ละหมาดกิยามุรอมฎอน หรือตะรอเวียะฮฺ 8 ร็อกอะฮฺ เป็นสุนนะฮฺนบี ส่วนที่มากกว่านี้เป็นที่ส่งเสริม
จากหนังสือ ฟิกฮุซุนนะฮฺ เล่ม 1 แปลโดยสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ
หน้า 340-342
หลักฐานท่านนบีละหมาดกิยามุรอมฎอน 8 ร็อกอะฮฺ |
จำนวนร็อกอะฮฺของละหมาดกิยามุรอมฎอน (หรือตะรอเวียะฮฺ)
ما كان رسول الله صلى الله عليه وسلم يزيد في رمضان ولا غيره على إحدى عشرة ركعة يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي ثلاثا
ท่านหญิงอาอิชะฮ์รายงานว่า
"ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."(หะดีษนี้ศอเฮียฮ์... บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ อัตติรมิซีย์ อบูดาวูด อันนะซาอีย์ อิมามมาลิก...)
ญาบิร อิบนฺอับดิลลาฮฺ เห็นคล้อยกับท่านหญิงอาอิชะฮฺ เขากล่าวว่า "......." ความว่า
“แท้จริงเมื่อท่านนะบีได้นำละหมาดร่วมกับมหาชนคืนหนึ่งในเดือนรอมฎอน ท่านได้ละหมาด 8 ร๊อกอะฮฺ และได้ทำวิตร”(บันทึกโดย : อิบนฮิบบาน และอัฎฎอบรอนีย์ และอิบนนัศร)อิบนุคุซัยมะฮิ และอิบนุฮิบบาน ได้บันทึกไว้ในหนังสือส่อฮีฮฺของเขาทั้งสอง โดยได้รายงานมาจากญาบิร ว่า "........" ความว่า
"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดกับสาวก 8 ร็อกอะฮฺ และละหมาดวิตริ ในคืนต่อมา บรรดาสาวกต่างมาคอยท่าน แต่ท่านไม่ได้ออกมานำพวกเขา"
อบูยะอฺลา และอัฏฏ็อบรอนี ได้บันทึกรายงานจากญาบิรด้วยสายรายงานที่ดีว่า "........" ความว่า
"อุบัย อิบนุกะอฺบิน ได้มาหาท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วกล่าวว่า "เมือ่ึคืนนี้ฉันมีปัญหาเล็กน้อย "หมายถึงในคืนรอมฎอน ท่านนบี ได้ถามว่าเรื่องอะไรเล่า...อุบัย?" อุบัยตอบว่า "พวกสตรีกลุ่มหนึ่งที่บ้านของฉันได้กล่าวกันว่า พวกเราไม่ได้อ่านอัลกุรอานกันเลย ดังนั้นเราจะละหมาดอย่างที่ท่านละหมาด (คือละหมาดตะรอเวียะฮฺ) จะได้ไหม?" แล้วฉันก็ได้ละหมาดนำพวกนาง 8 ร็อกอะฮฺ แล้วก็ได้ละหมาดวิตริ และนั้นเป็นแบบฉบับที่ท่านได้ยินยอมโดยท่านไม่ได้ว่าอะไรเลย"
ละหมาดตะรอเวียะฮฺแปดร็อกอะฮฺ นั้นเป็นสุนนะฮฺ ส่วนที่มากกว่านี้เป็นที่ส่งเสริม |
--->>>
ที่กล่าวมานี้เป็นแนวทางที่มาจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่มีหลักฐานที่ถูกต้องอื่นใดนอกจากนี้ และเป็นความจริงที่เล่ามาว่า บรรดาประชาชนในสมัยท่านอุมัร อุษมาน และอาลีได้ละหมาด 20 ร็อกอะฮฺ โดยเป็นทัศนะส่วนมากของนักวิชาการในมัซหับฮะนะฟี ฮัมบาลี และดาวูด
อัตติรมีซี ได้กล่าวว่า นักวิชาการส่วนใหญ่ถือตามที่ได้รายงานมาจากอุมัร อะลี และสาวกคนอื่นๆ ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม คือ 20 ร็อกอะฮฺ ซึ่งเป็นคำพูดของอัษเษารี อิบนุลมุบาร็อก และอิมามชาฟีอี โดยอิมามชาฟีอี ได้กล่าวว่า "ดังนั้นแหละฉันได้เห้นประชาชนในมักกะฮฺละหมาด 20 ร้อกอะฮฺ" (อิมามมะลิก ถือว่า จำนวนร็อกอะฮฺ ของละหมาดตะรอเวียะฮฺมี 36 ร็อกอะฮฺ โดยไม่รวมละหมาดวิตรฺ
อัซซัรกอนี กล่าวว่า "อิบนุฮิบบานได้ระบุว่าละหมาดตะรอเวียะฮฺในระยะแรกนั้น 11 ร็อกอะฮฺ พวกเขาอ่านกันยาวมากจึงเกิดความลำบาก พวกเขาจึงอ่านให้สั้นลง แล้วเพิ่มจำนวนร็อกอะฮฺ จึงกลายเป็น 20 ร็อกอะฮฺ ไม่รวมละหมาดวิตริ หลังจากนั้นก็ลดการอ่านให้น้อยลง และเพิ่มจำนวนร้อกอะฮฺเป็น 36 ร็อกอะฮฺ โดยไม่รวมละหมาดวิตริ เรื่องจึงดำเนินเป็นอย่างนี้เรื่อยมา")
นักวิชาการบางท่านได้ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เป็นสุนนะฮฺนั้น คือ 11 ร็อกอะฮฺรวมทั้งวิตริ ส่วนที่เหลือเป็นมุสตะฮับ(เรื่องที่ส่งเสริม)
อัลกะมาล อิบนุลหุมาม ได้กล่าวว่า ตามหลักฐานนั้น ถือว่า 20 ร้อกอะฮฺเป็นสุนนะฮฺที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ปฏิบัติไว้ แล้วท่านก็ได้หยุดชะงักไปเพราะเกรงว่าจะเป็นฟัรฏูแก่พวกเรา ดังนั้นส่วนที่เกิน 8 ร้อกอะฮฺ จึงเป็นมุสตะฮับ (เรื่องที่ส่งเสริม)
ความจริงปรากฏว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาด 11 ร้อกอะฮฺ รวมทั้งละหมาดวิตริ ดังปรากฏรายงานอยู่ในหนังสือศ่อฮีฮฺอัลบุคอรียฺและมุสลิม ดังนั้นเป็นฐานเดิมของบรรดาคณาจารย์ของเราก็คื 8 ร็อกอะฮฺ ส่วนอีก 12 ร็อกอะฮฺ ที่เหลือนั้นเป็นเรื่องที่ส่งเสริม
..........
หมายเหตุ...ท่านรสูลกล่าวว่า " ...... " ความว่า "ละหมาดในยามค่ำคืน ทีละสองร็อกอะฮฺ ทีละสองร็อกอะฮฺ" (บันทึกโดยติรฺมิซีย์)
والله أعلم
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น