اُمِّ عَبْدِ اللهِ عَائِشَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهَا قَالَتْ : قَالَ رَسُوْلُ اللهِ ﷺ :" مَنْ أَحْدَثَ فِيْ أَمْرِنَا هَذَا مَا لَيْسَ مِنْهُ فَهُوَ رَدٌّ " رَوَاهُ البُخَارِيُّ وَمُسْلِمٌ.وَفِيْ رِوَايَةٍ لِمُسْلِمٍ : " مَنْ عَمِلَ عَمَلاً لَيْسَ عَلَيْهِ أَمْرُنَا فَهُوَرَدٌّ " .

ความว่า: จากมารดาของศรัทธาชนทั้งหลาย อุมมุ อับดิลลาฮฺ นั่นคือท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮา เล่าว่า: ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ﷺ กล่าวว่า “ใครก็ตามที่อุตริในกิจการศาสนาของเรานี้ ซึ่งสิ่งที่เราไม่ได้สั่งใช้ ดังนั้นสิ่งที่อุตริขึ้นมานั้นย่อมถูกปฏิเสธ (และจะถูกประณาม)” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ และมุสลิม)

และในการบันทึกของมุสลิมมีสำนวนว่า: “ใครก็ตามที่ปฏิบัติกิจการใดกิจการหนึ่ง ซึ่งเราไม่ได้สั่งใช้ ดังนั้นกิจการนั้นจะถูกปฏิเสธ” (กล่าวคือ คนผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบ หรือสิ่งอุตรินั้นจะถูกประณาม)


ญาบิรฺ เล่าว่า
เมื่อท่านรสูลุลลอฮ์ ﷺ   ได้กล่าวปราศรัยกับเรา ตาของท่านจะแดง น้ำเสียงจะดัง และท่านมีลักษณะคล้ายกับรู้สึกตื่นเต้น ราวกับว่าท่านกำลังเตือนเราถึงกองทัพศัตรูที่กำลังมุ่งหน้ามายังพวกเรา ท่านกล่าวว่า “ศัตรูของพวกท่านจะโจมตีในตอนเช้าหรือศัตรูจะบุกเข้ามายังพวกท่านในตอนเย็น”
นอกจากนี้ท่านกล่าวว่า “การมาของฉันและการเกิดขึ้นของวันแห่งการพิพากษานั้นอยู่คู่เหมือนกับนิ้วทั้งสองของฉัน (แล้วท่านก็ยกนิ้วชี้กับนิ้วกลางที่ไขว้กันให้ดู)”
ท่านกล่าวต่อไปอีกว่า
"คำพูดที่ดีที่สุดก็คือคำภีร์ของอัลลอฮ์
และทางนำที่ดีที่สุด ก็คือทางนำที่มุหัมหมัดได้แสดงไว้
การกระทำที่เลวที่สุด ก็คือการนำเอาสิ่งแปลกใหม่เข้ามาในความศรัทธาของอิสลาม
และสิ่งอุตริทุกอย่างก็เท่ากับการออกนอกศาสนา"
(หะดิษบันทึกโดยมุสลิม)






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น