ท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า...ความว่า "วิญญาณของผู้ศรัทธาจะถูกแขวนด้วยหนี้สินของเขา จนกว่าหนี้สินนั้นจะถูกชำระเสียก่อน"
(หะดิษเศาะเฮียะฮ์...บันทึกโดยติรมีซีย์ หะดิษที่ 77)
....ภายหลังที่บุคคลหนึ่งเสียชีวิต ทายาทของผู้ตายจะต้องสำรวจว่าผู้ตายมีหนี้สินกับบุคคลใดไว้หรือไม่? หากมีวาญิบจะต้องรีบชดใช้หนี้สินนั้นทันที หรือสัญญาไว้ก่อนว่า หลังจัดพิธีเสร็จแล้ว จะรีบนำหนี้สินมาชดใช้ให้ทันที โดยต้องนำทรัพย์สินของผู้ตายมาชดใช้หนี้สินให้แก่เจ้าหนี้ หรือหากผู้ตายไม่มีทรัพย์สินชดใช้ ก็ให้ลูกหลาน ญาติพี่น้อง หรือบุคคลอื่นชดใช้หนี้สินแทนผู้ตายก็ย่อมทำได้ เพราะมิเช่นนั้นแล้ว วิญญาณของเขาจะถูกแขวนด้วยหนี้สินของเขา จนกว่าหนี้สินนั้นจะถูกชำระเสียก่อน ตามหลักฐานหะดิษข้างต้น นั้นหมายความว่า เรื่องของเขาจะถูกพักไว้ เขายังไม่ถูกตัดสินว่าปลอดภัย และไม่ตัดสินว่าหายนะ ทั้งๆที่ผู้ตายมีทรัพย์สินที่จะใช้หน้สินได้ แต่ไม่ยอมชำระ
สำหรับผู้ตายที่ตั้งใจจะชำระหนี้ แต่เขาไม่มีทรัพย์สินที่จะชดใช้หนี้สิน เช่นนี้มีหลักฐานว่าพระองค์อัลลอฮ์ทรงชดใช้หนี้แทนให้แก่เขา
ท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า...ความว่า "บุคคลใดที่ยืมทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งเขามีเจตนาจะชดใช้(หนี้สิน)นั้น (หากเขาไม่มีความสามารถใช้คืน) พระองค์อัลลอฮ์จักทรงชดใช้คืนแทนให้"
(หะดิษเศาะเฮียะฮ์...บันทึกโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 2387)
ส่วนผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้และปรารถจะชดใช้หนี้ให้แก่เจ้าหนี้ แต่ทายาทของผู้ตายไม่ยอมนำทรัพย์สินของผู้ตายไปชดใช้หนี้สินแทนให้เช่นนี้ ความผิดก็อยู่กับทายาทของผ็ตายเท่านั้น
ท่านรสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า...ความว่า "และบุคคลใดที่นำทรัพย์สินของผู้อื่นไปโดยเจตนาให้เสียหาย(หรือทำสิ่งที่ไม่ตรงกับเป้าประสงค์)เช่นนี้พระองค์อัลลอฮ์จะทรงทำให้เขาหายนะด้วยเช่นกัน"
(หะดิษเศาะเฮียะฮ์...บันทึกโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 2387)
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น