อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เมื่อมีคำถามว่า"พระเจ้าอยู่ไหน?"



ในอัลกุรอ่าน อัลลอฮฺได้ตรัสว่า พระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงมองเห็น และพระองค์ทรงใกล้กับเรายิ่งกว่าเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอ พระองค์ยังทรงบอกอีกว่า พระองค์ทรงใกล้กับเราในช่วงที่สามของยามค่ำคืน ยามที่เราละหมาดและสุญุดต่อพระองค์ ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ยังบอกเราอีกว่า ไม่มีการชุมนุมของคนสามคนใด เว้นแต่พระองค์ทรงเป็นคนที่สี่หรือคนที่สอง หรือคนที่สามของพวกเขา อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันเราตระหนักดีว่า อัลลอฮฺมิได้เป็น “ส่วนหนึ่งในสิ่งที่ถูกสร้างของพระองค์

ดังนั้นคำถามจึงเปลี่ยนเป็น มุสลิมเชื่ออะไรบ้างเกี่ยวกับอัลลอฮฺ?

ในฐานะที่เป็นมุสลิม เราศรัทธาว่าอัลลอฮฺทรงอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง อะไรก็ตามแต่ที่เราศรัทธาเกี่ยวกับอัลลอฮฺล้วนมีพื้นฐานมาจากสิ่งที่อัลลอฮฺ ทรงเปิดเผยไว้ในคัมภีร์ของพระองค์(อัลกุรอ่าน) และสิ่งที่มีการบันทึกสายรายงานจากท่านรสูลของอัลลอฮฺ(ขอความสันติจงมี แด่ท่าน) รวมทั้งสิ่งที่นักวิชาการมุสลิมในยุคแรกเห็นพ้องต้องกันอย่างเป็นเอกฉันท์

มุสลิม เชื่อว่าอัลลอฮฺผู้ทรงได้รับการสรรเสริญนั้นทรงสูงส่งเหนือกว่าสิ่งที่ พระองค์รงสร้าง แม้กระนั้นพระองค์ทรงอยู่กับสิ่งที่ถูกสร้างทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด และทรงรอบรู้ในทุกๆ การกระทำ พระองค์ได้สรุปมันไว้ในโองการที่ระบุความว่า


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า

هُوَ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَىٰ عَلَى الْعَرْشِ يَعْلَمُ مَا يَلِجُ فِي الْأَرْضِ وَمَا يَخْرُجُ مِنْهَا وَمَا يَنزِلُ مِنَ السَّمَاءِ وَمَا يَعْرُجُ فِيهَا وَهُوَ مَعَكُمْ أَيْنَ مَا كُنتُمْ وَاللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌ ( 4 )
"พระองค์คือ พระผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินในระยะ 6 วัน แล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่เข้าไปในแผ่นดิน และสิ่งที่ออกมาจากแผ่นดิน และสิ่งที่ลงมาจากฟากฟ้าและสิ่งที่ขึ้นไปสู่ฟากฟ้าและพระองค์ทรงอยู่กับ พวกเจ้าไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ ณ แห่งหนใด และ อัลลอฮ.ทรงเห็นสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ"

(อัลกุรอาน สูเราะฮฺ อัล-หะดิด 57:4)

พระองค์กล่าวว่า ‘พระองค์ทรงอยู่กับพวกเจ้า’ ไม่ได้หมายความว่าพระองค์ทรงปะปนกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ภาษาไม่ได้สื่อถึงสิ่งนี้ นอกจากนี้ยังได้ขัดแย้งกับความเข้าใจที่เห็นพ้องต้องกันของอุมมะฮฺ(ประชา ชาติมุสลิม)ในยุคแรก นี่จะเป็นการขัดกับการสร้างทุกสรรพสิ่งของอัลลอฮฺ ตัวอย่างเช่น ดวงจันทร์คือหนึ่งในสัญญาณของอัลลอฮฺที่พบในบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง มันถูกวางไว้ในชั้นฟ้าที่ซึ่งพบเห็นได้ในเวลาเดียวกันทั้งผู้เดินทางหรือผู้ ที่มิได้เดินทาง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่แห่งใด แน่นอนที่สุด พระองค์ผู้ทรงสูงส่งยิ่ง ได้เฝ้ามองเหนือสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง และปกครองเหนือพวกเขา

ดัง นั้น แนวคิดในพระเจ้าของอิสลามสมควรที่จะถูกปกป้องจากการบิดเบือนและการคาดเดาที่ ผิดพลาด เช่น การที่คิดว่าความหมายที่ชัดเจนจากคำพูดของพระองค์ ‘ในชั้นฟ้าทั้งหลาย’ หมายความว่าพระองค์อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย ความเข้าใจลักษณะนี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความจริงตามความคิดเห็นของผู้รู้และผู้ศรัทธา

ความใกล้ชิดของอัลลอฮฺต่อ อับดฺ ของ พระองค์(บ่าวหรือผู้ปฏิบัติศาสนกิจ)นั้น พระองค์ทรงใกล้กับบรรดาสิ่งที่ถูกสร้าง ในการตอบสนอง ดังที่พระองค์ได้สรุปมันไว้ในโองการที่ระบุความว่า


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า

وَإِذَا سَأَلَكَ عِبَادِي عَنِّي فَإِنِّي قَرِيبٌ أُجِيبُ دَعْوَةَ الدَّاعِ إِذَا دَعَانِ فَلْيَسْتَجِيبُوا لِي وَلْيُؤْمِنُوا بِي لَعَلَّهُمْ يَرْشُدُونَ ( 186 )
"และเมื่อบ่าวของข้าถามเจ้าถึงข้าแล้วก็ (จงตอบเถิดว่า) แท้จริงนั้นอยู่ใกล้ ข้าจะตอบรับคำวิงวอนของผู้ที่วิงวอน เมื่อเขาวิงวอนต่อข้าดังนั้น พวกเขาจงตอบรับข้าเถิด และศรัทธาต่อข้า เพื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ในทางที่ถูกต้อง"

(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-บาเกาะเราะฮฺ 2:186)

เช่นเดียวกับที่ท่านนบี(ขอความสันติจงมีแด่ท่าน)กล่าวต่อบรรดาศอฮาบะฮฺ ในขณะที่พวกเขายกเสียงของพวกเขาในการวิงวอนขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ

สิ่งที่ได้รับการเปิดเผยในคัมภีร์(เช่น คัมภีร์อัลกุรอ่าน) และในซุนนะฮฺ – ของผู้ใกล้ชิดพระองค์ - ไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่ได้รับการบอกกล่าวจากผู้ทรงได้รับการสรรเสริญผู้ทรง สูงส่งยิ่ง แท้จริง มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์แด่พระองค์ ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ในทุกคุณลักษณะของพระองค์ และ ‘พระองค์ทรงสูงส่งยิ่งในความใกล้ชิดของพระองค์ และทรงอยู่ใกล้ในความสูงส่งยิ่งของพระองค์’

มุสลิมเชื่อว่าอัลกุรอ่านคือพระดำรัสของอัลลอฮฺ ส่วนสำคัญของความศรัทธาในอัลลอฮฺและคัมภีร์ของพระองค์คือความเชื่อที่ว่า คัมภีร์อัลกุรอ่านคือพระดำรัสของอัลลอฮฺที่ถูกเปิดเผย คือถ้อยคำของอัลลอฮฺทั้งตัวอักษรและความหมายของมัน พระดำรัสของอัลลอฮฺไม่ได้เป็นถ้อยคำเพียงอย่างเดียวโดยไร้ความหมาย และไม่ได้เป็นความหมายเพียงอย่างเดียวโดยปราศจากถ้อยคำ

การเห็นอัลลอฮฺในวันพิพากษาคือส่วนหนึ่งของความศรัทธาต่ออัลลอฮฺ สิ่งที่เราอ้างอิงจากการศรัทธาต่อพระองค์จากคัมภีร์ของพระองค์และจากบรรดา ร่อซู้ลของพระองค์ รวมถึงยังเชื่อว่าบรรดาผู้ศรัทธาจะเห็นพระองค์ด้วยตาของพวกเขาเอง เช่นเดียวกับที่พวกเขาเห็นดวงอาทิตย์ในวันที่ไร้เมฆบดบัง เช่นเดียวกับที่พวกเขาเห็นจันทร์เต็มดวงโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ในขณะที่พวกเขาอยู่ในวันพิพากษา พวกเขาจะได้เห็นพระองค์ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่ง และพวกเขาจะเห็นพระองค์หลังจากที่ได้เข้าสู่สวนสวรรค์ นี่คือพระประสงค์ของอัลลอฮฺ ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่ง

เหล่านี่คือบางส่วนของหลักฐานที่ได้มาจากอัลกุรอ่านเอง ข้อความจากอัลกุรอ่านเป็นข้อความที่ชัดเจนเกี่ยวกับพระองค์ไม่อยู่ "ใน" สิ่งที่พระองค์สร้างและพระองค์ไม่ทรง "เหมือน" สิ่งถูกสร้างของพระองค์หรือ "ต้องพึ่งพา" สิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า
اللَّهُ لَا إِلَٰهَ إِلَّا هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ لَا تَأْخُذُهُ سِنَةٌ وَلَا نَوْمٌ لَّهُ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ مَن ذَا الَّذِي يَشْفَعُ عِندَهُ إِلَّا بِإِذْنِهِ يَعْلَمُ مَا بَيْنَ أَيْدِيهِمْ وَمَا خَلْفَهُمْ وَلَا يُحِيطُونَ بِشَيْءٍ مِّنْ عِلْمِهِ إِلَّا بِمَا شَاءَ وَسِعَ كُرْسِيُّهُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَلَا يَئُودُهُ حِفْظُهُمَا وَهُوَ الْعَلِيُّ الْعَظِيمُ ( 255 )
"อัลลอฮ์นั้น คือ ไม่มีผู้ที่เป็นที่เคารพสักการะใด ๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงมีชีวิต ผุ้ทรงบริหารกิจการทั้งหลาย โดยที่การง่วงนอน และการนอนหลับใด ๆ จะไม่เอาพระองค์ สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นของพระองค์ ใครเล่าคือผู้ที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้วยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ล้อมสิ่งใด จากความรู้ของพระองค์ไว้ได้ นอกจากสิ่งที่พระองค์ประสงค์เท่านั้น เก้าอี้พระองค์นั้นกว้างขวางทั่วชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และการรักษามันทั้งสองก็ไม่เป็นภาระหนักแก่พระองค์ และพระองค์นั้นคือผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิงใหญ่"

(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 2:255)


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า
قُلْ هُوَ اللَّهُ أَحَدٌ ( 1 ) 
"จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ(1)"

اللَّهُ الصَّمَدُ ( 2 ) 
"อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่ง"

لَمْ يَلِدْ وَلَمْ يُولَدْ ( 3 ) 
"พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ"

وَلَمْ يَكُن لَّهُ كُفُوًا أَحَدٌ ( 4 ) 
"และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์"

(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลอิคลาศ  112:1-4)


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า

وَلِلَّهِ الْمَشْرِقُ وَالْمَغْرِبُ فَأَيْنَمَا تُوَلُّوا فَثَمَّ وَجْهُ اللَّهِ إِنَّ اللَّهَ وَاسِعٌ عَلِيمٌ ( 115 ) 
"และทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ ดังนั้นพวกเจ้าจะผินไปทางไหน ที่นั่นแหละคือพระพักตร์ของอัลลอฮ์ แม้จริงอัลลอฮ์คือผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้"

(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 2:115)


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า

وَلِلَّهِ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ وَكَانَ اللَّهُ بِكُلِّ شَيْءٍ مُّحِيطًا ( 126 ) 
"และสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺนั้นทรงล้อมทุกสิ่งทุกอย่างไว้"

(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลนิสาอ์ 4:126)


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า

هُوَ الْأَوَّلُ وَالْآخِرُ وَالظَّاهِرُ وَالْبَاطِنُ وَهُوَ بِكُلِّ شَيْءٍ عَلِيمٌ ( 3 )
"พระองค์ทรงเป็นองค์แรกและองค์สุดท้าย และทรงเปิดเผยและทรงเร้นลับ และพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง"

 (อัลกุรอาน สูเราะฮฺ อัล-หะดิด 57:3)


พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานาฮูวาตะอาลา ตรัสว่า

لَّا تُدْرِكُهُ الْأَبْصَارُ وَهُوَ يُدْرِكُ الْأَبْصَارَ وَهُوَ اللَّطِيفُ الْخَبِيرُ ( 103 ) 

"สายตาทั้งหลายย่อมไม่ถึงพระองค์ แต่พระองค์ทรงถึงสายตาเหล่านั้นและพระองค์ก็คือผู้ทรงปรานี ผู้ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วน" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-อันอาม 6:103)

สุดท้ายผมต้องการที่จะเสริมว่ามีเพียงอัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงรอบรู้ทั้งหมด ความดีใด ๆ ล้วนมาจากพระองค์ และความผิดพลาดใด ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมาจากผมเอง

ได้โปรดดุอาให้ผม และขอให้อัลลอฮฺทรงยกโทษให้ผม ขออัลลอฮฺทรงประทานแก่พวกเราซึ่งแนวทางอันเที่ยงตรงของพระองค์ อามีน



والله أعلم بالصواب




✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿




ตอบคำถามโดย ยูสุฟ เอสเตส
Fittree Al-Ashary แปลและเรียบเรียง



http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=884&Itemid=1

1 ความคิดเห็น: