อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

เสวนาเรื่องอิบาดะฮฺมีบิดอะฮฮาซานะฮฺจริงหรือ (ตอนที่ 8)




มาแล้วครับ

ขอเรียนผู้อ่านว่า ผมจะตอบข้ออ้างของคู่สนทนา ที่มีการอ้างหลักฐานเท่านั้น จะไม่นำมาชี้แจงสิ่งที่เป็นตรรกของคู่สนทนา ซึ่งเริ่มขาดเสบียงแล้ว แล้วใช้วิธีออกข้อสอบ ถามคูสนทนา มันไม่มีประโยชน ต่อไปนี้ผมจะชี้แจง ห้ามคูสนทนาโพสต์และขอเตือนถ้าไม่มีหลักฐานอ้างอย่าแถให้รกกระทู้เพราะจะกลบเกลือนหลักฐานคู่สนทนา
#################
#ชี้แจง สงสัยบังฮาสันคงมีอะไรติดในคอ ถึงไม่กล้าตอบคำถาม เพราะตัวเองเท่วโกหกเรื่องศาสนามานานนับสิบปี มาวันนี้พอเจอคำถามที่พันหลักตัวเองเลยตอบไม่ได้. เมื่อการถามด้วยตรรกะไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข ผมขอถามดังเดิม.

1.บังฮาสันไปเอามาจากไหนว่า การกระทำของท่านอุมัร คือสุนนะห์คอลีฟะห์ในด้านอิสตีลาฮ 

2.บังฮาสันชอบพูดว่า บิดอะห์ทางภาษาคือบิดอะห์ดุนยา ฉะนั้นเมื่อบังฮาสันอ้างมาเองว่า การรวบรวมละหมาดตารอแวฮของท่านอุมัรคือบิดอะห์ดุนยา. อยากทราบว่า ตรงส่วนไหนของการละหมาดตารอแวฮคือเรื่องดุนยาครับ...
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม ขออนุญาติทำกับข้าวให้เจ้านายศรีภรรยาผมก่อนครับ😝😝😝😝😝😝😝😝
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม #อ้างอิงจาก Asan Binabdullah 
การกระทำของบุคคลที่ท่านนบี ศอ็ลฯ สั่งเสียให้ปฏิบัติตามสุนนะฮของเขา จะเรียกว่าบิดอะฮได้อย่างไร และในหะดิษ ท่านนบีไม่ได้ใช้คำว่า ให้ยึดบิดอะฮของเคาะลิฟะฮ เพราะฉะนั้นการนำคำพูดอิบนุอัลอะษีรเพื่อมารับรองการอุตริบิดอะฮในศาสนาถื
อเป็นการบิดเบือนคำอธิบายของอิบนุอัลอะษีร และบิดเบือนหะดิษท่านนบีอีกด้วย
###########

#ชี้แจง. บังฮาสันผมทรรศนะท่านอิบนุอาซีร บังฮาสันต่างหากที่บิดเบือน เรามาดูกันใหม่

ท่านอิบนุ อัล-อะษีร กล่าวว่า "บิดอะฮ์ มี 2 ประเภท คือบิดอะฮ์ที่อยู่ในทางนำ และบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง เพราะฉะนั้น สิ่งใดก็ตามที่ขัดแย้งกับสิ่งที่อัลเลาะฮ์และร่อซูล(ซ.ล.) ทรงใช้นั้น ย่อมอยู่ในกรอบของการถูกตำหนิและปฏิเสธ และสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การครอบคลุมสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงใช้และส่งเสริม หรือสิ่งที่ร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) เรียกร้องและส่งเสริม ก็ย่อมอยู่ในกรอบแห่งการสรรเสริญ" จากนั้น ท่านอิบนุ อัล-อะษีร ทำการยกตัวอย่างบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ด้วยคำกล่าวของท่านอุมัร เกี่ยวกับละหมาดตะรอวิหฺ ว่า

نعمت البدعة هذه

"เป็นบิดอะฮ์ที่ดี คือ(ตะรอวิหฺ) อันนี้"

จากนั้น ท่านอิบนุ อัล-อะษีร กล่าวว่า " บิดอะฮ์(จากคำกล่าวของท่านอุมัรนี้) แก่นแท้แล้ว คือซุนนะฮ์ เพราะท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า

فعليكم بسنتى وسنة الخلفاء الراشدين

"พวกท่านจงยึดซุนนะฮ์ของฉัน และแนวทางของบรรดาคอลิฟะฮฺผู้ทรงธรรม"

และท่านร่อซุล กล่าวอีกว่า

إقتدوا بالذين من بعدى أبى بكر وعمر

" และพวกท่านจงดำเนินตาม บุคคลทั้งสองหลังจากที่ฉัน(ได้เสียชีวิตไปแล้ว) เขาทั้งสองคือ อบูบักรและอุมัร"

และหากเราได้ดำเนินตามความหมายตามนี้ ก็สามารถตีความ อีกหะดิษหนึ่งที่ว่า

(كل محدثة بدعة)

"ทุกสิ่งที่ทำขึ้นใหม่นั้นเป็นบิดอะฮ์"

คือ แท้จริง ท่านร่อซูล(ซ.ล.)หมายถึง ทุก ๆ สิ่งที่ขัดกับหลักพื้นฐาน(อุซูล)ต่าง ๆ ของชะริอะฮ์และไม่สอดคล้องกับซุนนะฮ์ " (ดู หนังสือ อันนิฮายะฮ์ ฟี ฆ่อรีบ อัลหะดีษ เล่ม 1 หน้า 106 - 107)
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม จากฮาดิษที่ว่า #ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่คือบิดอะห์. ท่านอิบนุอาซีรอธิบายว่าๆ หมายถึงทุกๆสิ่งที่ขัดหลักซารีอัตเท่านั้น ส่วนสิ่งใหม่ที่ไม่ขัดหลักซารีอัต มันก้อคือบิดอะห์ฮาสานะห์หรือสุนนะห์นั่นเอง. #ฉะนั้น บังฮาสันอย่ามาอวดดี สรุปทรรศนะอุลามะด้วยนัฟซูตัวเองสิครับ. มันฮารอม
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม #อ้างอิงจาก Asan Binabdullah
เพราะฉะนั้น การเอาการกระทำของเคาะลิฟะฮรอชิดีน มาเป็นข้ออ้างเพื่ออุตริบิดอะฮในศาสนา คือการบิดเบือนหลักฐานทางศาสนา
#############

#ชี้แจง. ตกลงบังฮาสันเมาอะไรมาครับ ถึงแยกแยะอะไรไม่ออก ผมบอกเมื่อไหร่ครับว่า การละหมาดตารอแวฮสมัยท่านอุมัรไม่ใช่อิจมะ ไม่มีใครที่อุมมัตอิสลามจะปฏิเสธอิจมะหรอกครับ แต่ประเด็นคือ ท่านอุมัรเป็นคนบอกเองว่า การรวมตารอแวฮเป็นญามาอะห์ คือ #บิดอะห์ฮาสานะห์ คุณจะให้เราปฏิเสธคำพูดที่เป็นชาวสวรรค์ที่ท่านนบีรับรองหรือครับ. 

ในขณะบังฮาสันเองนั่นแหละที่ไม่ยอมรับอิจมะ เพราะคุณกล่าวมาตลอดว่า บิดอะห์มีประเภทเดียว คือหลงผิดต้องตกนรก ในขณะที่อิจมะอุลามะนั้นแบ่งบิดอะห์ออกเป็นสองประเภท... คือบิดอะห์ที่ดีและบิดอะห์ที่เลว
----------------
ท่านอบู ชามะฮ์ กล่าวว่า " สิ่งที่กระทำขึ้นมาใหม่นั้น ถูกแบ่งออกเป็น บิดอะฮ์หะสะนะฮ์(บิดอะฮ์ที่ดี) และบิดอะฮ์ที่น่ารังเกียจ (แล้วท่าน อบู ชามะฮ์ ก็อ้างอิงคำพูดของอิมามชาฟิอีย์ ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น) จากนั้น ท่านอบู ชามะฮ์กล่าวว่า " ฉันขอกล่าวว่า แท้จริง มันก็เป็นอย่างเช่นดังกล่าว เพราะท่านนบี(ซ.ล.) ส่งเสริมให้มีการละหมาดสุนัตในเดือนร่อมะฏอน โดยที่ท่านนบี(ซ.ล.) ได้กระทำที่มัสยิด โดยที่ซอฮาบะฮ์บางส่วนได้ทำการละหมาดตามท่านนบีเพียงไม่กี่คืน หลังจากนั้น ท่านนบี(ซ.ล.) ได้ทิ้งการละหมาดดังกล่าวในรูปแบบญะมาอะฮ์ โดยท่านนบี(ซ.ล.)ให้เหตุผลในเรื่องดังกล่าวว่า เกรงจะถูกฟัรดูแก่พวกเขา ดังนั้น เมื่อท่านนบี(ซ.ล.)ได้เสียชีวิต แล้วการปฏิบัติดังกล่าวก็ยุติลง ช่วงหลังจากนั้น บรรดาซอฮาบะฮ์จึงลงมติให้ทำการละหมาด(ตะรอวิหฺ)ในเดือนรอมาฏอนที่มัสยิดแบบญะมาอะฮ์ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเอกลักษณ์ที่อัลเลาะฮ์ทรงใช้ และได้ส่งเสริมให้กระทำมัน วัลลอฮุอะลัม

จากที่ได้กล่าวมานี้จึงสามารถสรุปได้ว่า บรรดาบิดอะฮ์หะสะนะฮ์นั้น บรรดาปวงปราชญ์แห่งโลกอิสลามได้ลงมติเห็นพร้องว่า อนุญาติให้กระทำได้ และยังมีหวังได้ผลบุญ สำหรับผู้ที่มีเจตนาที่ดี โดยที่บิดอะฮ์นั้น จะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่และสอดคล้องกับกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ของหลักศาสนา (ชะรีอะฮ์) และจะต้องไม่มีข้อห้ามตามหลักศาสนาหากได้กระทำมัน (ดู อัลบาอิษ อะลา อินการิลบิดะอ์ วัลหะวาดิษ ของท่าน อบี ชามะฮ์ หน้า 93)
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม อย่าเพิ่งเมนท์ผมยังชี้แจงไม่เสร็จ
Asan Binabdullah เมื่อไหร่จะจบครับ โพสต์แช่ แล้วไปไม่บอกกล่าว แย่มาก
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม #อ้างอิงจาก Asan Binabdullah

ขอชี้แจงโดยคำตอบโต้ดังนี้ คือ บิดอะฮในศาสนา เป็นการหลงผิดไม่มีข้อยกเว้น

ดังที่ท่านอิบนุอุมัร (ร.ฎ) บุตรชายของเคาะลิฟะฮอุมัรกล่าวว่า
كل بدعة ضلالة وإن رآها الناس حسنة
ทุกบิดอะฮคือการหลงผิด และแม้ว่ามนุษย์จะเห็นดีก็ตาม –ดูที่มาข้างล่าง
رواه اللالكائي (رقم126)،وابن بطة (205)،والبيهقي في "المدخل إلى السنن"(191)،وابن نصر في "السنة" (رقم70) بسند صحيح كما في "علم أصول البدع" لعلي الحلبي (ص92).،
กลุ่มอนุรักษ์บิดอะฮ มักจะอ้างว่า บิดอะฮไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวทั้งหมด มีสิ่งดีด้วย เรื่องนี้ มาดูคำอธิบายต่อไปนี้ 

#######

#ชี้แจง บังฮาสันจะยกอันเดิมๆมาทำไมครับ. หมดกระสุนแล้วหรา

จากที่บังฮาสันได้ยกคำพูดของอิบนุอุมัรนั้นจะเห็นได้ว่า คำกล่าวของซอฮาบะฮ์ที่เกี่ยวกับบิดอะฮ์นั้น ก็คือบิดอะฮ์ที่อยู่ในความหมายแบบมุฏลัก (مطلق ) ที่อยู่ในความหมายประเภทบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงเท่านั้น และโปรดทำความเข้าใจให้ดี ไม่เช่นนั้น หลักการศาสนาจะขัดแย้งกันเอง แต่ความเป็นจริงแล้วศาสนาอิสลามมีความสมบูรณ์ ไม่มีการขัดแย้งกันเอง แต่ความเข้าใจของผู้ที่อวดรู้บางคนต่างหากที่ไม่เข้าใจหลักการ จึงทำให้โลกมุสลิมวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้

จริงๆมันคือบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลง บิดอะฮ์ที่ไม่มีรากฐานมาจากศาสนา หากผู้ใดเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี เขาย่อมเป็นผู้อ้างว่าท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ไม่ซื่อสัตย์ต่อสาส์นของอัลเลาะฮ์ และบรรดาอุลามาอ์มัซฮับมาลิกีย์ ก็ไม่ได้เข้าใจว่า บิดอะฮ์ ที่อิมามมาลิกกล่าวไว้นั้น หมายถึงบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ที่มาจากบิดอะฮ์วายิบ บิดอะฮ์สุนัต หรือบิดอะฮ์มุบาห์แต่อย่างใด ดังนั้นท่านผู้อ่านพึงพิจารณาให้ดีไว้ใน ณ ที่นี้ด้วย

ท่านอิบนุหะญัร ได้กล่าว วิจารณ์คำกล่าวท่านอุมัร(ร.ฏ.) ที่ว่า نعمت البدعة هذه ดังนี้

البدعة: أصلها ما أحدث على غير مثال سابق، وتطلق في الشرع في مقابل السنّة فتكون مذمومة والتحقيق أنها إن كانت مما يندرج تحت مستحسن فى الشرع فهى حسنة وإن كانت مما يندرج تحت مستقبح فهى مستقبحة وإلا فهى من قسم المباح

ความว่า " บิดอะฮ ที่มาของมันคือ สิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยไม่มีแบบอย่างมาก่อน และคำว่าบิดอะฮ์อย่างเดียว ( مطلق ) (คือพูดโดยใช้คำว่า"บิดอะฮ์"เพียงลำพังตัวเดียว)ในทางบทบัญญัติ ได้ถูกนำมาใช้เรียกกับสิ่งที่ตรงข้ามกับซุนนะฮ์ จึงถือว่าเป็นบิดอะฮ์ที่ถูกตำหนิ จากการตรวจสอบพบว่า บิดอะฮ์นั้น หากมันเข้าไปอยู่ภายใต้สิ่งที่นับว่าดีตามหลักการของศาสนา มันก็คือ (บิดอะฮ์)หะสะนะฮ์(บิดอะฮ์ที่ดี) และหากว่ามันเข้าไปอยู่ภายใต้สิ่งที่ถือว่าน่ารังเกียจ มันก็คือบิดอะฮ์ที่น่ารังเกียจ และถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น(หมายถึงไม่เป็นทั้งบิดอะฮ์ทั้งสองประเภท) ก็ถือว่า มันเป็น ประเภทที่มุบาห์" ( ดู ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 4 หน้า 253)
Asan Binabdullah เสร็จหริอยังครับท่าน 3 ชั่วโมงแล้วครับ
Asan Binabdullah ผมขออนุญาตประธานโพสต์ต่อแล้วนะครับ ผมรอ 3 ชั่วโมงกว่าแล้ว คุณตาชัง โพสต์แช่ แล้วไป โดยไม่บอกคูเสวนาให้โพสต์ต่อ เป็นการถ่วงเวลาไม่ให้คู่เสวนาโพสต์ ผมรอมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า จน 9 โมง แก่ยังไม่เสร็จ ทวงถามทางอินบอ็กก็เงียบ แบบนี้แย่มาก ลูกเล่นมากเกิน............แยกมากๆ
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม #อ้างอิงจากบังฮาสัน...

-ฟะตาวาอิหม่ามอัชชาฏิบีย์ 180-181

ท่านนบี ศอ็ลฯ เป็นผู้พูดเองว่าทุกบิดอะฮคือการหลงผิด การยกเว้นในสิ่งที่กล่าวโดยรวม มันเป็นหน้าของผู้พูด คือนบี ไม่ใช่ความเห็น
จากรายละเอียดข้างต้น จึงสรุปได้ว่า ในศาสนบัญญัติ ไม่มีบิดอะฮที่ดี และ ผู้ที่ตัดสินว่าดีและเลวในเรื่องศาสนาด้วยเหตุผลทางปัญญา นั้น คือชาวบิดอะฮ
ส่วนการแบ่ง บิดอะฮเป็น 5 ประเภทนั้น
อิหม่ามชาฏิบีย์ตอบโต้ดังนี้
إن هذا التقسيم أمر مخترع، لا يدل عليه دليلْ شرعي، بل هو في نفسه متدافع، لأن من حقيقة البدعة أن لا يدل عليها دليل شرعي، لا من نصوص الشرع،
แท้จริง การแบ่งนี้ เป็นสิ่งที่ถูกประดิษบ์ขึ้นใหม่ ไม่มีหลักฐานแห่งศาสนบัญญัติ แสดงบอกบนมัน ยิ่งไปกว่านั้นในตัวของมัน ขัดแย้งกันเอง เพราะส่วนหนึ่งจากแก่นแท้ของบิดอะฮ คือ แท้จริง ไม่มีหลักฐานทางศาสนบัญญัติแสดงบอกบนมัน ,ไม่มีจากบรรดาตัวบทแห่งบทบัญญัติ – อัลเอียะติศอม 1/246
***************************

#ชี้แจง บังฮาสันจะยกทรรศนะอุลามที่เห็นต่างในการนิยามบิดอะห์ มันฮุกมเขาตกนรกทำไมครับ ในเมื่อมันคือนิยามของอุลามะที่เป็นทรรศนะด้วยกัน มิใช่หลักฐานกรุอ่านและฮาดิษ....
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม อิมาม อัลอิซฺซุดดีน บิน อับดุสลาม เสียชีวิตปี 660 ฮ.ศ.

ท่านกล่าวว่า "บิดอะฮ์คือสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนในยุคสมัยของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) และมันก็ถูกแบ่งออกเป็น บิดอะฮ์วายิบ บิดอะฮ์หะรอม บิดอะฮ์สุนัต บิดอะฮ์มักโระฮ์ และบิดอะฮ์มุบาห์"


และวิถีทางที่จะทราบถึงสิ่งดังกล่าวก็คือ การนำเอาบิดอะฮ์ไปวางไว้บนหลักเกนฑ์ต่าง ๆ ของชาริอะฮ์ (เกาะวาอิดอัชชะรีอะฮ์) เพราะถ้าหากบิดอะฮ์ได้เข้าไปอยู่ในหลักการต่าง ๆ ที่เป็นวายิบ มันก็เป็นบิดอะฮ์วายิบ และหากมันเข้าไปอยู่ในหลักการที่หะรอม ก็เป็นบิดอะฮ์หะรอม และหากมันเข้าไปอยู่ในหลักการต่าง ๆ ที่สุนัต ก็เป็นบิดอะฮ์ที่สุนัต และถ้าหากมันเข้าไปอยู่ในหลักการที่มักโระฮ์ ก็เป็นบิดอะฮ์มักโระฮ์ และถ้าหากมันเข้าไปอยู่ในหลัการที่มุบาห์ ก็เป็นบิดอะฮ์มะบาห์

ตัวอย่างบิดอะฮ์วายิบ เช่น

(1) การศึกษาวิชานะฮู (ไวยกรณ์ภาษาอาหรับ) เพื่อให้เข้าใจคำตรัสของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) และคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) และดังกล่าวนี้ถือว่าเป็น สิ่งที่จำเป็น(วายิบ) เนื่องจากการรักษาไว้ซึ่งหลักชาริอะฮ์นั้นเป็นสิ่งที่วายิบ และการปกปักษ์รักษาหลักชะรีอะฮ์นั้น จะเกิดขึ้นมาไม่ได้ นอกจากด้วยการรู้จักหรือศึกษาสิ่งดังกล่าว และสิ่งที่วายิบจะไม่สมบูรณ์นอกจากด้วยกับมันนั้น แน่นอน สิ่งนั้นย่อมเป็นสิ่งที่วายิบด้วย

(2) การจดจำถ้อยคำที่เข้าใจยากทางภาษาอาหรับที่มีมาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์

(3) การประพันธ์วิชาอุซูลุลฟิกห์ (วิชาที่ว่าด้วยเรื่องการวิเคราะห์รากฐานของหลักวิชาฟิกห์)

(4) การพิจารณาและวิจารณ์นักรายงาน เพื่อแยกแยะระหว่างสิ่งที่ซอเฮี๊ยะหฺออกจากสิ่งที่ฏออีฟ

ดังนั้น กฏเกนฑ์ต่าง ๆ ของหลักชะรีอะฮ์นี้ ชี้ให้เห็นว่า การปกปักษ์รักษาไว้ซึ่งลักชะรีอะฮ์นั้น เป็นฟัรดูกิฟายะฮ์ในส่วนเสริมจากปริมาณที่จำเป็น ฉะนั้น การปกปักษ์รักษาหลักการของชะรีอะฮ์นั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้ นอกจากสิ่งที่เราได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
Asan Binabdullah เริ่มชง แสดงว่าหมดกระสุน ผมรอมา 3 ชั่วโมงกว่า แทนที่จะให้คู่เสวนาโพสต์ กลับแช่เอาไว้ แย่มาก
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม ตัวอย่างของบิดอะฮ์ที่หะรอม

(1) มัซฮับอัลก๊อดรียะฮ์


(2) มัซฮับอัลญับรียะฮ์

(3) มัซฮับอัลมุรญิอะฮ์

(4) มัซฮับอัล-มุยัสซิมะฮ์ !!! (พวกที่เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีคุณลักษณะคล้ายหรือเหมือนกับมนุษย์และสิ่งที่ถูกสร้าง เช่นพวกเขากล่าวว่า อัลเลาะฮ์ทรงนั่งสัมผัสอยู่บนบัลลังก์ อัลเลาะฮ์มีการเคลื่อนย้ายจากฟากฟ้าชั้นบนมาสู่ชั้นล่าง เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงมีมือที่อยู่ในความหมายที่มนุษย์เข้าใจกันทั่วไป เป็นต้น)

และการป้องกันและโต้ตอบพวกเขาเหล่านั้น เป็นบิดอะฮ์ที่วายิบ

ตัวอย่างของบิดอะฮ์ที่สุนัต

(1) สร้างสถานที่สาธารณูประโยชน์

(2) สร้างสถาบันการศึกษา

(3) สร้างเขื่อน

(4) ทุกความดีที่ไม่มีการกระทำขึ้นในสมัยท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)

(5) การละหมาดตะรอวิหฺ(ตามรูปแบบที่ท่านอุมัรได้สั่งให้กระทำขึ้น)

(6) การกล่าวในเรื่องความละเอียดละออของวิชาตะเซาวุฟ

(7) การพูดถกในการชุมนุม เพื่อการอ้างหลักฐานในประเด็นต่างๆ หากมีเจตนาเพื่ออัลเลาะฮ์ (ซ.บ.)

ตัวอย่างบิดอะฮ์มักโระฮ์

(1) การตบแต่งประดับประดามัสยิดให้สวยงาม

(2) การประดับประดาลวดลายอัล-กุรอาน

(3) การอ่านท่วงทำนองอัล-กุรอานโดยที่ทำให้เปลี่ยนแปลงถ้อยคำต่างๆจากหลักภาษาอาหรับ แต่คำกล่าวที่ถูกต้องที่สุดนั้น เป็นบิดอะฮ์ที่หะรอม

ตัวอย่างบิดอะฮ์มะบาห์

(1) การจับมือหลังจากละหมาดซุบห์ และอัสริ

(2) การทำอาหารและเครื่องดื่มที่มีหลากหลายรสชาติ หลากหลายเครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย การสวมเสื้อคลุม ทำให้แขนเสื้อกว้าง โดยที่บางส่วนจากสิ่งที่ได้กล่าวมานั้น มีความเห็นที่ขัดแย้งกัน บางอุลามาอ์กล่าวว่า บางส่วนนั้นเป็นบิดอะฮ์ที่มักโระฮ์ และบางอุลามาอ์กล่าวว่า มันเป็นซุนนะฮ์ที่ได้ปฏิบัติกันในสมัยท่าน ร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) และยุคสมัยหลังจากนั้น....(ดู หนังสือ ก่อวาอิด อัลอะห์กาม ยุซฺ 2 หน้า 172 - 174)

คำนิยามของ อิมาม ซุลฏอน อัลอุละมาอ์ อิซซุดดีน บิน อับดุสลามนี้ เป็นคำนิยามในเชิงการวินิจฉัยที่พาดพิงไปยังบรรดาหุกุ่ม (ทั้ง 5 ) ตามหลักการศาสนา คือเป็นคำนิยามที่มีความรัดกุมยิ่งในประเด็นดังกล่าว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น