อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

ใครว่า ฮานีมูน เป็นสิ่งที่ผิดหลักการ



ก็ คนสองคน จะไปเที่ยวกัน หลังนิกะห์...(ผิดหรือ) (หยุดยาวด้วย)
ก็ คนสองคน ไม่ได้ไปตามธรรมเนียมความเชื่อของศาสนาอื่น
ก็ คนสองคน ไม่ได้จะไปกินน้ำผึ้งอย่างที่ฝรั่งเค้าทำกัน

เพราะคำว่า ฮานีมูน เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบ่าวสาวสมัยก่อนเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีความเชื่อแต่ประการใด....

บ้างบอกว่า เป็นช่วงแห่งความสำราญใจแรกๆ ของการแต่งงาน
บ้างบอกว่า เป็นช่วงเดือนแรกของชนชั้นสูงในยุโรปมักจะนิยมเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ไม่ได้มาร่วมงานแต่งตามเมืองหรือประเทศต่าง ๆ และถือเป็นการท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายไปในตัวด้วยนั่นเอง

สรุป ฮานีมูน เป็นธรรมเนียมของเขาก็จริง แต่เป็นธรรมเนียมที่ไม่มีความเชื่อมาเกี่ยว แบบนี้ ผิดไหม

เพราะนบีบอกว่า ใครที่เลียนแบบชนกลุ่มไหน เขาก็ย่อมเป็นชนกลุ่มนั่น นั่นเป็นเรื่องการเลียนแบบความเชื่อ ไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติ

โอเค.....

ปล...การขอบคุณอัลลอฮที่เราทั้งสองได้นิกะห์นั่น นั่นเป็นวิสัยของผู้ศรัทธาที่จะต้องปฏิบัติ ซึ่งมันคนละเรื่องกับการฮานีมูน

ใครไปฮานีมูน คนๆนั้น ไปตามธรรมเนียมเขา โดยไม่ทำตามธรรมเนียมของมุสลิม คือการขอบคุณอัลลอฮ (ตรรกะนี้ ไร้สาระนะ)
วัลลอฮุอะลัม

..................................
ชะบ๊าบ ก๊อลบุนสะลีม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น