รายงานจากอิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เล่าจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า “ผู้ใดที่เลียนแบบกลุ่มชนใด เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา” (บันทึกโดย อบู ดาวูด 3512, อัล-อัลบานีย์ให้หุก่มว่า หะสัน เศาะฮีหฺ ดู เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 3401)
จากหะดิษ
หมายความว่า มุสลิมไปเลียนแบบวัฒนธรรม, ประเพณีของประชาชาติอื่นในเรื่องของความเชื่อ และเลียนแบบประชาชาติอื่นในเรื่องค่านิยมที่สวนทางกับหลักการของอิสลาม
ตัวอย่างเช่น
-วัฒนธรรมไทยเชื่อว่า ก่อนออกจากบ้านมีจิ้กจงมาร้องทัก เช่นนี้ไม่ต้องออกจากบ้าน เพราะจะมีลางไม่ดี นี้เป็นวัฒนธรรม หรือค่านิยมที่สวนทางกับหลักการของอิสลาม ไม่อนุญาตให้เลียนแบบตามความเชื่อของประชาชาตินั้น
-ผู้หญิงไทยนิยมการตัดผมสั้นเหมือนทรงผมของผู้ชาย เช่นนี้ก็ไม่อนุญาตให้มุสลิมะฮฺตัดผมสั้นเหมือนผู้ชายตามค่านิยมดังกล่าว เพราะถือว่าขัดกับหลักการของอิสลาม
-การจัดวันเกิด เป็นการกระทำของพวกยะฮูดี (ยิว) และนัศรอนี (คริสเตียน) เค้า ฉะนั้นมุสลิมจะไปนำแนวคิด หรือพฤติกรรมของพวกเขามาปฏิบัติไม่ได้
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า
« لَيْسَ مِنَّا مَنْ تَشَبَّهَ بِغَيْرِنَا لاَ تَشَبَّهُوا بِالْيَهُودِ وَلاَ بِالنَّصَارَى
"ไม่ใช่พวกของเราบุคคลที่เลียนแบบอื่นจากพวกเรา ฉะนั้นพวกท่านจงอย่าเลียนแบบพวกยะฮูดี และนัศรอนีย์" (บันทึกโดยติรฺมิซีย์)
--------->>>แต่ในกรณีไม่เกี่ยวกับความเชื่อที่ และเลียนแบบประชาชาติอื่นในเรื่องค่านิยมที่สวนทางกับหลักการของอิสลาม ก็ไม่ต้องห้าม
ตัวอย่างเช่น
-คนไทยนิยมรับประทานด้วยช้อนส้อม เพราะรับประทานได้หมดจาน เช่นนี้มุสลิมสามารถรับประทานอาหารด้วยช้อนส้อมได้เช่นกัน เพราะไม่ขัดกับหลักการของศาสนาแต่อย่างใดทั้งสิ้น
-ผู้ชายมาเลเซียชอบใส่เสื้อประจำชาติของมาเลเซีย มุสลิมชายในมาเลเซียก็สวมใส่ชุดดังกล่าวได้เช่นกัน เพราะเสื้อผ้าดังกล่าวปกปิดเอาเราะฮฺ และไม่มีลวดลายที่ขัดกับหลักการของอิสลาม
-การสวมหมวกแก๊ป ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวยุโรป เพื่อป้องกันแสงแดด ก็อนุญาตให้มุสลิมสวมใส่ด้วยเช่นกัน เพราะเพื่อป้องกันแสงแดดนั่นเอง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ไม่พื้นฐานจากความเชื่อ หรือไม่ใช่วัฒนธรรมที่ขัดกับหลักการของศาสนา เช่นนี้จึงไม่ถือว่าอยู่ในเงื่อนไขของการเลียนแบบประชาชาติอื่น.......<<<
والله أعلم
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น