อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ละหมาดกึ่งกลาง(ละหมาดวุสฎอ)




นักวิชาส่วนใหญ่ให้น้ำหนักว่าละหมาดกึ่งกลาง(ละหมาดวุสฎอ) คือละหมาดอัศริ...

พระองค์อัลลอฮ์ทรงตรัสไว้ว่า...

حٰفِظوا عَلَى الصَّلَوٰتِ وَالصَّلوٰةِ الوُسطىٰ وَقوموا لِلَّهِ قٰنِتينَ ﴿٢٣٨

"พวกเจ้าจงรักษาบรรดาละหมาดไว้ และละหมาดที่อยู่กึ่งกลาง และจงยืนละหมาดเพื่ออัลลอฮ์โดยนอบน้อม"
(อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ 2:238)

รายงานจากท่านอลี รอฎียัลลอฮุอันฮุ  เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวในวัน(สงคราม) อัลอะห์ซาบว่า...ความว่า "พวกเขาทำให้เรายุ่งยากจนไม่ได้ละหมาดวุสฎอ(ละหมาดกึ่งกลาง) คือละหมาดอัศริ ขอพระองค์ทรงทำให้บ้านเรือน และหลุมศพของพวกเขา เต็มไปด้วยไฟด้วยเถิด"
(หะดิษเศาะเฮียะฮ์...บันทึกหะดิษโดยมุสลิม หะดิษเลขที่ 996 และอะหฺมัด หะดิษเลขที่ 583)

>>>ดังนั้น ให้ทำละหมาดฟัรดู ห้าเวลาเป็นประจำ เฉพาะอย่างยิ่งละหมาดเวลาอัศริ ควรขะมักเขม้นให้มาก และบุคคลมักจะละเลยการเรียกละหมาดอัศรินี้ว่า ละหมาดกึ่งกลางก็เพราะ อยู่กึ่งกลางระหว่างละหมาดห้าเวลา และศาสนาสงเริ่มให้เอาใจใส่ต่อการละหมาดอัศรี เพราะหากปล่อยเวลาให้การละหมาดอัศริล่วงเลยไป(โดยเจตนา) ประหนึ่งว่าเขาหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีทรัพย์สินและบุคคลในครบอครัวของเขา

รายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของอุมัรฺ เล่าว่า แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า...ความว่า "ผู้ซึ่งทำให้การละหมาดอัศริล่วงเลยไป (โดยเจตนา) ประหนึ่งว่าเขาได้สูญเสียครอบครัว และทรัพย์สมบัติของเขาไปหมดแล้ว"
(หะดิษเศาะเฮียะฮ์...บันทึกหะดิษโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 519 , มุสลิม หะดิษเลขที่ 991,นะสาอีย์ หะดิาเลขที่ 474 , อบูดาวูด หะดิษเลขที่ 351 , อิบนุมาญะฮ์ หะดิษเลขที่ 677  อะหฺมัด หะดิษเลขที่ 4317 มาลิก หะดิษเลขที่ 18 และอัดดาริมีย์ หะดิษเลขที่ 1202)

รายงานจากท่านบุร็อยดะฮ์ เล่าว่า แท้จริงท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า...ความว่า "บุคคลที่ทิ้งละหมาดอัศริ แน่นอนยิ่งการงานของเขาก็ไร้ผล (หมายถึง เขาไม่ได้รับผลบุญ)"
(หะดิษเศาะเฮียะฮ์...บันทึกหะดิษโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 520 , ,นะสาอีย์ หะดิษเลขที่ 470 ,, อิบนุมาญะฮ์ หะดิษเลขที่ 686  และอะหฺมัด หะดิษเลขที่ 21879)
والله أعلم






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น