อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ไม่ถือว่าเป็นการละหมาดที่สมบูรณ์หากไม่มีการอ่านฟาติหะฮฺ เว้นแต่จะยืนหลังอิมามและอ่านเสียงดัง



รายงานจากท่านอบูซุบัยร์ จากท่านญาบิรฺเล่าว่า "ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า "บุคคลใดที่มีอิมาม(นำละหมาด)เช่นนั้น การอ่านของอิมาม คือการอ่านของมะมูมด้วย"
(หะดิษหะสัน บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ หะดิษเลขที่ 840)

ท่านอุบาดะฮฺ บุตรของศอมิต เล่าว่า แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า "ไม่ถือว่าเป็นการละหมาด(ที่สมบูรณ์) สำหรับบุคคลที่ไม่อ่านฟาติหะฮ์
(บันทึกโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 717 , มุสลิม หะดิษเลขที่ 595)

รายงานจากท่านญาบิรฺ บุตรของอับดุลลอฮฺ กล่าวว่า "บุคคลใดที่ละหมาดหนึ่งร็อกอะฮ์โโยไม่อ่านฟาติหะฮ์ในร็อกอะฮฺนั้น เช่นนั้นถือว่าเขายังไม่ได้ละหมาด เว้นแต่เขาจะยืน(เป็นมะมูม)หลังอิมาม"
(บันทึกโดยมาลิก หะดิษเลขที่ 173)

>>>จากหะดิษบุคคลใดยืนละหมาดเพียงคนเดียว หรือยืนละหมาดหลังอิมามในเวลาที่อ่านเสียงค่อย (เช่นละหมาดอัศริ หรือในร็อกที่สาม ที่สี่) หรือบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นอิมาม บุคคลดังกล่าวถือว่าเป็นวาญิบ(จำเป็น) จะต้องอ่านฟาติหะฮฺ

สำหรับบุคคลยืนละหมาดหลังอิมามในเวลาที่อ่านเสียงดัง เมื่ออิมามอ่านฟาติหะฮฺมาถึงประโยคที่ว่า "ฆ็อยริลมัฆฎูบิ อะลัยฮิม วะลัฎฏ็อลลีน" ท่านรสูลสั่งใช้ให้มะมูมกล่าวอามีน โดยมะมูมไม่ต้องอ่านฟาติหะฮฺอีก และจงนิ่งฟังอิมามการอ่านอัลกุรอานของอิมาม
พระองค์อัลลอฮ์กล่าวว่า
“และเมื่ออัล-กุรอานถูกอ่านขึ้น ก็จงสดับฟังอัล-กุรอานนั้นเถิด และจงนิ่งเงียบ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับการเอ็นดูเมตตา”
(อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัล-อะอฺรอฟ 7:204)
والسلام

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น