อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตำรากีตาบที่เรียนปอเนาะ การทำบุญบ้านคนตายมักรูฮ์และบิดอะฮ์









การจัดเลี้ยงที่อ้างว่าทำบุญอุทิศผลบุญให้ผู้ตายที่บ้านคนตาย ที่ปรากฏให้เห็นในสังคมมุสลิมบ้านเรา
โดยจัดเลี้ยงกันแบบพิธีกรรมเป็นการเฉพาะ ใน 3 วันแรก วันครบ 7 วันครบ 40 วันครบ 100 วัน นับแต่วันตาย โดยมีการเชิญโต๊ะลาไบมาทำพิธีด้วยการนำอายะฮ์อัลกุรอาน การซิกรุลลอฮ์ และบทดุอาอ์ที่เรียบเรียงขึ้นมาประกอบในพิธี จากนั้นก็อัญเชิญโต๊ะลาไบรับประทานอาหาร ซึ่งชาวบ้านทั่วไปก็เข้าใจว่ามันเป็นพิธีกรรมตามซุนนะฮ์ ที่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) และเหล่าเศาะหาบะฮ์ ตลอดชาวสลัฟถัดมาได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่างเช่นการปฏิบัติกันมาแล้ว แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ กลับไม่พบร่องรอยการปฏิบัติเช่นนั้นเลย ทั้งที่มีผู้เสียชีวิตคนแล้วคนเหล่าในยุคนั้น แม้แต่ท่านหญิงฆอดียะฮ์ (ร่อฎียัลลอฮุอันฮา) ภรรยาผู้เป็นอันที่รักของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ก็ตามที ก็ไม่ปรากฎว่านบีทำเช่นนั้น แต่กลับมีการฟัตวา และต่อต้านในเรื่องนี้ว่าเป็นบิดอะฮ์ที่น่ารังเกียจของเหล่านักปราชญ์ทั้งหลาย
สำหรับตำรากีตาบที่เรียนกันในปอเนาะหลายแห่งในบ้านเรา หลายปอเนาะ หลายเล่มที่ได้กล่าวว่า การจัดเลี้ยงบ้านคนตายเป็นที่น่ารังเกียจและบิดอะฮ์ ได้แก่


เชค ดาวุด ฟาตอนี(โตะครูแห่งฟาตอนี)กล่าวว่า
"การจัดเลี้ยงเมือมีคนตาย(ที่บ้านคนตายโดยญาติผู้ตาย)ในวันตายหรือหลังวันตายไม่ว่าจะเป็น3วัน7วัน20วัน40วัน ท่านกล่าวว่า"มักรุฮ"เป็นสิ่งที่ถูกตำนิและห้ามโดยศาสนา ทำแล้วไม่ได้บุญ ศาสนาห้ามอีกต่างหาก
ท่านยังได้กล่าวอีกว่า หากมีผู้ตายได้สั่งเสียก่อนตายว่าหากเขาตายลง ให้ทำบุญ2,3,7,20,40วันให้เขาด้วย ญาติไม่จำเป็นต้องทำตาม เพราะศาสนาไม่อนุญาตนั่นเอง
  เชค ดาวุด ฟาตอนี ไดัเขียนไว้ในกีตาบของเขา
  ที่ชื่อว่า"ฟูรูอุลมะซาอิล











*มักรูฮและบิดอะฮครอบครัวผู้ตายทำอาหารเชิญผู้คนมากิน ก่อนและหลังจากฝัง
ตามที่ประเพณีที่ผู้คนได้ปฏิบัติกัน


*มักรูฮและบิดอะฮผู้ที่ถูกเชิญ ตอบรับคำเชิญ

(จากหนังสือปอเนาะ ชื่อ บุฆยาตุฏฏุลลาบ ของเช็คดาวูด ฟะฏอนี เล่ม 2 หน้า 33-34)


*มักรูฮฺและบิดอะฮฺครอบครัวผู้ตายทำอาหารแล้วเชิญผู้คนมารับประทาน

*มักรูฮฺและบิดอะฮฺรับคำเชิญของครอบครัวผู้ตาย

(จากตำราปอเนาะ ชื่อ สะบีลุลมุฮตะดีย์ เล่ม 2 หน้า 87)











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น