อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ผู้อุปการะเด็กกำพร้า


ผู้อุปการะเด็กกำพร้าจะอยู่ใกล้ชิดนบีเช่นนิ้วชี้กับนิ้วกลาง


รายงานจาก อบีฮุรอยเราะห์ กล่าวว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า :
ผู้อุปการะเด็กกำพร้า ไม่ว่าจะเป็นญาติใกล้ชิด (เช่น แม่ ปู่ หรือพี่น้อง) หรือเป็นคนอื่นๆที่ไม่ใช่ญาติสนิทก็ตาม ฉันกับเขาจะอยู่ใกล้ชิดกันในสวรรค์ เช่นเดียวกับสองนิ้วนี้
แล้วผู้รายงานหะดีษ คือ มาลิก อิบนิอะนัส ก็ชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางขึ้น
(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 2983)

รายงานจาก ซะฮฺลฺ อิบนิซะอฺดฺ กล่าวว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า :
“ฉันและผู้อุปการะเด็กกำพร้า จะได้อยู่ในสวรรค์เช่นนี้”
และท่านรอซูลได้ชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางขึ้นแล้วแยกออกจากกัน
(บันทึกโดยบุคอรีย์ เล่ม 10 หน้า 365)

....เด็กกำพร้าคือ^^^เด็กที่บิดาเสียชีวิต^^^ และยังไม่บรรลุนิติภาวะ เขายังต้องการความช่วยเหลือจากผู้ที่ได้รับสั่งเสียว่า จะคอยดูแลให้ อาจจะด้วยทรัพย์ของเขาที่ผู้เป็นบิดาทิ้งไว้ให้ หรือเขายากจนไม่มีทรัพย์สิน เขาก็ยังต้องการผู้อุปการะเช่นกัน

ผู้ให้การอุปการะเด็กกำพร้านั้น จะได้รับผลตอบแทนเหมือนๆกัน ไม่ว่าจะเป็นญาติใกล้ชิด หรือ เป็นคนอื่น เพราะมุสลิมทุกคนเป็นพี่น้องกัน ไม่มีความแตกต่างระหว่างความเป็นญาติในฐานะมุสลิมด้วยกัน หรือเป็นญาติในฐานะสืบตระกูล ทุกฝ่ายจะต้องเสียสละ หันมาสนใจสังคมมุสลิม และพยายามให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้มาก""""":::::;;;;;++++!!!!^_____^
والله أعلم

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น