อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ที่มาของวันฉลองวันเกิดนบีหรือวันเมาลิด


งานเมาลิดนบี


ก่อนอื่นก็ต้องอ่านหะดิษนี้ก่อน
ท่านอนัส บิน มาลิก ร.ฎ.  เศาะหาบะฮ์ผู้ใกล้ชิดท่านศาสดาที่สุดท่านหนึ่งกล่าวว่า

      مَا كَانَ فِى الدُّنْيَا شَخْصٌّ أَحَبَّ إِلَيْهِمْ رُؤْيَةً مِنْ رَسُوْلِ اللَّـهِ صَلَّى اللَّـهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ،  وَكَانُوْا إِذَا رَأَوْهُ لَمْ يَقُوْمُوْا لَهُ لِمَا كَانُوْا يَعْلَمُوْنَ مِنْ كَرَاهِيَتِهِ لِذَلِكَ ..

“ไม่มีอีกแล้วในโลกนี้  บุคคลที่พวกเขา (เศาะหาบะฮ์) อยากจะเจอหน้ายิ่งไปกว่าท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม,   แต่เมื่อพวกเขาเจอท่าน  พวกเขาไม่เคยยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติท่านเลย   เนื่องจากพวกเขารู้ว่า ท่านรังเกียจพฤติการณ์อย่างนี้” ..”
            (บันทึกโดย  ท่านบุคอรีย์ในหนังสือ  “อัล-อะดับ อัล-มุฟร็อด”   หะดีษที่  946,   ท่านอัต-ติรฺมีซีย์  หะดีษที่  2754,    ท่านอัฏ-เฏาะหาวีย์ในหนังสือ  “มุชกิล อัล-อาษารฺ”  หะดีษที่  1276,    ท่านอะห์มัด  เล่มที่  3  หน้า  132)

แค่การยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติ  ท่านนบีย์ก็ยัง  “รังเกียจ”  จนบรรดาเศาะหาบะฮ์ไม่กล้าปฏิบัติ,   แล้วการจัดงานเมาลิดเพื่อฉลองวันเกิดให้แก่ท่าน ซึ่งมัน  “เว่อร์” และเอิกเกริกกว่าการยืนให้เกียรติหลายร้อยเท่า   คิดหรือว่า หากเศาะหาบะฮ์ท่านใดคิดจัดมันขึ้นมาในขณะนั้น  ท่านนบีย์จะปลื้มใจและภูมิใจสุดๆกับความรักความภักดีที่มีผู้หยิบยื่นให้ท่านในลักษณะนั้น ? ...
            สิ่งใดที่ท่านศาสดารังเกียจ (ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลใดก็ตาม)  สมควรแล้วหรือที่มุสลิมที่อ้างว่า  “รักและให้เกียรติ”  ท่าน  จะดึงดันกระทำสิ่งนั้น  เพียงเพราะยึดมั่นอยู่กับความคิดของตนเองฝ่ายเดียวว่ามัน  “เป็นเรื่องดี”..   โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของตัวท่านนบีย์เอง ?

            การเฉลิมฉลองวันเกิดท่านนบีย์ด้วยการจัดงานเมาลิด  ไม่มีผู้ใดกล่าวว่าเป็นเรื่องไม่ดี, ..  เหมือนๆกับการยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติท่านศาสดา  ไม่มีเศาะหาบะฮ์ท่านใดมองว่า เป็นเรื่องไม่ดี

แต่ปัญหามิได้อยู่ที่ว่า มันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี !   ทว่า,  เมื่อมันเป็นสิ่งที่ท่านศาสดารังเกียจ  พวกเขาจึงงดเว้นที่จะยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติท่าน ..  ทั้งๆที่ตามเนื้อหาของหะดีษแล้ว  บ่งบอกความรู้สึกว่า พวกเขาต้องการยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติเมื่อเห็นท่าน

 การจัดงานเมาลิด ไม่ปรากฎในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด ไม่ปรากฎใน สมัยคอลีฟะฮฺ อบูบักร คอลีฟะฮฺอุมัร คอลีฟะฮฺอุสมาน คอลีฟะฮฺอาลี บรรดาซ่อฮาบะฮฺทุกระดับไม่เคยจัดงานเมาลิด และไม่เคยเห็นว่ามีการจัดงานเมาลิด บรรดาตาบิอีนทุกระดับไม่เคยคิดค้นให้จัดงานเมาลิด และไม่เคยเห็นว่ามีการจัดงานเมาลิด บรรดาอิมามชาวอะฮฺลุซซุนนะฮฺ คนสำคัญคือ อิมามอบูหะนีฟะฮฺ อิมามมาลิก อิมามชาฟีอียฺ อิมามอะหมัด อิบนิฮัมบัล ไม่เคยจัดงานเมาลิด และไม่เคยเสนอหรือส่งเสริมในการจัดงานเมาลิด

การจัดงานเมาลิดนบี เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศอียิปต์ เมื่อปี ฮ.ศ. 362 ซึ่งขณะนั้นวงศ์ฟาตีมียฺชีอะฮฺ อิสมาอีลียะฮฺ (คนละนิกายกับชีอะฮฺ อิสไนอะชะรียะฮฺ 12 อิมาม) เป็นผู้ปกครองอียิปต์ และได้สถาปนาอาณาจักรฟาตีมียฺขึ้น ผู้ปกครองขณะนั้นได้แก่ คอลีฟะฮฺ อัลมุอิซลิดีนิลลาฮฺ อัลฟาตีมียฺ พวกฟาตีมียฺ ได้จัดงานเมาลิดขึ้น 6 งานคือ
1. เมาลิดนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม
2. เมาลิดอีมามอาลี อิบนิอบีฎอลิบ
3. เมาลิดท่านหญิงฟาติมะฮฺ อัซซัฮฺรออฺ บุตรีของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม และเป็นภรรยาของท่าน อิมามอาลี
4. เมาลิดท่านหะซัน อิบนิอาลี อิบนิอบีฎอลิบ
5. เมาลิดท่านฮุเซน อิบนิอาลี อิบนิอบีฎอลิบ
6. เมาลิดท่านคอลีฟะฮฺ ผู้ปกครอง

เมาลิด2
เมาลิดไม่ใช่รูปแบบจากท่านนบี

การเฉลิมฉลองวันเกิดของท่านนบี เป็นการแสดงออกที่เกินเลยขอบเขต เพราะบรรดาเศาะหาบะฮ ซึ่งรักท่านนบีมุหัมหมัดมากกว่าใคร แต่ พวกเขาก็ไม่ได้แสดงความรักนบีด้วยการให้ความสำคัญกับวันเกิดของท่านนบี ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

لاتطروني كما أطرت النصارى ابن مريم إنما أنا عبد فقولوا عبد الله ورسوله

พวกท่านอย่ายกย่องสรรเสริญฉัน ดังเช่น พวกคริสเตียน ยกย่องสรรเสริญ (อีซา)บุตรของมัรยัม ความจริงฉันคือ บ่าว(ของอัลลอฮ)คนหนึ่ง ดังนั้น พวกท่านจงกล่าวว่า “ (ฉันคือ)บ่าวของอัลลอฮ และรซูลของพระองค์ – บันทึกโดยอัลบุคอรี หะดิษหมายเลข 3189 และ อะหมัด หะดิษหมายเลข 149

หะดิษที่ผู้ที่สนับสนุนใหทำเมาลิด
รายงานจากท่านอบีเกาะตาดะฮ์ว่า

سئل رسول الله صلى الله عليه وسلم عن صوم يوم الإثنين فقال ذلك يوم ولدت فيه وأنزل على

"ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ถูกถามเกี่ยวกับ การถือศีลอดในวันจันทร์ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวตอบว่า "ดังกล่าวนั้น (เพราะเป็น ) วันที่ฉันเกิด และ(วันที่อัลกุรอาน)ถูกประทานลงมายังฉัน" รายงายโดยท่าน มุสลิม

หะดิษข้างต้น ส่งเสริมให้ถือศีลอดสุนนะฮในวันจันทร์ ไม่ใช่ให้จัดงานวันเกิดท่านนบี   การจัดงานวันเกิด มีการเลี้ยงอาหารกันอย่างอิ่มหนำสำราญ

การนำหะดิษที่ส่งเสริมให้ถือศีลอดสุนนะฮ ในวันจันทร์ มาสนับสนุนการเฉลิมฉลองวันเกิดของท่านนบี  เป็นการใช้ยาที่ไม่ตรงกับโรค

มาดูหะดิษที่ อบูฮุรัยเราะฮรายงานว่า

أن النبي صلى الله عليه وسلم قال: "تعرض أعمال العباد كل اثنين وخميس فأحب أن يعرض عملي وأنا صائم

แท้จริง รซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ แท้จริงบรรดาการงานของบรรดาบ่าวนั้น ถูกนำเสนอในทุกๆวันจันทร์และวันพฤหัส ดังนั้น ฉันชอบให้การงานของฉันถูกเสนอ โดยที่ฉันกำลังถือศีลอด


والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น