อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คุณลักษณะของพระองค์อัลลอฮ์มีแต่ไม่เหมือนสิ่งที่พระองค์สร้าง


คุณลักษณะของพระองค์อัลลอฮ์ “มีแต่ไม่เหมือน”  


อัลกุรอานบางอายะห์ที่กล่าวถึงคุณลักษณะของพระองค์อัลลอฮ์  เช่น

 พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า

إنَّ الَّذِيْنَ يُبَايِعُوْنَكَ إنَّمَا يُبَايِعُوْنَ اللهَ يَدُ اللهِ فَوْقَ أيْدِيْهِمْ

“แท้จริงบรรดาผู้ที่ให้สัตยาบันต่อเจ้านั้น อันที่จริงแล้วพวกเขาได้ให้สัตยาบันต่ออัลลอฮ์ มือของอัลลอฮ์อยู่เหนือมือพวกเขาเหล่านั้น”
(อัลกุรอาน ซูเราะห์ อัลฟัตฮ์ อายะห์ที่ 10)


พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า

قَالَ يَا إبْلِيْسُ مَا مَنَعَكَ أنْ تَسْجُدَ لِمَا خَلَقْتُ بِيَدَيَّ

“พระองค์กล่าวว่า โอ้อิบลีสเอ๋ย อะไรที่ห้ามเจ้าไม่ให้สุญูดต่อสิ่งที่ข้าสร้างด้วยมือทั้งสองของข้า”
 (อัลกุรอาน ซูเราะห์ ศอด อายะห์ที่ 75)

คำว่า يد มีความหมายในภาษาไทยว่า “มือ” 

คำว่า มือ ทั้งในภาษาอาหรับและภาษาไทยนั้น เป็นคำที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องตีความ เนื่องจาก “มือ” เป็นอวัยวะในร่างกายของมนุษย์ซึ่งทราบถึงรูปลักษณ์กันเป็นอย่างดี ว่ามือคน ก็คือมือคน เข้าใจได้โดยไม่ต้องจินตนาการหรือตีความใดๆทั้งสิ้น



สำหรับมือของสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างเหมือนมนุษย์บางชนิด ซึ่งไม่เคยพบเจอด้วยตัวเอง ยังมีมุมมองที่ต่างกัน แล้วสิ่งที่มนุษย์ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น และไม่เคยมีประสบการณ์เล่า จะเอาปัญญาที่ไหนไปอธิบาย

พระองค์อัลลอฮ์กล่าวว่า يد الله แปลว่า “มือของอัลลอฮ์” มนุษย์ทั้งโลกไม่สามารถเอาปัญญาของตนเองมาอธิบายความได้เลยว่าเป็นเช่นใด เนื่องจากมนุษย์ไม่มีประสบการณ์ ทั้งไม่เคยเห็นและก็ไม่สามารถสร้างมโนภาพหรือจินตนาการได้เลย


เมื่อพระองค์อัลลอฮ์ได้กล่าวถึง มือของพระองค์ ตามปรากฏอยู่ในอัลกุรอาน มากมายหลายอายะห์ แล้วมนุษย์กลับไม่เชื่อตามที่ถูกกล่าวไว้ แต่กลับใช้ปัญญาเบี่ยงเบนความหมายให้เป็นอื่น  ด้วยการปฏิเสธคำและความหมาย หรือยอมรับคำแต่ปฏิเสธความหมาย โดยเอาความหมายอื่นมาแทนที่


ทั้งที่หลักฐานอัลกุรอาน พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวถึงคุณลักษณะพระองค์ไว้ แต่ไม่เหมือนสิ่งถูกสร้างใดๆ

พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْئٌ

“ไม่มีสิ่งใดเสมือนพระองค์” 
(อัลกุรอานซูเราะห์ อัชชูรอ อายะห์ที่ 11)

وَلَمْ يَكُن لَّهُ كُفُواً أَحَدُ

“และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์” 
(อัลกุรอาน ซูเราะห์ อัลอิคลาศ อายะห์ที่ 4)

พระองค์อัลลอฮ์ทรงยืนยันว่า ไม่มีผู้ใด หรือสิ่งใด เหมือนกับพระองค์ ไม่ว่าตัวตนหรือคุณลักษณะของสิ่งถูกสร้างทั้งหมด ดังนั้นคุณลักษณะของพระองค์อัลลอฮ์ “มีแต่ไม่เหมือน” คือมีตามถ้อยคำที่พระองค์ทรงกล่าวแต่ไม่เหมือนสิ่งถูกสร้างใดๆ ซึ่งคำว่าไม่เหมือนกับสิ่งถูกสร้างนี้ เราไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเป็นเช่นใด คือเป็นสิ่งที่เกินกว่าประสบการณ์และปัญญาของมนุษย์จะหยั่งรู้ ดังนั้นเราจึงไม่ใช้ปัญญาของเราจาบจ้วงในเรื่องนี้

แต่บรรดานักวิภาษนิยมทั้งหลายต่างก็ใช้ปัญญาของตนเองไปอธิบายความเบี่ยงเบนให้เป็นอื่น หรือเปลี่ยนความหมายของคำที่ถูกระบุไว้ ให้เป็นอย่างอื่นเสีย เช่น
เปลี่ยนความหมายของคำว่า يد ที่แปลว่า “มือ” เป็น “อำนาจ” และบางท่านก็ให้ความหมายว่า “ความเมตตา” หรือ “ความช่วยเหลือ” อย่างนี้เป็นต้น โดยพวกเขากล่าวว่า พวกเขายืนยันในถ้อยคำแต่พวกเขาไม่ยอมรับในความหมายตามคำเดิมของมัน 



เมื่อหลักฐานจากอัลกุรอานได้ยืนยันว่า อัลลอฮ์นั้นไม่เหมือนกับสิ่งใด และไม่มีสิ่งใสเสมอเหมือนอัลลอฮ์ ดังที่ปรากฏในซูเราะห์ อัชชูรอ อายะห์ที่ 11 และใน ซูเราะห์ อัลอิคลาศ อายะห์ที่ 4

ก็ในเมื่อมีหลักฐานอธิบายเช่นนี้แล้ว เพราะเหตุใดจึงไม่หยุดอยู่ที่หลักฐานแล้วเชื่อตามหลักฐาน เพราะเหตุใดจึงต้องใช้ปัญญาของตนเอง เปลี่ยนความหมายให้เป็นอย่างอื่นอีกเล่า หรือไม่เชื่อหลักฐานที่ยืนยันว่าอัลลอฮ์นั้นไม่เหมือนกับสิ่งถูกสร้าง

ซึ่งมูลเหตุที่พวกเขาเปลี่ยนความหมายเพราะกลัวว่า มือในที่นี้จะเหมือนมือมนุษย์ ตามความคิดและจินตนาการของพวกเขาเอง ดังนั้นเหตุผลหลายร้อยเล่มเกวียนจึงถูกนำมาแสดงและระบาดไปทั่ว ปรากฏเป็นแนวคิดของกลุ่มต่างๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็หาวิธีที่จะทำให้อัลลอฮ์แตกต่างจากสิ่งถูกสร้างทั้งสิ้น ทั้งๆที่อัลลอฮ์ยืนยันถึงความต่างอยู่แล้ว เหล่านี้ทั้งหมดคือกระบวนการใช้ปัญญาแซงหน้าหลักฐาน

ขอยืนยันว่า แนวทางที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุดคือ แนวทางที่เหล่าศอฮาบะห์ของท่านนบีได้ยึดถือ เพราะพวกเขาอยู่ในยุคที่อัลกุรอานถูกประทานลงมา และบางท่านก็อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่อายะห์อัลกุรอานกำลังประทานลงมา พวกเขาได้รับการถ่ายทอดความรู้จากท่านนบีโดยตรง หรือบางท่านเป็นศอฮาบะห์รุ่นเยาว์ที่มิได้รับรู้ในเหตุการณ์ หรือบางท่านที่อยู่ไกลออกไป ก็ได้รับการถ่ายทอดความรู้เรื่องเหล่านี้จากเหล่าศอฮาบะห์ที่ได้เรียนรู้จากท่านนบีอีกทอดหนึ่ง เหล่าศอฮาบะห์ของท่านนบี คือกลุ่มชนที่ท่านนบีให้การรับรอง


والله أعلم بالصواب



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น