อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

การทำบุญบ้านคนตายในมุมมองปราชญ์มัซฮับทั้งสี่


เห็นมีละแบหลายท่านออกมาปกป้องประเพณีกินบุญบ้านผู้ตายกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเป็นของรักของหวงไม่อยากให้เสียของรักของชอบไป ที่ใครมาต่อต้าน ก็จะโดนข้อหาฉกรรจ์ คือ ไอ้พวกวะฮบีย์ พวกไม่รักพ่อแม่พี่น้อง” จึงขอนำเสนอข้อเท็จจริงทางวิชาการให้ผู้อ่านศึกษากัน ส่วนใครจะยอมรับหรือไม่ มันไม่ใช่หน้าที่ของผู้เขียน เพราะการฮิดายะฮให้มนุษย์มีความศรัทธาในทางที่ถูกต้องนั้น เป็นหน้าที่และสิทธิของอัลลอฮแต่เพียงผู้เดียวดังที่พระองค์ตรัสว่า

إِنَّكَ لَا تَهْدِي مَنْ أَحْبَبْتَ وَلَكِنَّ اللَّهَ يَهْدِي مَن يَشَاءُ وَهُوَ أَعْلَمُ بِالْمُهْتَدِينَ

[28.56] แท้จริง เจ้าไม่สามารถที่จะชี้แนะทางที่ถูกต้องแก่ผู้ที่เจ้ารักได้แต่อัลลอฮ์ทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง

มุมมองปราชญ์มัซฮับทั้งสี่ในกรณีครอบครัวผู้ตายเลี้ยงอาหาร

1.มัซฮับหะนะฟีย์

อิบนุอาบิดีน (ปราชญ์มัซฮับหะนะฟียฺ) กล่าวว่า

وَيُكْرَهُ اتِّخَاذُ الضِّيَافَةِ مِنْ الطَّعَامِ مِنْ أَهْلِ الْمَيِّتِ، لِأَنَّهُ شُرِعَ فِي السُّرُورِ لَا فِي الشُّرُورِ، وَهِيَ بِدْعَةٌ مُسْتَقْبَحَةٌ! وَرَوَى الْإِمَامُ أَحْمَدُ وَابْنُ مَاجَهْ بِإِسْنَادٍ صَحِيحٍ عَنْ جَرِيرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ قَالَ " كُنَّا نَعُدُّ الِاجْتِمَاعَ إلَى أَهْلِ الْمَيِّتِ وَصُنْعَهُمْ الطَّعَامَ مِنْ النِّيَاحَةِ"
และการเลี้ยงอาหารแขก จากฝ่ายครอบครัวผู้ตายนั้น เป็นมักรูฮ(น่ารังเกียจ) เพราะแท้จริงมัน(การเลี้ยงอาหารแก่แขก)นั้น ถูกบัญญัติในโอกาสมีความยินดี ไม่ใช่ในยามทุกข์ และมันคือ บิดอะฮที่น่าเกลียด และอิหม่ามอะหมัด,อิบนุมาญะฮได้รายงานด้วยสายรายงานที่เศาะเฮียะจากอิบนุญะรีร บินอับดุลลอฮ ว่าเขากล่าวว่า ““พวกเรานับว่า การไปชุมนุมกัน ที่ครอบครัวผู้ตาย และทำอาหารเลี้ยงกันหลังจากมัน (หลังจากการตาย)นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากอัลนิยาหะฮ(หมายถึง การร้องให้คร่ำครวญถึงผู้ตายที่ต้องห้าม ) - ดู รอดดุลมุหตาร อาลัดดุรริลมุคตาร เล่ม 6 หน้า 666

2. มัซฮับมาลิกีย์

มุหัมหมัด บิน มุหัมหมัด บิน อับดุรเราะหมาน อัลหะฏอ็บ กล่าวว่า

وَيَجُوزُ حَمْلُ الطَّعَامِ لِأَهْلِ الْمَيِّتِ فِي يَوْمِهِمْ وَلَيْلَتِهِمْ وَاسْتَحَبَّهُ الشَّافِعِيُّ وَالْأَصْلُ فِيهِ مَا رَوَاهُ عَبْدُ اللَّهِ بْنُ جَعْفَرٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ «اصْنَعُوا لِآلِ جَعْفَرٍ طَعَامًا فَإِنَّهُمْ فَاجَأَهُمْ أَمْرٌ شَغَلَهُمْ» خَرَّجَهُ أَبُو دَاوُد، لِأَنَّ ذَلِكَ زِيَادَةٌ فِي الْبِرِّ وَالتَّوَدُّدِ لِلْأَهْلِ وَالْجِيرَانِ. ِ .
..
และการพาอาหารไปให้แก่ครอบครัวผู้ตาย ในตอนกลางวันและกลางคือนของพวกเขานั้น เป็นที่อนุญาต และอัชชาฟิอี ได้ชอบ(ส่งเสริม)ให้ปฏิบัติมัน และ ที่มา(หลักฐาน)ในมัน(ในการส่งเสริมให้นำอาหารเลี้ยงครอบครัวผู้ตาย)คือ สิ่งที่อับดุลลอฮ บิน ญะอฟัรได้รายงานมัน ว่า แท้จริง นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “พวกท่านจงทำอาหารไปให้แก่ครอบครัวยะอฟัร เพราะแท้จริงพวกเขา นั้น เรื่องที่ทำให้พวกเขาสาละวน(หมายถึง การตาย) ได้มาประสบกับพวกเขา –บันทึกโดย อบูดาวูด เพราะดังกล่าวนั้น (หมายถึงการนำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวผู้ตาย) เป็นการเพิ่มในความดีงามและ ความรักใคร่แก่ครอบครัวผู้ตายและเพื่อนบ้านใกล้เคียง

أَمَّا إصْلَاحُ أَهْلِ الْمَيِّتِ طَعَامًا وَجَمْعُ النَّاسِ عَلَيْهِ فَقَدْ كَرِهَهُ جَمَاعَةٌ وَعَدُّوهُ مِنْ الْبِدَعِ ; لِأَنَّهُ لَمْ يُنْقَلْ فِيهِ شَيْءٌ وَلَيْسَ ذَلِكَ مَوْضِعَ الْوَلَائِمِ

สำหรับ การที่ครอบครัวผู้ตาย เตรียมอาหาร และ การชุมนุมของบรรดาผู้คน บนมัน นักวิชาการคณะหนึ่ง ได้ถือว่ามันเป็นมักรูฮ และ นับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งจากบิดอะฮ เพราะ ไม่มีสิ่งใด(หมายถึงไม่มีหลักฐานใดๆ) ถูกรายงานในมัน และดังกล่าวนั้น ไม่ใช่สถานที่จัดเลี้ยงอาหาร - ดู มะวาฮิบุลญะลีล 2/229

3.มัซฮับหัมบะลีย์

อัลบะฮูตีย์ (ปราชญ์มัซฮับฮัมบะลี)กล่าวว่า

وَيَنْوِي فِعْلَ ذَلِكَ لِأَهْلِ الْمَيِّتِ ( لَا لِمَنْ يَجْتَمِعُ عِنْدَهُمْ ، فَيُكْرَهُ ) لِأَنَّهُ مَعُونَةٌ عَلَى مَكْرُوهٍ ، وَهُوَ اجْتِمَاعُ النَّاسِ عِنْدَ أَهْلِ الْمَيِّتِ نَقَلَ الْمَرُّوذِيُّ عَنْ أَحْمَدَ هُوَ مِنْ أَفْعَالِ الْجَاهِلِيَّةِ ، وَأَنْكَرَ شَدِيدًا ، وَلِأَحْمَدَ وَغَيْرِهِ عَنْ جَرِيرٍ وَإِسْنَادُهُ ثِقَاتٌ قَالَ : " كُنَّا نَعُدُّ الِاجْتِمَاعَ إلَى أَهْلِ الْمَيِّتِ وَصَنْعَةَ الطَّعَامِ بَعْدَ دَفْنِهِ مِنْ النِّيَاحَةِ " .
และให้เขาเนียตการกระทำดังกล่าว(การเลี้ยงอาหาร) ให้แก่ครอบครอบครัวผู้ตาย (ไม่ใช่ให้แก่ผู้ที่มาชุมนุม ณ ที่พวกเขา (หมายถึงที่ครอบครัวผู้ตาย)เพราะเป็นมักรูฮ(เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ) เพราะแท้จริง มันเป็นการข่วยเหลือ บนสิ่งที่เป็นมักรูฮ คือ การชุมนุมของบรรดาผู้คน ที่ครอบครัวผู้ตาย ,อัลมัรวะซีย์ ได้รายงานจากอะหมัดว่า (เขากล่าวว่า) มันคือ ส่วนหนึ่งจากการกระทำของพวกญาฮิลียะฮ และเขาได้คัดค้านอย่างรุนแรง และรายงานของอะหมัดและคนอื่นจากเขา จากญะรีร ด้วยสายรายงานที่เชื่อถือได้ กล่าวว่า (พวกเรานับว่า การไปชุมนุมกัน ที่ครอบครัวผู้ตาย และทำอาหารเลี้ยงกันหลังจากมัน (หลังจากการตาย)นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากอัลนิยาหะฮ(หมายถึง การร้องให้คร่ำครวญถึงผู้ตายที่ต้องห้าม) – - ดู กัชชาฟุลกินาอฺ ของอัลบะฮูตีย์ เล่ม 2 กิตาบุลญะนาอิซ

4. มัซฮับชาฟีอีย

อิบนุหะญัร อัลฮัยตะมีย(ปราชมัซฮับชาฟิอี) กล่าวว่า

وَمَا اُعْتِيدَ مِنْ جَعْلِ أَهْلِ الْمَيِّتِ طَعَامًا لِيَدْعُوا النَّاسَ عَلَيْهِ بِدْعَةٌ مَكْرُوهَةٌ كَإِجَابَتِهِمْ لِذَلِكَ، لِمَا صَحَّ عَنْ جَرِيرٍ كُنَّا نَعُدُّ الِاجْتِمَاعَ إلَى أَهْلِ الْمَيِّتِ وَصُنْعَهُمْ الطَّعَامَ بَعْدَ دَفْنِهِ مِنْ النِّيَاحَةِ

สำหรับ สิ่งที่เป็นประเพณี จากการที่ครอบครัวผู้ตายทำอาหาร และเชิญบรรดาผู้คน บนมันนั้น เป็นบิดอะฮที่น่ารังเกียจ เช่นเดียวกัน การตอบรับคำเชิญพวกเขา สำหรับดังกล่าว เพราะ มีสิ่งที่เศาะเฮียะ รายงานจาก ญะรีร “ว่า (พวกเรานับว่า การไปชุมนุมกัน ที่ครอบครัวผู้ตาย และทำอาหารเลี้ยงกันหลังจากมัน (หลังจากการตาย)นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากอัลนิยาหะฮ(หมายถึง การร้องให้คร่ำครวญถึงผู้ตายที่ต้องห้าม) – ดู ตุคฟะตุลมุหตาจญ ฟี ชัรห มินฮาจญ เล่ม 3 หน้า 208


ชัยค์ซะกะรียาอันอันศอรีย (ร.ฮ)ปราชญ์มัซฮับชาฟิอีกล่าวว่า

وَأَمَّا تَهْيِئَةُ أَهْلِهِ طَعَامًا لِلنَّاسِ فَبِدْعَةٌ مَذْمُومَةٌ ذَكَرَهُ فِي الرَّوْضَةِ

และสำหรับการที่ครอบครัวผู้ตายเตรียมอาหารสำหรับผู้คน นั้น คือบิดอะฮที่ถูกตำหนิ ซึ่งเขาได้ระบุมันใน(หนังสือ)อัรเราเฎาะฮ – ดูอัลเฆาะรอ็ร อัลบะฮียะฮ ฟี ชัรห อัลบะฮญะติลอัลวัรดียะฮ 2/125


>>>>>>>

จากทัศนะของปราชญ์สี่มัซฮับข้างต้น เป็นที่ชัดเจนว่า การทำบุญเลี้ยงอาหารบ้านผู้ตายและเชิญผู้คนมาชุมนุมรับประทานกัน เป็นมักรูฮ และเป็นบิดอะฮ ไม่มีแบบอย่างจากนบี ศอลฯ ไม่มีหนทางใดที่จะหาข้ออ้างให้มันเป็นสุนนะฮได้ นอกจากผู้ที่ส่งเสริมการทำบิดอะฮเท่านั้น

والله أعلم بالصواب




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น