อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อุดฮียะฮหรือสัตว์กุรฺบาน




อุดฮียะห์ (الأضحية) หรือสัตว์กรุบาน : หมายถึง ปศุสัตว์ที่ถูกเชือดเพื่อเป็นการนำตนให้เข้าใกล้ชิดอัลลอฮ์ ศุบฮานะฮูวะตาอาลา ในวันอีด นับตั้งแต่วันอีฏีลอัฏฮา (10 ซุลฮิจญะฮ.) จนกระทั่งถึงท้ายของวันตัซรีกทั้ง 3 วัน (สิ้นสุดการเชือดเมื่อเข้าเวลามักริบของวันที่ 13 ซุลฮิจญะฮ.)


อัล-กุรอ่าน ,อัล-ฮาดิษ คือ คำดำรัสของอัลลอฮศุบฮานะฮูวะตาอาลา ในซูเราะห์ อัล-เกาซัร อายะห์ที่ 2

فصل لربك وانحر

"ดังนั้น สูเจ้าจงละหมาดต่อพระผู้อภิบาลของสูเจ้า และสูเจ้าจงเชือด"

รายงานจากท่านหญิงอาอีซะห์ รอดียัลลอฮูอันฮา แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า
ما عمل ابن آدم يوم النحر من عمل أحب الى الله تعالى من اراقة الدم
انها لتأتي يوم القيامة بقرونها وأظلافها وان الدم ليقع من الله بمكان قبل 
أن يقع على الأرض فطيبوا بها نفسا 
 "ไม่มีการกระทำใดของมนุษย์ที่จะเป็นที่รักยิ่งยังอัลลอฮ. มากไปกว่าการทำให้เลือดหลั่งนอง (เนื่องจากการเชือดสัตว์เพื่อเป็นพลีทาน) แท้จริงแล้วมันจะมาในวันกียามัตด้วยกับเขาของมันและกีบเท้าของมัน และแท้จริงแล้วเลือดจะตกอยู่ ในสถานที่หนึ่ง ณ อัลลอฮ. ก่อนที่จะตกถึงพื้น ดังนั้นพวกท่านจงตั้งใจให้ดีกับการเชือดนั้น" (บันทึกหะดิษโดยติรมีซี)

ان الني صلي الله عليه وسلم ضحي بكبشين املحين
اقرنين ذ بحهمابيده 
وسمّي وكبّر ووضع رجله علي صفاحهما 
"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เชือดสัตว์อุดฮียะห์(สัตว์กรุบาน) เป็นแกะสองตัวสีเทามีเขา ท่านได้เชือดมันทั้งสองด้วยมือของท่านเอง ท่านได้กล่าวบิสมิ้ลลาห์ฯ และกล่าวตักบีร และได้วางเท้าของท่านลงบนข้างต้นคอ" (บันทึกหะดิษโดยบุคอรี)

อัลลอฮ.ทรงตรัสไว้ในซูเราะห์อัลฮัจย์ อายะห์ที่ 34)

(34 الآية:سورة الحج ) (وَلِكُلَّ أُمَّةٍ جَعَلْنَا مَنْسَكًا لِيَذْكُرُوْا اسمَ الله عَلىَ مَا رَزَقَهُمْ مِنْ بَهِيْمَةِ اْلأنْعَامِ ) 

" และสำหรับทุกๆประชาชาตินั้น เราได้กำหนดศาสนพิธีไว้แล้ว เพื่อพวกเขากล่าวนามของอัลลอฮ. เหนือสิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา จากปศุสัตว์"

สัตว์ที่ดีที่สุดในการทำอุดฮียะห์ก็ คือ อูฐ รองลงมาได้แก่ วัว และรองลงมาก็ได้แก่ แพะ แกะ

ให้ล่าช้าการเชือดจนกระทั่งดวงอาทิตย์ของวันอีดสูงได้ระยะ 1 ด้ามหอก(โดยการประมาณด้วยสายตา) คือ ภายหลังจากเสร็จละหมาด อีด
เพราะมีรายงานจากฮะดีษว่า:

اَوَلُ مَا نَبْدَأُ بِهِ يَومَنَا هَذَانُصَلِي ثُمَ نَرْجِعُ فَنَنْحَرُ فَمَنْ
فَعَلَ ذَالِكَ فَقَدْ اَصَابَ سُنَتَنَا وَمَنْ ذَبَحَ قَبْلَ ذَالِكَ فَاِنَمَا هُوَلَحْمٌ قَدَّمَه‘
لاَهْلِهِ لَيْسَ مِنَ النُسُكِ فِيْ شَيْءٍ

สิ่งแรกที่เราได้เริ่มต้นในวันนี้ของเราคือ เราละหมาด จากนั้นเรากลับมาและเชือด ดังนั้นผู้ใดปฎิบัติดังกล่าว เขาก็ทำถูกต้องตามซุนนะห์ของเรา และผู้ใดเชือดก่อนดังกล่าวนั้น มันก็เป็นเนื้อที่เขาหยิบยื่นให้แก่ครอบครัวของเขา ไม่ใช่เป็นพีธีการศาสนาแต่อย่างใด คำที่ว่า และผู้ใดเชือดก่อนดังกล่าวนั้น " (บันทึกหะดิษโดยบุคอรี หะดิษเลขที่5225 และมุสลิม หะดิษเลขที่1961)

รายงานจากญุบัยร์บุตรมุตอิม ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: ท่านรอซูลุ้ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

(وَكُلُّ اَيّامِ الْتَشْرَيْقِ ذَبَحٌ)

: ทุกวันตัชรีกนั้นคือการเชือด หมายความว่าเป็นเวลาเชือด: (บันทึกหะดิษโดย อินุฮิบบาน หะดิษเลขที่1008)

เงื่อนไขของการเชือดที่จะเป็นกุรบ่านได้มี 3 ประการ

1. สัตว์ที่ถูกเชือดต้องมาจากปศุสัตว์
2. การเชือดต้องอยู่ในวันอีดและบรรดาวันตัซรีกทั้ง 3 วันเท่านั้น  คือวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม หลังจากวันอีด
3. การเชือดนั้นเพื่อต้องการนำตนให้เข้าใกล้ชิดอัลลอฮ.

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«إِذَا رَأَيْتُمْ هِلَالَ ذِي الْحِجَّةِ وَأَرَادَ أَحَدُكُمْ أَنْ يُضَحِّيَ ، فَلْيُمْسِكْ عَنْ شَعْرِهِ وَأَظْفَارِهِ»
ความว่า  “เมื่อพวกท่านได้เห็นจันทร์เสี้ยวเดือนซุลฮิจญะฮฺแล้ว และคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านนมีความประสงค์จะเชือดสัตว์กุรบาน เขาจงงดการตัดผมและตัดเล็บ” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม)

 ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวกับท่านหญิงฟาตีมะห์ รอดียัลลอฮูอันฮา(บุตรสาวของท่าน)ว่า:

قومي الى أضحيتك فاشهديها فانه بأول قطرة من دمها 

يغفر لك ما سلف من ذنوبك)
قالت يارسول الله هذالنا اهل البيت خاصة

ولناوللمسين عامة 
(قال بل لنا وللمسلمين عامة 

"เธอจงลุกขึ้นไปยืน ณ สัตว์กุรบานของเธอและจงมองดูมัน เพราะเธอจะได้รับการอภัยโทษจากบาปต่างของเธอที่ลุล่วงมาแล้วที่ผ่านพ้นมาแล้วด้วยกับหยดแรกจากเลือดของมัน" ฟาตีมะห์ได้กล่าวถามว่า โอ้ท่านรอซูลุ้ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่กล่าวมานี้เฉพาะพวกเราที่เป็นคนในครอบครัวของท่าน (อะห์ลุ้ลบัยต์) เท่านั้นหรือสำหรับพวกเราและมวลมุสลิมโดยทั่วไป? ท่านตอบว่า:แต่มันสำหรับพวกเราและมวลมุสลิมโดยทั่วไป"(บันทึกหะดิษโดยฮากิม หะดิษเลขที่4/222 ด้วยสายรายงานที่ซอเฮียะห์)

อนุญาติให้ใช้อูฐหรือวัวหนึ่งตัวนั้น สามารถหุ้นส่วนกันได้ 7 คน หรือ 7 ส่วน ได้รายงานว่า:

عَنْ جَابِرٍ رَضِيَ اللهُ عَنْهُ قَالَ نحرنا مع الرسول الله

صلي الله عليه وسلم عام الحديبية البدنة عن سبعة 

والبقرة عن سبعة

จากท่านญาบิร ร่อฎัยัลลอฮุอันฮุม ได้กล่าวว่า "เราได้เชือดพร้อมกับท่านรอซูลุ้ลลอฮฺในปีฮุดัยบียะห์ อูฐ หนึ่งตัวแก่เจ็ดคน และวัวหนึ่งตัวแก่เจ็ดคน"(บันทึกหะดิษโดยท่านอีหม่ามมุสลิม หะดิษเลขที่1318)

สัตว์ที่่ห้ามทำกุรบานได้แก่
1.สัตว์ตาบอด
2.สัตว์ที่เป็นโรค อาการป่วยปรากฏชัด
3.สัตว์ที่ขากะเผลกที่ปรากฏอาการชัด และ
4.สัตว์ผอมที่ไม่มีไขมัน

عن البر بن عازب رضي الله عن عن النبي صلي الله
عليه وسلم قال
اَرْبَعٌ لاتُجْزَيءُفي الاضاحي العَوْرَاءُ البَيِّن ُعَوْرُهَا 
وَالْمَرِيْضَةُ البَيِّنُ مَرَضُهَاء
والعَرْجَاءُالبين عَرَجُها والعَجْفَاءُ التي لاتُنقي
จากท่านบะรออฺ บุตร อาซิบ(ร,ด) จากท่านนบี (ซ,ล) ได้กล่าวว่า สัตว์สี่ประเภทใช้ทำอุดฮียะห์ไม่ได้คือ สัตว์ตาบอดที่อาการบอดของมันแจ้งชัด สัตว์ที่เป็นโรคที่อาการป่วยของมันปรากฎชัด สัตว์ขากะเผลกที่ปรากฎอาการกะเผลกอย่างแน่ชัด และสัตว์ผอมที่ไม่มีไขมัน(บันทึกหะดิษโดยท่านติรมีซี หะดิษเลขที่1497 และว่าเป็นฮะดีษซอเฮียะ ห์และอบูดาวูด หะดิษเลขที่2802)


والله أعلم بالصواب


لاحول ولاقوة إلابالله

والله ولي التوفيق

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น