อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560

นี่หรือการละหมาดขั้นสูงของพวกซูฟีย์






การละหมาด ของผู้ที่อ้างว่าอยู่ในระดับ "อีหม่านฮากีกัต" หรือ "แก่นแท้ของอีหม่าน" ของพวกซูฟีย์ ช่างแปลกพิลึก ไม่ต้องเคลื่อนไหว ไม่ต้องรู่กัวะอ์ ไม่ต้องซูยูดใดๆทั้งสิ้น แต่พวกพวกเขาเพียงอยู่นิ่งเฉยๆ เพียงการนึกคิดว่าไปสู่การละหมาด ด้วยการทำจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยไม่มีเรื่องราวอันใดในโลกดุนยาคงเหลืออยู่ในจิตใจ นั้นคือการทำใจให้ว่าง สำนึกว่ามีอัลลอฮ์องค์เดียว ที่เขาเรียกว่าเข้าสู่ม่ากอมฟ่านาอ์ นีคือการละหมาดของพวกเขา นี้มันเป็นแบบอย่างของใคร นบีสั่งให้ละหมาดแบบนี้หรือ ไม่เลยนบีได้ทำแบบอย่างไว้ครบถ้วนแล้ว พวกเขาจะเก่งกว่านบีคิดสูตรเอาเองได้หรือ พี่น้องผู้ร่วมศรัทธาโปรดคิดพิจารณาเอาเองเถิด


มาดูการละหมาดของพวกซูฟีย์ระดับขั้น"อีหม่านฮากีกัต" ที่เรียกว่า "การละหมาด จากอัลเลาะห์ ด้วยอัลเลาะห์ เพื่ออัลเลาะห์" ( الصلاة من الله بالله لله)


แล้วเราจะทำละหมาดด้วยความบริสุทธิ์ใจต่ออัลเลาะห์ได้อย่างไร วิธีการก็คือ เราต้องเริ่มการละหมาดด้วยการสำนึกจากจิตใจของเราว่า ที่เราทำละหมาดนั้น...ทำจากพลังความสามารถที่อัลเลาะห์ประทานให้เรา นั่นคือ "มินั้ลลอฮ์" แปลว่า "จากอัลเลาะห์" เราไม่ได้เคลื่อนไหว รู่กัวะอ์ ซูยูด ด้วยตัวของเราเอง แต่เราเริ่มละหมาด รู่กัวะอ์และซูยูดด้วยการที่อัลเลาะห์ให้เราเริ่ม จากพลังที่อัลเลาะห์ได้มอบให้แก่เรา นี่แหละ คือ ความบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นซึ่ง.....มาจากอัลเลาะห์


ตัวต่อมาก็คือ "บิ้ลลาฮ์" แปลว่า "ด้วยกับอัลเลาะห์" นั่นก็คือ การสำนึกจากจิตใจอีกเช่นเดียวกันว่า "ทำด้วยกับอัลเลาะห์" ด้วยพลังที่อัลเลาะห์ให้เราทำ ที่เรารู่กัวะอ์ได้ก็ด้วยพลังของอัลเลาะห์ที่มอบให้เรา ที่เราซูยูด ก็ด้วยกับความสามารถที่พระองค์ทรงประทานให้....นี่แหละคือความหมายของคำว่า บิ้ลลาอ์.....ทำด้วยกับอัลเลาะห์


และตัวสุดท้าย ก็คือ "ลิ้ลลาฮ์" แปลว่า "เพื่ออัลเลาะห์" นั่นก็คือ การสำนึกด้วยจิตใจเช่นกันว่า ที่เราทำละหมาดนั้นก็เพื่อพระองค์อัลเลาะห์ ซึ่งไม่มีอยู่ในจิตใจของเราเลย ความต้องการซึ่งผลบุญ หรือ ความกลัวว่าถ้าไม่ทำละหมาดแล้วจะต้องโดนลงโทษ แต่การทำเพื่ออัลเลาะห์นั้น คือ การทำด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยแท้จริง ไม่โลภอยากได้ผลบุญ หรือ ทำเพราะกลัวอัลเลาะห์จะลงโทษ เพราะการคิดแบบนั้น ถือว่าไม่ใช่ความบริสุทธิ์ มันคือ การทำเพราะต้องการอยากได้ แต่การทำที่บริสุทธิ์ใจอย่างจริงๆ ก็คือ ทำโดยไม่สนใจในสิ่งใด ไม่อยากและไม่กลัว ทำเพียงเพื่อ ตะก๊อรรุบ (แสวงหาความความใกล้ชิด) กับอัลเลาะห์แต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น การทำเพื่อตะก๊อรรุบแบบนี้แหละที่เรียกว่า....ทำเพื่ออัลเลาะห์


คัดมาจาก http://islambyheart.blogspot.com/2014/12/blog-post_82.html









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น