อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ผู้ที่ยึดครองที่ดินของคนอื่นด้วยอธรรม




รายงานจากท่านสะอีด อิบนุ ซัยดฺ อิบนุ อัมรฺ อิบนุ นุฟัยลฺ เล่าว่า..ความว่า

"ตัวเขาถูก(หญิงคนหนึ่งชื่อ)อัรวา กล่าวหาเกี่ยวกับที่ดินในบริเวณบ้านของเขา สะอีดจึงกล่าวว่า ให้เขาไปเถิด เพราะแันเคยได้ยินท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "บุคคลใดยึดครองที่ดินของคนอื่นโดยไม่ชอบธรรม แม้เพียงคืนเดียวเท่านั้น ในวันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺจะทรงคล้องคอเขาด้วยแผ่นดินเจ้ดชั้น" สะอีด จึงขอดุอาอ์ว่า "โอ้-อัลลอฮฺ หากหญิงคนนั้นเท็จ จงทำให้เธอตาบอด และจงให้บ้านของเธอเป็นสุสานสำหรับเธอเถิด" หลังจากนั้นไม่นานนัก ฉันเห้นเขาเดินเกาะเพดาน(หลังคาบ้าน) ในสภาพที่ตาบอด พลางกล่าวว่า "ฉันถูกสาปแช่งจากสะอีด อิบนุ ซัยดฺ" เธอเดินไปมาในบ้านมุ่งไปยังบ่อและตกลงในบ่อ บ่อดังกล่าวจึงเป็นสุสานสำหรับเธอ"
(บันทึกโดยมุสลิม หะดิษเลขที่ 1582)


เรามีสิทธิที่จะขอดุอาอ์สาปแช่งคนที่มาอธรรมหรือขอในสิ่งดีกว่าให้เรา
แท้จริงดุอาอ์ของคนที่ถูกอธรรม จะถูกตอบรับ
หรือหากเราจะหวังการตอบแทนในโลกหน้า ก็ย่อมได้เช่นกัน


วัลลอฮ์ฮุอะอ์ลัม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น