แอปเปิ้ลที่ฮะลาลกับบุหรี่ที่ฮะรอม
นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นใน ประเทศซาอุดิอารเบีย
ชายผู้เคร่งครัดคนหนึ่งได้เล่าว่า
เขาได้เข้าไปยังมัสยิด ซึ่งตั้งอยู่ตำบล อุลยา เมืองริยาด
ประเทศ ซาอุฯ โดยเขาเปนตัวแทนของรร.
และในขณะที่เขาละหมาด ตะฮียะตุ้ลมัสยิด
เขาได้กลิ่นบุหรี่ ซึ่งทำให้เขาไม่มีคุชัวะ ในการละหมาด
เมื่อ ให้สลามเสร็จ เขาจึงหันไปพบว่าคนนั้นคือ
ชายชาวอิยิปต์ ที่ริมฝีปากดำไปด้วยคราบบุหรี่
เขาจึงตั้งใจว่า จะรอให้ละหมาดฟัรฎู
เสร็จก่อนแล้วจะไปตักเตือนชายผู้นั้น แต่แล้ว.....
ทันใดนั้นเอง..
มีเด็กชาย>> ผู้กล้าหาญคนหนึ่งที่อายุยังไม่ถึง 9 ขวบ
ได้เข้ามาในมัสยิดแล้วนั่งลงข้างๆชายที่สูบบุหรี่ผู้นั้น
แล้วการสนทนาก็ได้เริ่มขึ้น...
เด็กชาย >> อัสลามุอะลัยกุมครับ
คุณลุงเป็นชาวอิยิปย์ใช่ไหมครับ ?
ชายผู้นั้น>> อืม ก้อใช่ ฉันเปน ชาวอิยิปต์
เด็กชาย>> คุณลุงรู้จัก เชค อับดุลฮามิด กัชก. มั้ย ครับ ?
ชายผู้นั้น>> อือ รู้จักสิ
เด็กชาย : แล้ว เชคญาดุ้ลฮัก อธิการบดี อัล อัซฮัร ไหมครับ ?
ชายผู้นั้น: รู้จักสิ เด็กชาย : มีอีกครับ.. แล้วเชค มุฮัมหมัด อัลฆ่อซาลีย์ ที่แต่งหนังสือล่ะครับ ?
ชายผู้นั้น: รู้สิ...
เด็กชาย : แล้วลุงเคย ฟังเทปที่พวกเขาฟัตวากันไหมครับ ? ชายผู้นั้น : อืม ก้อเคย
เด็กชาย : แล้วลุงไม่เคยฟังที่พวกเขาฟัตวากันหรอครับว่า
บุหรี่ น่ะ มันฮารอม แล้วทำไมยังสูบอยู่ล่ะครับ ! ?
ชายผู้นั้น : ก็ไม่เห็น จะมีหลักฐานอะไรมาห้ามนี่
ว่าห้ามสูบบุหรี่น่ะ !
เด็กชาย : หามิได้ครับ ลุงไม่เคยได้ยินอายะฮนี้หรอครับว่า
" สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายนั้นเป็นที่ต้องห้ามแก่พวกเจ้า"
แล้วเมื่อลุงสูบบุหรี่ลุงกล่าวบิสมิลลาฮ ป่ะครับ
แล้วเมื่อลุง สูบเสร็จ ล่ะ ลุง กล่าว อัลฮัมดุลิลลาฮ ไหมล่ะครับ ! ชายผู้นั้น : ....... แต่ฉันก็ไม่เห็นจะมีอายะฮ บอกตรงๆว่า "ห้ามสูบบุหรี่ " นี่ เจ้าเด็กน้อย ไหนลองยกมาซิ ....
(555 กะว่าจะเถียงชนะ )
เด็กชาย : โอ้ท่านลุง เอ๋ย บุหรี่ น่ะมันฮารอม ก็เหมือนกับ
แอปเปิ้ลที่มันก็ฮารอมเหมือนๆ กันน่ะแหล่ะ !!!!!
ชายผู้นั้นเริ่มแสดงสีหน้าโมโห >>: ชิชะ เจ้าเด็กน้อย
แอปเปิ้ลน่ะมันฮารอมซะที่ไหน มันเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์นะ
เจ้าจะมาบอกว่า มันฮารอมตามใจเจ้า ได้ยังไง !!!!!!!!
เด็กชาย: งั้นท่านก็ลอง ยกอายะฮมาสิ ที่บอกตรงๆว่า
"แอปเปิ้ลน่ะเป็นสิ่งฮาล้าล" !!!!
ชายผู้นั้นนิ่งเงียบไปทันใด
เขาไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้อีก
ทันใดนั้น น้ำตราได้เอ่อล้นออกมา เขาได้ละหมาดในสภาพที่ร้องไห้อย่างนั้น และหลังจากชายผู้นั้น ละหมาดเสร็จเขาได้หันกลับมาหาเด็กน้อย แล้วกล่าวว่า
เจ้าเป็นพยานให้ข้าด้วยเถอะว่าข้าขอสาบานต่ออัลลอฮผู้ทรงเกรียงไกรว่าข้า อีกต่อไป.....
จงพิจารณาดูเถิดพี่น้องที่รักยิ่ง
ในเรื่องราวที่น่าประหลาดใจนี้ว่า
เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งที่มีปัญญาหลักแหลมและ
ความเข้มแข็งในการหาหลักฐานและเหตุผล
ในยุคสมัยเช่นนี้ที่มีแต่ความไร้สาระ ความงมงาย
มาชาอัลลอฮ....
หนุ่ม สาวผู้เป็นความหวัง ... ผู้เป็นแสงสว่างแห่งอิสลาม อิสลามกำลังรอการฟื้นฟู มาเถอะ...
มุ่งสู่ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือชัยชนะทั้งดุนยา และ อาคิเราะฮ
อ้างอิงจาก ฟอรเวิดเมล์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น