อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การตักบีรฺในละหมาดอีดทั้งสอง




จำนวนตักบีรฺ (การกล่าวอัลลอฮุอักบัร الله أكبر‎)

สำหรับตักบีรฺในละหมาดอีดทั้งสองนั้น ในร็อกอะฮฺแรก ให้กล่าวตักบีรฺ 7 ครั้ง และร็อกอะฮฺที่สอง 5 ครั้ง แต่มีทัศนะที่ไม่ตรงกันว่าควรตักบีร(ที่ไม่ใช่ตักบีร่อตุลอิหฺรอม) ในเวลาใด เป็นสองทัศนะ

ทัศนะแรกให้ตักบีรฺหลังจากตักบีร่อตุลอิหฺรอม(ตักบีนฺแรก) และก่อนอ่านฟาตีหะฮฺ ในทั้งสองร็อกอะฮฺ ซึ่งเป็นทัศนะของอิมามมาลิก อิมามอัชชาฟีอีย์ และอิมามอะหฺมัด ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ(ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงเอ็นดูเมตตาท่าน)

โดยอ้างหลักฐาน ดังนี้

รายงานจากท่านกะซีร อิบนิ อับดิลลาฮฺ จากบิดาของเขา จากปู่ของเขา เล่าว่า
"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้ตักบีรฺในละหมาดอีดทั้งสองในร็อกอะฮฺที่หนึ่ง 7 ครั้ง ในร็อกอะฮฺที่สอง 5 ครั้ง ก่อนการอ่าน(หมายถึงอัลฟาติหะฮฺ)" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด อัตติรฺมีซีย์ และอิบนุมาญะฮฺ)

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮา เล่าว่า
"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้ตักบีรฺในละหมาดอีดทั้งสอง 7 ครั้งในร็อกอะฮฺที่หนึ่ง 5ครั้งในร็อกอะฮฺที่สองก่อนอ่าน (อัลฟาติหะฮฺ)" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด)

รายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อัมรฺ อิบนุลอ๊าซ ได้กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"การตักบีรฺในละหมาดอีดมี 7 ครั้งในร็อกอะฮฺแรก และ 5 ครั้ง ในร็อกอะฮฺสุดท้าย ส่วนการอ่าน(ฟะติหะฮฺ) นั้นหลังจากการตักบีรฺทั้งสอง" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอบูดาวูด)

 ทัศนะที่ 2 การอ่านนั้น (อัลฟาตีหะฮิและสูเราะฮฺ) จะต้องเชื่อมกันในสองร็อกอะฮฺ กล่าวคือ ให้ตักบีรฺในร็อกอะฮฺแรกก่อนการอ่าน ส่วนในร็อกอะฮฺที่สองนั้น ให้ตักบีรฺหลังการอ่าน ซึ่งเป็นทัศนะของอิมามอบูนีฟะฮฺ ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ และจากรายงานหนึ่งในมัซฮับของอิมามอะหฺมัด ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ

โดยอ้างหลักฐาน ดังนี้

รายงานจากท่านอบีมูซา อัลอัชอะรีย์ และหะดิษของท่านฮุซัยฟะฮฺ เล่าว่า
"ท่านท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ตักบีรฺในละหมาดอีด 4 ตักบีรฺ เหมือนกับตักบีรฺในละหมาดญะนาซะฮฺ และอ่าน (ฟาติหะฮฺ และสูเราะฮฺ อย่างต่อเนื่อง)" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด และอิมามอบูดาวูด)

 การตักบีรฺของผู้ไม่ทันการตักบีรฺของอิมาม

แบ่งออกเป็น 2 ทัศนะ

ทัศนะแรก มะมูมจะต้องปฏิบัติตามอิมาม แม้ไม่ทันตักบีรฺทั้งหมด โดยไม่ต้องตักบีรฺใช้ แต่ถ้าเขาละหมาดไม่ทันอิมามหนึ่งร็อกอะฮฺเต็มๆ ก็ให้เขาละหมาดใช้ร็อกอะฮฺนั้นพร้อมกับตักบีรฺทั้งหมดในร็อกอะฮฺนั้น

ทัศนะที่ 2 เมื่อผู้มาไม่ทันละหมาด สามารถที่จะตักบีรก่อนรุกัวะฮฺ ก็ให้เขาตักบีรฺ ถึงแม้อิมามจะตักบีรฺเสร็จแล้ว และเริ่มอ่านฟะติหะฮและสูเราะฮฺแล้ว เป็นทัศนะของอิมามอบูนีฟะฮ อิมามมาลิก และทัศนะเดิมของอิมามชาฟีอีย์ และทัศนะหนึ่งจากแนวมัซฮับฮัมบาลีย์

การยกมือทั้งสองในขณะตักบีรฺ

บรรดาศอหะบะฮฺมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ในหุก่มของการยกมือขณะตักบีร่อตุซซะวาอิด (คือตักบีรฺที่ไม่ใช่ตักบีรฺแรก หรือตักบีร่อตุ้ลอิหฺรอม)

 ทัศนะแรก ให้ยกมือทั้งสองขณะตักบีรฺทุกครั้งในละหมาดหมาดทั้งสอง รวมทั้งละหมาดขอฝน หรือละหมาดญะนาซะฮฺ ซึ่งเป็นทัศนะของมัซฮับชาฟีอีย์ อิมามอะหฺมัด และหนึ่งในสองของทัศนะอิมามมาลิก และอิมามอบูฮะนิฟะฮฺ

หลักฐานที่นำอ้างอิงทัศนะ

รายงานจากท่านอุมัร อิบนิล คอฏฏอบ เล่าว่า
"ท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะยกมือทั้งสองในทุกตักบีรฺในละหมาดอีด" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบัยฮะกีย์)
รายงานจากท่านอิบนุ อับบ๊าส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า
"ไม่มีการยกมือ นอกจากใน 7 ตำแหน่ง หนึ่งในเจ็ดนั้นท่านได้ระบุว่า การยกมือขณะตักบีรฺในละหมาดอีดทั้งสอง" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบัยฮะกีย์)

ทัศนะที่ 2 ไม่มีบทบัญญํติให้ยกมือขณะตักบีรฺในละหมาดอีดทั้งสอง รวมถึงละหมาดขอฝน และละหมาดญะนาซะฮฺ ทัศนะนี้เป็นทัศนะของอิมามมาลิก บางส่วนของแนวมัซฮับฮานาฟีย์

หลักฐานที่นำอ้างอิงทัศนะ

จากรายงานจากท่านอิบนิ มัสอู๊ด เล่าว่า
"ปรากฏว่า ท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ยกมือทั้งสองของท่านในละหมาด นอกจากตักบีร่อตุ้ลอิฟตอต๊าฮิเท่านั้น" 

สำหรับท่านอิมามอบูฮะนิฟะฮฺเองท่านยกมือในละหมาดอีด ละหมาดขอฝน แต่ไม่ยกมือในละหมาดญะนาซะฮฺ

โดยอาศัยหลักฐานต่อไปนี้

รายงานจากท่านอิบนุ อับบ๊าส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า
"ไม่มีการยกมือ นอกจากใน 7 ตำแหน่งเท่านั้น ใน 7 นั้น ไม่มีละหมาดญะนาซะฮฺ"(บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบัยฮะกีย์)

รายงานจากจากท่านอาลี อิบนิ อบีฏิลิบ และท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อุมัร ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า
ท่านทั้งสองได้กล่าวว่า
"ไม่มีการยกมือ หมายถึงในละหมาดญะนาซะฮฺ นอกจากขณะตักบีร่อตุลเฮียะรอม (ตักบีรฺแรก) เท่านั้น" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบัยฮะกีย์ และอัตติรมิซีย์)

การต่อเนื่องในการทำตักบีรฺ

บรรดาอุละมาอฺมีความทัศนะที่ไม่ตรงกันในเรื่องนี้

ทัศนะแรก ให้มีการเว้นช่วงระหว่างตักบีรฺ โดยไม่ให้มีการติดต่อกัน ซึงเป็นทัศนะของมัซฮับชาฟีอีย์ และมัซฮับฮัมบาลีย์  โดยให้ทิ้งช่วงระยะเวลาหนึ่งระหว่างสองตักบีรฺ เพื่อกล่าว "ซุบฮานัลลอฮฺ วัลฮัมดุลิลลาฮฺ วะลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วัลลอฮุอักบัร"

หลักฐานที่นำอ้างอิงทัศนะ

รายงานจากท่านอัลกอมะฮฺ เล่าว่า ท่านอับดุลลอฮ อิบนิ มัสอู๊ด ท่านอบูมูซา อัลอัชอะรีย์ และท่านฮุซัยฟะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม กล่าวว่า "ท่านวะลีด อิบนิ อุกบะฮิ ได้ออกไปพบท่านทั้งสามในวันหนึ่ง และกล่าวว่าถามท่านทั้งสามว่า
" วันอีดนั้นใกล้เข้ามาแล้ว จะตักบีรฺอย่างไรกันในวันนั้น ท่านอับดุลลอฮ อิบนิ มัสอู๊ด ได้ตอบว่า "ท่านเริ่มด้วยกล่าวตักบีรฺเปิดละหมาด ต่อมาให้สรรเสริญพระเจ้าของท่านแล้วกล่าวซอลาวาตต่อท่านนบี ต่อจากนั้นให้ท่านขอดุอาอฺ แล้วกล่าวตักบีรฺ ละทำเหมือนกัน ต่อจากนั้น ให้ท่านขอดุอาอฺ แล้วกล่าวตักบีรฺ.....ต่อจากนั้นให้อาน (อัลฟาติหะฮฺ และสูเราะฮฺ)...."(บันทึกหะดิษโดย อัลบัยฮะกีย์)
จากหะดิษข้างต้น ระบุว่า "จากนั้นให้ท่านขอดุอา" แต่ไม่ได้ระบุให้กล่าวดุอาอ์อย่างไร บ้างก็กล่าว "ซุบฮานัลลอฮฺ วัลฮัมดุลิลลาฮฺ วะลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วัลลอฮุอักบัร" บ้างก็กล่าว "อัลลอฮุอักบัร กะบีรอ วัลอัมดุลิลลาฮิ กะซีรอ วะซุบฮานัลลอฮิ บุกร่อเตาวะอะซีลา วะศ็อลลัลลอฮุอะลามุฮัมมัด วะอาลิฮฺ วะซํลละมะกะซีรอ" บ้างก็กล่าวว่า "ลาอิลาฮะอิลลัลอฮฺ อัลลอฮุอักบัร ฮัมฮัมดุลิ้ลลาฮฺ"

และไม่พบหลักฐานจากท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม โดยตรงว่าให้เว้นช่วงระหว่างตักบีรฺ และกล่าวดุอาอ์ใดๆ

ทัศนะที่ 2 ให้ตักบีรฺติดต่อกัน มิต้องเว้นช่องว่างด้วยการอ่านอะไร เพราะตรงนั้นไม่ใช่ตำแหน่งที่ควรขอดุอาอฺ หรือซิกรุ้ลลอฮฺ นั้นก็คือให้กล่าวอัลลอฮุอักบัร อย่างต่อเนื่อง จนครบ 7 ครั้งในร็อกอะฮฺแรก และ 5 ครั้ง ในร็อกอะฮฺที่สอง ซึ่งเป็นทัศนะของอิมามอบูฮานิฟะฮฺ และอิมามมาลิก


والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿





1 ความคิดเห็น: