อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ห้ามขายเนื้อกุรฺบาน


อิสลามส่งเสริมให้แบ่งเนื้ออุดรียะฮฺหรือเนื้อกุรฺบานออกเป็น 3 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 ไว้รับประทาน
ส่วนที่ 2 เก็บไว้รับประทานในวันหลัง
ส่วนที่ 3 นำแจกจ่ายแก่พี่น้องมุสลิมทั่วไป (ในที่นี้รวมถึงนำเนื้อกุรบานไปปรุงเป็นอาหารสำเร็จรูปแล้วเชิญผู้คนในชุมชนนั้นๆมารับประทาน)

รายงานจากท่านสะละมะฮฺ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"พวกท่านจงบริโภค จงแจกจ่ายอาหาร และเก็บ(เนื้อกุรฺบาน)ไว้บริโภควันหลัง"(หะดิษเศาะเฮียะฮฺ บันทึกหะดิษโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 5143)

แต่อิสลามห้ามนำเนื้อกุรฺบานไปขาย ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน และไม่ว่าด้วยวิธีใด เช่น นำเนื้อกุรฺบานไปปรุงเป็นอาหารสำเร็จรูปแล้วนำไปขายในงานวันอีดที่มัสญิดจัดขึ้นเพื่อนำเงินที่ได้ไปบำรุงกิจกรรมของมัสญิดหรือเพื่อต่อเติมอาคารเรียนฟัรดูอีนของมัสญิด เป็นต้น

และยังรวมถึงห้ามขายหนัง และกระดูกของสัตว์ทำกุรฺบานเช่นเดียวกัน แต่สามารถนำหนังและกระดูกนั้นไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลทั่วไปได้(ไม่จำเป็นต้องคนยากจน)

ท่านอฺลีย์ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม เล่าว่า
"ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมใช้ให้ฉันดูแลการเชือดอูฐ (กุรฺบาน)ของท่านรสูลุลลอฮฺและใช้ให้ฉันแจกจ่ายเนื้อของมัน, หนังของมัน และผ้าปูหลังของมัน “ (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 2320) 
รายงานจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"บุคคลใดที่จำหน่ายหนังสัตว์กุรบาน เช่นนั้นไม่ถือว่า (สัตว์ตัวนั้น) เป็นกุรฺบานสำหรับเขา"(หะดิษเศาะเฮียะฮฺ บันทึกหะดิษโดยมุสลิม หะดิษเลขที่ 2320 และอิมามอะหฺมัด หะดิษเลขที่ 1256)

และศาสนาไม่อนุญาตให้เศาะดะเกาะฮฺสตางค์ หรือเศาะดะเกาะฮฺเนื้อเป็นก้อนๆ ให้แก่ผู้ที่เชือด หรือผู้ที่แล่เนื้อ แต่ถ้าจะเศาะดะเกาะฮฺเป็นสตางค์ให้แก่ผู้เชือดหรือผู้แล่เนื้อก็ดี ต้องนำสตางค์ของผู้ทำกุรฺบานต่างหากให้แก่ผู้เชือด ส่วนของเนื้อกุรฺบานซึ่งเป็นสิทธิของผู้ที่เชือด หรือผู้ที่แล่เนื้อจะต้องได้รับแจกนั้นจำเป็นสำหรับผู้ทำกุรบานจะต้องให้แก่เขาอยู่แล้ว แยกต่างหากจากค่าเชือดหรือแล่เนื้อกุรฺบาน

รายงานจากท่านอฺลีย์ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม เล่าว่า
 "ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สั่งใช้ฉันไม่ให้แบ่งส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์กุรฺบาน (เป็นค่าตอบแทน) แก่ผู้ที่เชือดสัตว์, ท่านอฺลีย์กล่าวว่า พวกเราให้ (ค่าตอบแทน) เขา (เป็นสตางค์) ในส่วนของเรา" (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 2320)



والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น