อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วาทกรรมอดีตจุฬาราชมนตรี เกี่ยวกับ"วะฮาบีย์"



นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ ซึ่งเป็น อดีตจุฬาราชมนตรี  ได้กล่าวไว้อย่างไรเกี่ยวกับ “ วะฮาบีย์” : 
นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ อดีตจุฬาราชมนตรี

“ แต่เดิมในสังคมไทยนี้ เนื่องจากข้อจำกัดของนักวิชาการมุสลิมยังมีอยู่น้อยหรือ มีอยู่บ้าง ส่วนใหญ๋ก็มักจะไม่มีความถนัดในการใช้ภาษาไทยเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ อิสลามให้สังคมได้เข้าใจ ซึ่งด้วยข้อจำกัดความเหล่านั้น” วาทกรรม” อันเกี่ยวข้องกับอิสลาม จึงถูกถ่ายทอดจากนักวิชาการชาวไทยโดยการแปลจากสื่อตะวันตก องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับอิสลามที่หล่อหลอมขึ้นในสังคมไทย จึงผิดพลาดคลาดเคลื่อนมีให้เห็นอยู่เสมอๆเช่นกัน

ในบรรดาวาทกรรมเกี่ยวกับอิสลามที่มีความเข้าใจผิดกันอยู่เสมอๆนั้น คำว่า “ วะฮาบีย์” ดูเหมือนจะเป็นคำหนึ่ง ซึ่งในระยะหลังนี้มีการกล่าวถึงกันบ่อยครั้ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็เข้าใจกันว่า “ วะฮาบีย์” ก็คือลัทธิความเชื่อที่เผยแพร่โดยมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบ ทั้งนี้โดยได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ซาอุดี แต่จากข้อมูลที่นำเสนอจากนักวิชาการสองท่าน คือ ซุฟอัมอุษมาน และอุษมานอิดริส ในหนังสือเล่มนี้โดยได้นำเสนอในรูปแบบงานศึกษาค้นคว้าทางวิชาการและมีการอ้างอิงที่มาของข้อมูลได้ลุ่มลึกเป็นที่น่าพอใจยิ่ง องค์ความรู้ใหม่ต่อความเข้าใจในเรื่อง “ วะฮาบีย์” นี้จะมีผลต่อความเข้าใจผิดที่มีมาช้านานและทำให้ความเข้าใจในเรื่องนี้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ในทัศนะของข้าพเจ้าจึงขอชื่นชมนักวิชาการทั้งสองนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะผลงานชิ้นนี้ไม่เพียวขยายองค์ความรู้ทางด้านอิสลามศึกษาให้กวางขวางขึ้นเท่านั้น แต่คือการให้ข้อเท็จจริง และให้ความยุติธรรมกับนักปฏิรูปศาสนาผู้ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 20 อย่างมุฮัมมัดอิบนุอับดุลวะฮาบ ท่านนี้ด้วย

อนึ่งในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ มีเหตุการณ์หลายอย่างที่สื่อไปในทางของการแสดงความรุนแรง ทั้งนี้สำแดงออกมาในนามของอิสลามและนามของขบวนการต่างๆเหล่านี้ ก็มักผูกโยงกับคำหรือวาทกรรมในทางศาสนา เช่น ญิฮาด ,เตาฮีด , ฮิซบุลลอฮฺ ,ยามาอะห์อิสลามียะห์ เป็นต้น ซึ่งขบวนการเหล่านี้มักสำแดงไปในทางของการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข่าวสารในเรื่องนี้ได้รับการประโคมโดยสื่อตะวันตก ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของศาสนาอิสลามถูกวาดให้เป็นศาสนา แห่งความรุนแรงและไร้เหตุผล ซึ่งถิอเป็นเรื่องน่าหวั่นวิตกอย่างยิ่ง

ข้าพเจ้าเห็นว่าสถานการณ์อันวิกฤตต่ออิสลามในเวลานี้ จำจะต้องอาศัยความ ร่วมมือจากหลายฝ่ายช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจ อย่างน้อยในชั้นต้นนี้ต่อมุสลิมเองจะต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องว่าศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ประทานให้มนุษยชาติเพื่อสร้างสันติภาพและความยุติธรรม ให้เกิดขึ้นในโลก เป็นศาสนาที่เพียบพร้อมด้วยเหตุผล ฉะนั้นพฤติกรรมใดๆก็ตามที่สื่อแสดงไปในทางความรุนแรง นั้นมุสลิมจะต้องช่วยกันหยุดยั้งและยับยั้ง

ในอีกทางหนึ่งจะต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่บุคคลทั่วไปให้เห็นถึงเจตนารมณ์และอุดมการณ์ที่แท้จริงของอิสลาม แก้ไขการบิดบือน ผิดพลาดคลาดเคลื่อนในหมู่ชนเหล่านี้ให้เข้าใจถูกต้องซึ่งในบรรดาหนังสือต่างๆที่พิมพ์เผยแพร่อยู่ในเวลานี้ หนังสือ “ ขบวนการวะฮาบีย์ นิยามและความหมาย” เล่มนี้ได้ทำหน้าที่ได้อย่างดียิ่งอย่างน้อยที่สุดผู้อ่านจะเข้าใจคำว่า “ วะฮาบีย์” ชัดเจนยิ่งขึ้น


สุดท้ายนี้ขอส่งความปรารถนาดีและขอให้กำลังใจนักวิชาการทุกท่านที่ทำงานอุทิศเวลา กำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา ทำงานรับใช้อิสลามทุกคน “

( นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์)
จุฬาราชมนตรี

( จากหนังสือ “ ขบวนการวะฮาบีย์ นิยามและความหมาย” )
ภาพหนังสือขบวนการวะฮาบีย์ฯ

“ หนังสือ “ ขบวนการวะฮาบีย์ นิยามและความหมาย” ซึ่ง เรียบเรียงโดย ซุฟอัม อุษมาน, อุษมาน อิดรีส โดยมีนักวิชาการด้านศาสนาอิสลามคือ ผศ.ดร. อิสมาแอล อาลี, ผศ.ดร. อับดุลเลาะห์ หนุ่มสุข และ ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา เป็นบรรณาธิการที่ปรึกษา นับเป็นงานที่มีความสำคัญร่วมสมัยและเป็นงานในรูปหนังสือเล่มแรกที่มีความหมายจะอธิบายถึงสิ่งที่เรียกว่าขบวนการวะฮาบีย์ ซึ่งในประวัติศาสตร์ระยะใกล้โดยเฉพาะ หลังเหตุการณ์ณ์ 9/11 ถูกนำเอามาเชื่อมโยงกับเรื่องของความสุดโต่ง รุนแรง และถูกอ้างว่าอยู่เบื้องหลังแนวความคิดดังกล่าว ความคิดนี้ถูกจุดประกายและขยายตัวออกไปทั่วโลกท่ามกลางความขัดแย้งทางวัฒนธรรม ศาสนา และการแย่งชิงทรัพย์ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง โลกมุสลิมต้องตกอยู่ภายใต้การตั้งรับ การเอารัดเอาเปรียบการล่าอาณานิคมยุคใหม่ การอ้างความชอบธรรม ในการรุกรานด้วยคำว่า ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและตลาดเสรี


หนังสือ “ ขบวนการวะฮาบีย์ นิยามและความหมาย” ถูกนำเสนอด้วยการจักลำดับขั้นตอน ตั้งแต่ที่มา คำสอน การบิดเบือน และกระแสวะฮาบีย์ในปัจจุบัน รวมทั้งการนำเอาคำสอนที่แท้จริงของอิสลามที่ต่อต้านการใช้ความรุนแรง การคร่าชีวิตมนุษย์มากล่าวถึงได้อย่างครอบคลุมเป็นวิทยาศาสตร์


หัวใจสำคัญของหนังสือเล่มนี้นอกจากจะอยู่ที่การเปิดเผยคำสอนที่แท้จริงของ มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบแล้ว ยังอยู่ที่การอธิบายถึงแนวทางของ มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบ กับมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการสร้างความเข้าใจให้แก่คนร่วมสังคมและต่อความคิดของผู้คนที่มีต่อสถานการณ์ความรุนแรงในที่ต่างๆของโลกรวมทั้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยว่ามิได้มาจากกระแสที่ถูกเรียกว่า วะฮาบีย์แต่อย่างใด


หนังสือ “ ขบวนการวะฮาบีย์ นิยามและความหมาย” จึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จำนำเอาความสันติสุขและการอยู่ร่วมกันโดยสันติมาสู่สังคมไทย หลังจากทุกภาคส่วนของสังคมโดยรวมอยู่ในหนทางแห่งความร่มเย็นเป็นสุข และมีเอกภาพท่ามกลางความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมต่อไปชั่วนิรันดร์สมัย “

ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่น

ดร.จรัญ มะลูลีม

ในนาม สนพ.อิสลามิคอะเคเดมี

( จากหนังสือ “ ขบวนการวะฮาบีย์ นิยามและความหมาย” )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น